สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์รูปแบบนิวคลีโอไทด์ 3 ตัว (Oligonucleotide Triplets) ในการจำแนกชนิดของไซยาโนแบคทีเรีย
ธิติมา แผ่นยาใหญ่ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์รูปแบบนิวคลีโอไทด์ 3 ตัว (Oligonucleotide Triplets) ในการจำแนกชนิดของไซยาโนแบคทีเรีย
ชื่อเรื่อง (EN): Analysis of Oligonucleotide Triplets for Classification of Cyanobacteria
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ธิติมา แผ่นยาใหญ่
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Thitima Panyayai
บทคัดย่อ: ไซยาโนแบคทีเรียเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถหลากหลายในรูปร่างและแหล่งที่อยู่อาศัยทำให้เกิด ปัญหาการจัดกลุ่มด้วยวีธีที่ใช้ตามปกติ การใช้รูปแบบของนิวคลีโอไทด์ในการจัดกลุ่มเป็นการใช้ ความถี่ของรหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตนั้นๆจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิตได้ ที่ผ่านมา Murata และคณะ (1992) ได้ จัดกลุ่มไซยาโนแบคทีเรียตามจำนวนและตำแหน่งของพันธะคู่ในกรดไขมันของสายไฮโดรคาร์บอน ที่มี 16 คาร์บอนและ 18 คาร์บอนออกเป็น 4 กลุ่ม ในการศึกษานี้โดยวิเคราะห์ยีน 16s rRNAจากไซยา โนแบคทีเรีย 11 ชนิดพบมี oligonucleotide triplets 13 แบบ จาก 41 แบบคิดเป็น 31.7% ที่ใช้จัดกลุ่ม ไซยาโนแบคทีเรียได้เหมือนกับการจัดกลุ่มของ Murata และคณะ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ oligonucleotide triplets 21 แบบคิดเป็น 51.2% แสดงรูปแบบการจัดกลุ่มที่ต่างจาก Murata และคณะ คือ Anabaena variabilis ATCC 29413 ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่ม 2 แต่ในการศึกษาครั้งนี้มักถูกจัดควบคู่ ไปกับกลุ่ม 1 Gloeobacters violaceus PCC 7421 และในการวิเคราะห์ยีนเพิ่มเติม 4 ยีนได้แก่ 16s rRNA, cpcA, cpcB และ desC จากไซยาโนแบคทีเรีย 4 ชนิด ผลการวิเคราะห์พบว่ามี oligonucleotide triplets 2 ลักษณะที่สามารถใช้ในการจัดกลุ่มได้ ซึ่ง oligonucleotide triplets แบบที่ 1 จัดกลุ่มไซยา โนแบคทีเรียออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มละ 2 ชนิด ในขณะที่แบบที่ 2 แยกแบคทีเรียชนิดหนึ่งออกจาก 3 ชนิดที่เหลือ oligonucleotide triplets ที่สามารถจัดกลุ่มได้นั้นพบ oligonucleotide triplets ที่ใช้ได้ 2 ยีนจากยีนทั้งหมด 4 ยีนที่วิเคราะห์ แต่อย่างไรก็ตามจากการศึกษาและการทดลองพบ oligonucleotide triplets ที่สามารถจัดกลุ่มไซยาโนแบคทีเรียได้
บทคัดย่อ (EN): Cyanobacteria or blue-green algae have diverse morphology and habitats. The algae are extensively used in products such as human health, animal feed, pharmaceuticals and cosmetics due to the presence of high proportion of proteins, polysaccharides, vitamins and essential fatty acids. In spite of their widely uses, their classification still poses questions among researchers. Murata et al. (1992) proposed a new classification based on the position and number of double bond in fatty acid produced by the bacteria. This work attempted to investigate the relation between the patterns of the double bond and the nucleotide patterns in 16s rRNA. Among the II organisms used in the study, 13 oligonucleotide triplets (31.7%) showed similar classification as Murata's. Anabaena (group2) was, however, always clustered with Gloeobaeter violaeeus PCC 7421, which contradicted to Murata's results. In another part of the work, the ratios of oligonucleotide triplets among 4 genes (16s rRNA, epeA, epeB and desC) from four cynobacteria species were calculated and used as similarity indices among the bacteria. The results revealed that there were two types of useful oligonucleotide triplets: the first type could divided the 4 groups of bacteria (based on Murata's results) equally into 2 sets, while the other type of oligonucleotide triplets separated one from the rest three groups. Combination of two triplets from the first type or the first and the second type could be used to divide the bacteria into 4 groups as Murata's classification.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=54&RecId=12730&obj_id=36442
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ (EN): Cyanobacterial Oligonucleotide Triplets
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
รายละเอียด: ไซยาโนแบคทีเรียเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถหลากหลายในรูปร่างและแหล่งที่อยู่อาศัยทำให้เกิด ปัญหาการจัดกลุ่มด้วยวีธีที่ใช้ตามปกติ การใช้รูปแบบของนิวคลีโอไทด์ในการจัดกลุ่มเป็นการใช้ ความถี่ของรหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตนั้นๆจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิตได้ ที่ผ่านมา Murata และคณะ (1992) ได้ จัดกลุ่มไซยาโนแบคทีเรียตามจำนวนและตำแหน่งของพันธะคู่ในกรดไขมันของสายไฮโดรคาร์บอน ที่มี 16 คาร์บอนและ 18 คาร์บอนออกเป็น 4 กลุ่ม ในการศึกษานี้โดยวิเคราะห์ยีน 16s rRNAจากไซยา โนแบคทีเรีย 11 ชนิดพบมี oligonucleotide triplets 13 แบบ จาก 41 แบบคิดเป็น 31.7% ที่ใช้จัดกลุ่ม ไซยาโนแบคทีเรียได้เหมือนกับการจัดกลุ่มของ Murata และคณะ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ oligonucleotide triplets 21 แบบคิดเป็น 51.2% แสดงรูปแบบการจัดกลุ่มที่ต่างจาก Murata และคณะ คือ Anabaena variabilis ATCC 29413 ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่ม 2 แต่ในการศึกษาครั้งนี้มักถูกจัดควบคู่ ไปกับกลุ่ม 1 Gloeobacters violaceus PCC 7421 และในการวิเคราะห์ยีนเพิ่มเติม 4 ยีนได้แก่ 16s rRNA, cpcA, cpcB และ desC จากไซยาโนแบคทีเรีย 4 ชนิด ผลการวิเคราะห์พบว่ามี oligonucleotide triplets 2 ลักษณะที่สามารถใช้ในการจัดกลุ่มได้ ซึ่ง oligonucleotide triplets แบบที่ 1 จัดกลุ่มไซยา โนแบคทีเรียออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มละ 2 ชนิด ในขณะที่แบบที่ 2 แยกแบคทีเรียชนิดหนึ่งออกจาก 3 ชนิดที่เหลือ oligonucleotide triplets ที่สามารถจัดกลุ่มได้นั้นพบ oligonucleotide triplets ที่ใช้ได้ 2 ยีนจากยีนทั้งหมด 4 ยีนที่วิเคราะห์ แต่อย่างไรก็ตามจากการศึกษาและการทดลองพบ oligonucleotide triplets ที่สามารถจัดกลุ่มไซยาโนแบคทีเรียได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์รูปแบบนิวคลีโอไทด์ 3 ตัว (Oligonucleotide Triplets) ในการจำแนกชนิดของไซยาโนแบคทีเรีย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2552
การวิเคราะห์ความสำคัญของยีน ORF76 ในไซยาโนแบคทีเรีย Synechococcus PCC7942 การวิเคราะห์ปริมาณเคลนบูเทรอลและซัลบูทามอลในเนื้อสุกร และการวิเคราะห์ปริมาณไรโบฟลาวิน ฟลาวินอะดีนินไดนิวคลีโอไทด์ และฟลาวินโมโนนิวคลีโอไทด์ในเบียร์ โดยเทคนิคไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ลิควิดโครมาโทกราฟี การวิเคราะห์ปริมาณไรโบฟลาวิน, ฟลาวิน อะดีนีน ไดนิวคลีโอไทด์, ฟลาวิน โมโนนิวคลีโอไทด์ เคลนบูเทอรอลและซาลบูทามอลด้วยเทคนิคแคปิลารีอิเลคโทรโฟรีซีส ความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการของกุ้งสกุล Metapenaeus บางชนิดที่พบทางภาคตะวันออกของประเทศไทยโดยการวิเคราะห์ลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีน 16S rRNA และ COI บนไมโทคอนเดรีย การตรวจสอบปริมาณไซยาโนแบคทีเรียไมโครซิสติส แอรูจิโนซาและสารชีวพิษขอ การโคลนและการหาลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีนไคทิเนสจาก Burkholderia cepacia TU09 การทำนายชาติพันธุ์ของประชากรในภาคเหนือของไทย โดยใช้ข้อมูลภาวะพหุสัณฐานของ นิวคลีโอไทด์เดี่ย การกำจัดแคดเมียมโดยการใช้ไซยาโนแบคทีเรียที่ผ่านการตรึงเซลล์และเซลล์อิสระในระบบการเลี้ยงแบบกะ ลักษณะสมบัติของโปรตีนที่จับกับพอลิเอมีนในไซยาโนแบคทีเรีย Synechocystis sp. PCC 6803 ลักษณะสมบัติระดับโมเลกุลของไซยาโนแบคทีเรีย Synechococcus sp. และสาหร่ายขนาดเล็ก Chlorella spp. ที่แยกได้ในประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก