สืบค้นงานวิจัย
แนวทางที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์พื้นที่หินปูนที่เกี่ยวข้องกับชุมชนท้องถิ่น : กรณีศึกษาบริเวณเทือกเขาวง-หน้าพระลาน จ
Pennapa Kongtansarasit - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: แนวทางที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์พื้นที่หินปูนที่เกี่ยวข้องกับชุมชนท้องถิ่น : กรณีศึกษาบริเวณเทือกเขาวง-หน้าพระลาน จ
ชื่อเรื่อง (EN): An appropriate guideline for limestone usage relating with local community : a case study at Khao Wong-Na-Phra-Lan area, Saraburi province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Pennapa Kongtansarasit
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์ทรัพยากร หินปูนที่มีความสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่น โดยใช้ฐานทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ ผลกระทบ สิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน บริเวณเขาวง-หน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี คลุม พื้นที่ 4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีปริมาณหินปูนที่ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และก่อสร้าง ประมาณ 603 ล้านตัน เพียงพอต่อการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยศึกษานโยบายของรัฐเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรหินปูน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ปรากฏว่า มีเขตทำเหมืองและอุตสาหกรรมคลุมเนื้อที่ประมาณ ร้อยละ 56 พื้นที่เกษตรกรรมร้อยละ 34 พื้นที่อยู่อาศัยร้อยละ 4 พื้นที่ป่าไม้ร้อยละ 6 จากความ ไม่สมดุลของการใช้พื้นที่ทำให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมกำหนดเขตพื้นที่ห้ามทำเหมืองเพิ่มเติม ในเขตประทานบัตร ซึ่งมีผลช่วยให้พื้นที่ป่าไม้เพิ่มเป็นร้อยละ 20 และลดพื้นที่ทำเหมืองน้อยลง ผลการศึกษาพบว่า ถึงแม้พื้นที่จะมีปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านคุณภาพอากาศ ด้านสุขภาพ ประชาชน และเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการทำเหมืองและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แต่ประชาชนในพื้นที่ ยังยอมรับได้ เนื่องจากมีความคุ้นเคยและได้รับผลประโยชน์จากภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ทั้งนี้ อยากให้รัฐเอาใจใส่เรื่องน้ำ อากาศ สุขภาพ และต้องการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในกิจกรรม เหมืองแร่ เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม จากแนวทางดังกล่าว ผู้ศึกษาจึงได้ทำการประยุกต์ ปรับปรุงและพัฒนา เพื่อจัดทำแนว ทางการใช้ประโยชน์หินปูนที่สัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเสนอให้รับฟังความ คิดเห็น และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ รับรู้ข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งให้ผู้ประกอบการ นำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการป้องกันผลกระทบด้านต่างๆ และภาครัฐควรมีมาตรการใน การจัดสรรค่าภาคหลวงที่ให้ผลประโยชน์อย่างเหมาะสมแก่ชุมชน อีกทั้งสามารถใช้แนวทาง ดังกล่าวไปประยุกต์ในพื้นที่อื่น ซึ่งมีทรัพยากรหินปูนในรูปแบบเดียวกัน
บทคัดย่อ (EN): This research formulates appropriate guidelines for limestone use in the community at Khao Wong-Na Phra Lan, Saraburi Province, Thailand. The study covers 4 square kilometers, focuses on natural resources, environmental impact and public participation. The mineral resource in the area consists of a total of 603 million tones high-grade limestone supplying domestic cement plants and rock aggregate factories. The following basic information and data are reviewed: the state policies, laws and regulations related to limestone resource management, and present land use, which can be classified, based on area coverage, into 56% mining and industrialized area, 34% agriculture area, 4% living area and 6% forestry area. Due to unbalanced land use categorization, and Expert Review committee of the Environmental Impact Evaluation Bureau (Mining Project) has established a measure to introduce a buffer zone to the limestone mines. It is expected to increase the forestry area up to 25%, by reducing the mining area. The study indicates that the major impact of the mines and aggregate factories in this area is air pollution affecting the health of the community. However, by analyzing the existing data as well as local opinion, the environmental impact is considered acceptable. It has been found that the local community has been impressed by and benefited from the mining industry and is familiar with the present environmental condition. Meanwhile, they would like the government and the mining companies to pay more attention to water shortage, air quality and health problems. They would also like to be involved in the decision making process of granting mining concessions as well as sharing in benefits of the mine developers. From this study, the researcher has developed an appropriate guideline for limestone usage relating to the local community, there must be a link between the resource use and local community participation in terms of decision making and environmental functioning. Introducing modern mining and environmental protection technologies, as well as establishing appropriate royalty rates and environmental tax will give grater benefit to the local community and will compromise all stakeholders. This guideline can be applied to other communities that have limestone resources
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3882&obj_id=3924
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Saraburi
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์ทรัพยากร หินปูนที่มีความสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่น โดยใช้ฐานทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ ผลกระทบ สิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน บริเวณเขาวง-หน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี คลุม พื้นที่ 4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีปริมาณหินปูนที่ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และก่อสร้าง ประมาณ 603 ล้านตัน เพียงพอต่อการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยศึกษานโยบายของรัฐเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรหินปูน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ปรากฏว่า มีเขตทำเหมืองและอุตสาหกรรมคลุมเนื้อที่ประมาณ ร้อยละ 56 พื้นที่เกษตรกรรมร้อยละ 34 พื้นที่อยู่อาศัยร้อยละ 4 พื้นที่ป่าไม้ร้อยละ 6 จากความ ไม่สมดุลของการใช้พื้นที่ทำให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมกำหนดเขตพื้นที่ห้ามทำเหมืองเพิ่มเติม ในเขตประทานบัตร ซึ่งมีผลช่วยให้พื้นที่ป่าไม้เพิ่มเป็นร้อยละ 20 และลดพื้นที่ทำเหมืองน้อยลง ผลการศึกษาพบว่า ถึงแม้พื้นที่จะมีปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านคุณภาพอากาศ ด้านสุขภาพ ประชาชน และเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการทำเหมืองและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แต่ประชาชนในพื้นที่ ยังยอมรับได้ เนื่องจากมีความคุ้นเคยและได้รับผลประโยชน์จากภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ทั้งนี้ อยากให้รัฐเอาใจใส่เรื่องน้ำ อากาศ สุขภาพ และต้องการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในกิจกรรม เหมืองแร่ เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม จากแนวทางดังกล่าว ผู้ศึกษาจึงได้ทำการประยุกต์ ปรับปรุงและพัฒนา เพื่อจัดทำแนว ทางการใช้ประโยชน์หินปูนที่สัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเสนอให้รับฟังความ คิดเห็น และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ รับรู้ข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งให้ผู้ประกอบการ นำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการป้องกันผลกระทบด้านต่างๆ และภาครัฐควรมีมาตรการใน การจัดสรรค่าภาคหลวงที่ให้ผลประโยชน์อย่างเหมาะสมแก่ชุมชน อีกทั้งสามารถใช้แนวทาง ดังกล่าวไปประยุกต์ในพื้นที่อื่น ซึ่งมีทรัพยากรหินปูนในรูปแบบเดียวกัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
แนวทางที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์พื้นที่หินปูนที่เกี่ยวข้องกับชุมชนท้องถิ่น : กรณีศึกษาบริเวณเทือกเขาวง-หน้าพระลาน จ
Pennapa Kongtansarasit
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
ศักยภาพป่าชุมชนเพื่อการใช้ประโยชน์ของชุมชน ตำบลแม่ทราย อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ การประเมินแนวทางการประยุกต์ใช้พลังงานหมุนเวียนที่เหมาะสมระดับชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำ : กรณีศึกษาลุ่มน้ำแม่กลาง แนวทางส่งเสริมเพิ่มศักยภาพการจัดการวิสาหกิจชุมชน กรณีศึกษา : พื้นที่บางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ การวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมและวัฒนธรรมการเกษตร : กรณีศึกษา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม การใช้ประโยชน์ที่ดินและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของภาคเกษตรกรรม ในพื้นที่ขยายตัวของกรุงเทพมหานคร กรณีศึกษา : จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การใช้แห่งสารสนเทศของเกษตรกรในชุมชนที่มีการพัฒนาการเกษตรแบบยั้งยืนเพื่อการพึ่งพาตนเองในชุมชนท้องถิ่นบุรีรัมย์ ความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินกับสมดุลน้ำในพื้นที่ชุ่มน้ำ กรณีศึกษาเขตห้ามล คุณค่าของผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าของชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเฉพาะสามประเทศ การคาดการณ์รูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่แตง จ. เชียงใหม่ การประยุกต์ใช้ภูมิศาสตร์สารสนเทศเพื่อหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเลี้ยงปลาในกระชัง บริเวณรอบเกาะยอ ในทะเลสาบสงขลาตอนนอก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก