สืบค้นงานวิจัย
การวิจัยเชิงนโยบายการจัดทำคาร์บอนเครดิต และการประเมินความต้องการการใช้น้ำจากการดำเนินการปลูกสร้างสวนยางพารา ระยะที่ 3 ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก 250,000 ไร่
ประเสริฐ ภวสันต์ - สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
ชื่อเรื่อง: การวิจัยเชิงนโยบายการจัดทำคาร์บอนเครดิต และการประเมินความต้องการการใช้น้ำจากการดำเนินการปลูกสร้างสวนยางพารา ระยะที่ 3 ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก 250,000 ไร่
ชื่อเรื่อง (EN): Policy research: Estimating carbon credit and consumptive water use of rubber plantation in accordance with the rubber plantation promotion policy phase 3 in the Northern, Central, and Eastern parts of Thailand, accounting for two hundred fifty thousand rai
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ประเสริฐ ภวสันต์
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ในการจัดท้าโครงการในระยะที่ 2 คือ ศึกษาปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บอยู่ในพืช ยางพาราและพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น ในพื นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ของประเทศไทย และ ปริมาณการใช้น ้าของยางพารา รวมทั งศึกษาศักยภาพของประเทศในการซื อขายคาร์บอนเครดิตจากโครงการ ส่งเสริมการปลูกยางพาราระยะที่ 3 และน้าข้อมูลที่ได้ไปใช้เป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการส่งเสริมการปลูก พืชที่เหมาะสมในแต่ละพื นที่ ผลการศึกษาปริมาณการกักเก็บคาร์บอนของยางพาราที่อายุ 5 - 21 ปี พบว่า ภาคกลางมีการกักเก็บ คาร์บอนสูงที่สุด (1,741 - 154,412 kgCO2e/ไร่) มากกว่าภาคตะวันออก (1,300 - 139,363 kgCO2e/ไร่) และ ภาคเหนือ (1,678 - 80,698 kgCO2e/ไร่) ในขณะที่ภาคอีสานมีค่าการกักเก็บคาร์บอนต่้าที่สุด (2,887 - 59,402 kgCO2e/ไร่) การกักเก็บคาร์บอนของพืชเดิมทุกชนิดที่มีอยู่บนพื นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาค อีสานเท่ากับ 42,673 6,894 9,302 และ 88,415 tCO2e/ปี ตามล้าดับ ยางพารามีความต้องการน ้าตามทฤษฎีสูง กว่าพืชท้องถิ่นเดิม เช่น อ้อย มันส้าปะหลัง ข้าวโพด โดยค่าเฉลี่ยปริมาณความต้องการน ้าของยางพารา อ้อย มัน ส้าปะหลัง ข้าว ข้าวโพด ล้าไย ยูคาลิปตัส และสับปะรด เท่ากับ 2,266 5,955 5,151 835 685 5,425 5,379 และ 855 ลบ.ม./ไร่/ปี ตามล้าดับ ค่าเฉลี่ยปริมาณน ้าฝนใช้การได้ (Green water) ของพืชยางพาราเท่ากับ 5,430 ลบ.ม./ไร่/ปี ขณะที่อ้อยมีค่าเฉลี่ย 5,234 ลบ.ม./ไร่/ปี มันส้าปะหลัง 808 ลบ.ม./ไร่/ปี ข้าวโพด 395 ลบ. ม./ไร่/ปี ข้าว 5,387 ลบ.ม./ไร่/ปี สัปปะรด 849 ลบ.ม./ไร่/ปี ยูคาลิปตัส 5,578 ลบ.ม./ไร่/ปี และล้าไย 966 ลบ. ม./ไร่/ปี จากข้อมูลการส้ารวจพบว่า หากเกษตรกรทั งหมดท้าการเปลี่ยนพื นที่ที่ได้รับการอนุมัติมาเป็นสวน ยางพารา จะมีปริมาณความต้องการน ้าของพืช 454 ล้าน ลบ.ม./ปี ดังนั นถ้ามีการปลูกยางพาราตามที่รัฐบาล อนุมัติ จะพบว่าปริมาณความต้องการน ้าจะเพิ่มขึ น 576 ล้าน ลบ.ม./ปี เมื่อคิดระยะเวลาการขายคาร์บอนเครดิต 20 ปี (พ.ศ. 2177) พบว่า พื นที่ภาคกลางมีปริมาณคาร์บอน เครดิตสะสมมากที่สุด 533 tCO2e/ไร่ รองลงมาได้แก่ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคอีสาน 557, 17 และ 46 tCO2e/ไร่ ตามล้าดับ และส้าหรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของการซื อ-ขายคาร์บอนเครดิต ภาครัฐควรเป็น เจ้าภาพในการยื่นขอและขายคาร์บอนเครดิตจากนโยบายการสนับสนุนการปลูกสวนยางพารา โดยให้ส้านักงาน กองทุนสงเคราะห์การท้าสวนยาง (สกย.) เป็นเจ้าภาพหลัก และขอการสนับสนุนจากองค์การบริหารก๊าซเรือน กระจก (อบก.) หรือหน่วยงานภาคการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ในการจัดท้าเอกสารที่จ้าเป็น นอกจากนี รัฐบาลยังควร สนับสนุนให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่สามารถใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบทดแทนยางสังเคราะห์ได้
บทคัดย่อ (EN): The objectives of this research were to study of greenhouse gas storage in rubber and other crops in the Northern, Central and Eastern regions of the country (including a study in the Northeastern region from Phase 5 ) and water consumption of rubber, including the potential of carbon credits trading from governmental projects to promote the rubber phase 3. All information was then summarized to be the policy recommendations for the promotion of appropriate plants for each area. The result found that amount of carbon uptake in rubber at the age of 1 - 25 years found that Central region provided the highest carbon uptake (1,741 - 154,412 kgCO2e/rai) followed by the East (1,300 - 139,363 kgCO2e/rai) and the Northern (1,678 – 80,698 kgCO2e/rai), while the Northeast had the lowest carbon uptake (2,887 - 59,402 kgCO2e/rai). Carbon uptake of existing plants on the North, Central, East and Northeast was 42,673, 6,894, 9,302 and 88,451 tCO2e/year, respectively. Water requirement (hypothetical situation) of rubber tree is higher than local crops e.g. rice, cassava, sugarcane, corn, longan, eucalyptus, and pineapple. On average rubber water requirement of rubber is 2,266 m 3 /rai/year, sugarcane 5,955 m 3 /rai/year, cassava 5,151 m 3 /rai/year, longan 5,425 m 3 /rai/year, eucalyptus 5,379 m 3 /rai/year, rice 835 m 3 /rai/year, pineapple 855 m 3 /rai/year and corn for animal 685 m 3 /rai/year. Green water of rubber is 5,430 m 3 /rai/year, sugarcane 5,234 m 3 /rai/year, cassava 808 m 3 /rai/year, longan 966 m 3 /rai/year, eucalyptus 5,578 m 3 /rai/year, rice 5,387 m 3 /rai/year, pineapple 849 m 3 /rai/year and corn 395 m 3 /rai/year. The result also found that if all the approved areas were changed for rubber plantation, the total water requirement for the whole areas would be 4 5 4 million m3 /year, adding to the current water requirement (existing crops) approximately 576 million m3 /year. The trading of carbon credits at 20-year period (in the year 2034) showed that the Center has the most accumulated carbon credits of 133 tCO2e/rai followed by the North, East, and Northeast of 117, 57 and 46 tCO2e/rai, respectively. Policy recommendations of carbon credit trading should be that of the governmental agencies to be as hosts to application and trading of carbon credits. Office of the Rubber Replanting Aid Fund (ORRAF) might be the main host and coordination with Thailand Greenhouse Gas Management Organization (TGO) or educational agencies for providing the knowledge support and related document. The government should encourage industries that can use rubber as a raw material replace synthetic rubber.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://elibrary.trf.or.th/project_content.asp?PJID=RDG5650135
เผยแพร่โดย: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
คำสำคัญ: การวิเคราะห์นโยบายการปลูกยางพารา
คำสำคัญ (EN): Policy analysis on Rubber plantation
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิจัยเชิงนโยบายการจัดทำคาร์บอนเครดิต และการประเมินความต้องการการใช้น้ำจากการดำเนินการปลูกสร้างสวนยางพารา ระยะที่ 3 ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก 250,000 ไร่
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
2557
กลุ่มวิจัยยางพารา การศึกษาเบื้องต้นในการส่งถ่ายยีนเข้าสู่ยางพาราด้วยเทคนิค Agrobacterium transformation การเก็บรักษาคัพภะยางพาราในสภาพอุณหภูมิต่ำในหลอดทดลอง การยับยั้งอย่างจำเพาะเจาะจงต่อการแสดงออกของยีน Rubber Elongation Factor (REF) ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโปรตีนก่อภูมิแพ้ในยางพาราด้วยเทคโนโลยีแอนติเซน สำรวจการเลี้ยงสัตว์ในสวนยางภาคใต้ การหมุนเวียนคาร์บอนในสวนยางพารา การวิจัยและพัฒนาศักยภาพยางพาราสำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้เทคโนโลยีการปลูกงาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันตก ปี 2538 การประเมินและอนุรักษ์พันธุกรรมยางพารา สำรวจโรคและศัตรูที่สำคัญทางเศรษฐกิจในสวนยางพาราในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก