สืบค้นงานวิจัย
การลดอาการสะท้านหนาวในผลมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้เพื่อการส่งออกด้วย salicylic acid และการตอบสนองทางการต้านอนุมูลอิสระ
นายกอบเกียรติ แสงนิล - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: การลดอาการสะท้านหนาวในผลมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้เพื่อการส่งออกด้วย salicylic acid และการตอบสนองทางการต้านอนุมูลอิสระ
ชื่อเรื่อง (EN): Reducing Chilling Injury in ‘Nam Dok Mai’ Mango Fruit for Export by Salicylic Acid and the Antioxidant Responses
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นายกอบเกียรติ แสงนิล
บทคัดย่อ: อาการสะท้านหนาวเป็นอาการผิดปกติทางสรีรวิทยาที่เกิดจากอุณหภูมิต่ำ มีผลลดคุณภาพผลมะม่วงและคุณภาพการยอมรับของตลาด การเก็บผลมะม่วงที่อุณหภูมิต่ำสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้ แต่อาจทำให้เกิดอาการสะท้านหนาวขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาหาวิธีการป้องกันหรือลดอาการสะท้านหนาวในผลมะม่วงระหว่างเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ การทดลองนี้มุ่งเน้นศึกษาประสิทธิภาพของกรดซาลิซิลิก (salicylic acid, SA) ในการลดอาการสะท้านหนาวและการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพผลและการเกิดอาการสะท้านหนาวของผลมะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์ 4 ระหว่างเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส (?ซ) โดยแบ่งเป็น 3 การทดลอง เพื่อศึกษาผลของ SA ต่อ 1) อาการสะท้านหนาวและคุณภาพผล 2) อนุมูลอิสระและความเสียหายออกซิเดชันของเยื่อหุ้ม และ 3) ระบบต้านอนุมูลอิสระของผลมะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์ 4 ระหว่างเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ นำผลมะม่วงจุ่มลงใน SA ที่ระดับความเข้มข้น 0.1 และ 1 มิลลิโมลาร์ เป็นเวลา 10 นาที แล้วนำไปเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5?1 ?ซ ความชื้นสัมพัทธ์ 90?2 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 42 วัน สุ่มตัวอย่างผลทุกๆ 7 วัน เพื่อวิเคราะห์การตอบสนองต่ออาการสะท้านหนาวของผล พบว่าผลเริ่มแสดงอาการสะท้านหนาวโดยเกิดสีน้ำตาลที่เปลือกผลตั้งแต่วันที่ 21 ของการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 ?ซ และอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นเมื่อเก็บรักษานานขึ้น นอกจากนี้ยังพบอาการรอยบุ๋มที่เปลือกผล และสีน้ำตาลที่เนื้อผลชั้นในสุด แต่เกิดในระดับต่ำตั้งแต่วันที่ 35 และ 42 ของการเก็บรักษา ทั้งนี้ไม่พบอาการสะท้านหนาวในส่วนเนื้อผล การใช้ SA 0.1 และ 1 มิลลิโมลาร์ สามารถลดอาการสะท้านหนาวระหว่างเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 ?ซ ได้ โดยในวันสุดท้ายของการเก็บรักษา (วันที่ 42) มีอาการสะท้านหนาวลดลง 20 และ 70 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ทั้งนี้การใช้ SA ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลขณะเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 ?ซ และคุณภาพของผลสุก อย่างไรก็ตาม ผลที่ได้รับ SA 0.1 และ 1 มิลลิโมลาร์ มีความสว่างของเปลือกผลสูงกว่าผลชุดควบคุมตั้งแต่วันที่ 28-42 ของการเก็บรักษา และสามารถยืดอายุการเก็บรักษาของผลได้นาน 35 และ 42 วัน ตามลำดับ โดยคุณภาพของผลยังเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ในขณะที่ผลชุดควบคุมมีอายุเพียง 21 วันเท่านั้น ทั้งนี้ SA 1 มิลลิโมลาร์ มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดอาการสะท้านหนาวและรักษาคุณภาพของผลระหว่างเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 ?ซ การสร้างและสะสมอนุมูลอิสระ (free radicals) กลุ่ม reactive oxygen species (ROS) ได้แก่ ซุปเปอร์ออกไซด์ เรดิคอล (superoxide radical, O2•?) ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (hydrogen peroxide, H2O2) และไฮดรอกซิล เรดิคอล (hydroxyl radical, OH•) เกิดขึ้นรวดเร็วและเพิ่มขึ้นในส่วนเปลือกและเนื้อผลมะม่วงระหว่างเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 ?ซ ก่อให้เกิดความเสียหายออกซิเดชันของเยื่อหุ้มซึ่งวัดได้จากกิจกรรมของเอนไซม์ไลพอกซีจีเนส (lipoxygenase, LOX) ปริมาณมาลอนไดอัลดีไฮด์ (malondialdehyde, MDA) และการรั่วไหลของประจุ (electrolyte leakage, EL) ที่เพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาการเก็บรักษาทั้งในส่วนเปลือกและเนื้อผล การใช้ SA มีผลลดการสะสมของปริมาณ ROS และลดความเสียหายออกซิเดชันของเยื่อหุ้มของผลระหว่างเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำได้ โดยปริมาณ O2•?, H2O2, OH• และ MDA และกิจกรรมของ LOX และ EL ในส่วนเปลือกและเนื้อของผลที่ได้รับ SA 0.1 และ 1 มิลลิโมลาร์ มีค่าต่ำกว่าผลชุดควบคุมตลอดการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 ?ซ ทั้งนี้ SA 1 มิลลิโมลาร์ มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดความเสียหายออกซิเดชันของเยื่อหุ้มของผลซึ่งสัมพันธ์กับการลดปริมาณ ROS ในระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ กิจกรรมของเอนไซม์คะตะเลส (catalase, CAT) ซุปเปอร์ออกไซด์ ดิสมิวเทส (superoxide dismutase, SOD) และแอสคอร์เบท เปอร์ออกซิเดส (ascorbate peroxidase, APX) ของผลมะม่วงเพิ่มสูงขึ้นและสูงสุดในวันที่ 7, 21 และ 28 ระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 ?ซ ตามลำดับ หลังจากนั้นจึงลดลงเรื่อยๆ ขณะที่ปริมาณกรดแอสคอร์บิค และกลูตาไธโอนทั้งหมดลดลงเรื่อยๆ ตลอดการเก็บรักษา ส่วนปริมาณสารประกอบฟีนอลทั้งหมดและศักยภาพรวมในการต้านอนุมูลอิสระ (total antioxidant capacity, TAC) วิเคราะห์โดยวิธี DPPH และ ABTS เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 21 วันแรก หลังจากนั้นค่อยๆ ลดลง การใช้ SA สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบต้านอนุมูลอิสระทั้งกลุ่มที่เป็นเอนไซม์ และไม่ใช่เอนไซม์ได้ โดยกิจกรรมของ SOD, CAT และ APX และปริมาณสารประกอบฟีนอลทั้งหมด กรดแอสคอร์บิค และกลูตาไธโอนทั้งหมด และ TAC ในส่วนเปลือกและเนื้อของผลที่ได้รับ SA 0.1 และ 1 มิลลิโมลาร์ มีค่าสูงกว่าผลชุดควบคุมตลอดการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ โดย SA 1 มิลลิโมลาร์ มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบต้านอนุมูลอิสระของผลในระหว่างเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ การเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำชักนำการสะสมของอนุมูลอิสระ ROS พร้อมกับชักนำให้มีการเพิ่มขึ้นของระบบต้านอนุมูลอิสระ แต่ประสิทธิภาพของระบบต้านอนุมูลอิสระในผลลดลงเมื่อเก็บรักษาเป็นเวลานานมากกว่า 21 วัน ทำให้มีปริมาณ ROS มากเกินไป ชักนำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเยื่อหุ้มจนส่งผลให้เกิดอาการสะท้านหนาวขึ้นในผลหลังวันที่ 21 ของการเก็บรักษา การใช้ SA สามารถลดอาการสะท้านหนาวได้ และมีผลเพิ่มประสิทธิภาพของระบบต้านอนุมูลอิสระกลุ่มที่เป็นเอนไซม์ (SOD, CAT และ APX) และกลุ่มที่ไม่ใช่เอนไซม์ (สารประกอบฟีนอล กรดแอสคอร์บิค และกลูตาไธโอน) พร้อมกับมีศักยภาพในการกำจัดอนุมูลอิสระ (TAC) สูงขึ้นด้วย ดังนั้นสามารถนำ SA ไปประยุกต์ใช้ในการเพิ่มความทนทานต่ออาการสะท้านหนาว และรักษาคุณภาพของผลมะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์ 4 เพื่อขยายตลาดการส่งออกผลมะม่วงไทยนี้ไปยังยุโรปและอเมริกาซึ่งต้องใช้เวลานานในการขนส่งผลภายใต้สภาพอุณหภูมิต่ำ
บทคัดย่อ (EN): Chilling injury (CI) is a physiological disorder caused by low temperatures that reduces the overall quality and market quality of mangoes. Low temperature storage can extend shelf life of mangoes, which may suffer from CI. So, it is necessary to find the methods for protecting or reducing CI of mango fruit during low temperature storage. In this study, the efficacy of salicylic acid (SA) in reducing CI symptoms and biochemical changes associated with quality and CI development of Nam Dok Mai No. 4 mango fruits stored at 5 ?C were investigated. The research was divided into 3 experiments to study the effect of SA on 1) chilling injury and fruit quality 2) free radical and oxidative membrane damage and 3) antioxidant defense system of mango fruit cv. Nam Dok Mai No. 4 during low temperature storage. Mango fruits were dipped in SA at the concentrations of 0.1 and 1 mM for 10 minutes and stored at 5?1 ?C with 90?2% relative humidity for 42 days. Fruits were randomly sampled every 7 days to determine the response to CI of mangoes. CI symptom was manifested as exocarp browning on Day 21 of storage at 5 ?C and the severity increased with the storage time. Low levels of surface pitting and endocarp browning appeared after storage for 35 and 42 days. Unlike the exocarp, the mesocarp did not show any CI symptoms. Treatments with 0.1 and 1 mM SA reduced CI symptoms significantly at the end of storage (Day 42) by 20 and 70% respectively. SA treatment did not affect fruit quality during storage at 5 ?C and at ripening stage. The fruits treated with 0.1 and 1 mM SA exhibited more brightness of the exocarp during Days 28-42 of storage. The storage life was also prolonged for 35 and 42 days respectively whereas the control fruits could be stored for only 21 days. The 1 mM SA was most effective in reducing CI symptoms and maintaining fruit quality during low temperature storage at 5 ?C. Reactive oxygen species (ROS) such as superoxide radical (O2•?), hydrogen peroxide (H2O2) and hydroxyl radical (OH•) production and accumulation increased rapidly with time in the exocarp and mesocarp of mango fruit cv. Nam Dok Mai No. 4 under storage at 5 ?C. Oxidative membrane damage indicated by lipoxygenase (LOX) activity, malondialdehyde (MDA) content and electrolyte leakage (EL) increased with storage time in the exocarp and mesocarp of mango. SA treatment reduced ROS accumulation and oxidative membrane damage of mango during low temperature storage. The contents of O2•?, H2O2, OH• and MDA, activity of LOX and EL in both exocarp and mesocarp of 0.1 and 1 mM SA treated fruits were lower than those in the control fruits throughout storage time at 5 ?C. The 1 mM SA was most effective in reducing oxidative membrane damage associated with reducing ROS levels during low temperature storage. Catalase (CAT), superoxide dismutase (SOD) and ascorbate peroxidase (APX) activities of mango fruit cv. Nam Dok Mai No. 4 increased and reached the peak at Days 7, 21 and 28 respectively during storage at 5 ?C and then decreased afterwards. Ascorbic acid and total glutathione contents decreased throughout storage time. Total phenolic content and total antioxidant capacity (TAC) analyzed by DPPH and ABTS methods increased during the first 21 days and decreased afterwards. SA treatment enhanced the antioxidant defense system including both enzymatic and non-enzymatic antioxidants. The activities of SOD, CAT and APX and contents of total phenolic compounds, ascorbic acid and total glutathione and TAC in the exocarp and mesocarp of the fruits treated with 0.1 and 1 mM SA were higher than those in the control fruits throughout storage time. The 1 mM SA was most effective in enhancing antioxidant defense system during low temperature storage. Low temperature storage induced ROS accumulation concomitant with increased antioxidant defense system. The capability of the antioxidant defense system in fruits decreased when the storage time was more than 21 days. Excess ROS induced lipid peroxidation and caused oxidative membrane damage resulting in the appearance of CI symptoms after Day 21 of storage. SA treatment reduced CI symptoms and activated the antioxidant defense system including an increase in both enzymatic (SOD, CAT and APX) and non-enzymatic (phenolic compounds, ascorbic acid and glutathione) antioxidants concurrent with a high ROS scavenging capacity (TAC). SA treatment could be applied for the improvement of CI tolerance and maintain the quality of Nam Dok Mai No. 4 mango fruits in order to expand markets to Europe and America where a longer time of transport under low temperature is required.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: อุณหภูมิต่ำ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การลดอาการสะท้านหนาวในผลมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้เพื่อการส่งออกด้วย salicylic acid และการตอบสนองทางการต้านอนุมูลอิสระ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
30 กันยายน 2556
การลดอาการสะท้านหนาวของมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง ก่อนการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ การพัฒนาของรอยผสานของมะม่วง ผลของพารามิเตอร์บางประการต่อการคายน้ำของมะม่วงพันธุ์ แก้ว การศึกษาโรคเปลือกแตกยางไหลของมะม่วง ผลของอุณหภูมิต่ำต่อการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาและชีวเคมี และการชะลออาการสะท้านหนาวของผลชมพู่ บทบาทของเอทิลีนต่ออาการสะท้านหนาวของกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอมทอง ผลของอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และสาร Salicylic acid ต่อการเกิดอาการสะท้านหนาวของพุทรา ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระในผลมะเขือเทศภายหลังการจุ่มน้ำร้อนแล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ ศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างความหวานในเนื้อมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้กับโปรตีนในเปลือกมะม่วงที่มีลักษณะแตกต่างกันตลอดการสุกโดยใช้เทคนิคโปรติโอมิกส์ ศึกษาปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในใบหม่อนพันธุ์ต่างๆ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก