สืบค้นงานวิจัย
การแยก การศึกษาคุณลักษณะ และการใช้ประโยชน์เอนไซม์ย่อยโปรตีนจากยางรัก
สาโรจน์ รอดคืน - มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ชื่อเรื่อง: การแยก การศึกษาคุณลักษณะ และการใช้ประโยชน์เอนไซม์ย่อยโปรตีนจากยางรัก
ชื่อเรื่อง (EN): Isolation, Characterization and Application of Proteolytic Enzyme from Calotropis latex
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สาโรจน์ รอดคืน
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้เป็นการแยกเอนไซม์โปรตีเอสจากยางรักโดยใช้เทคนิคการแยกชั้น 2 วิธีคือ ระบบสารละลาย น้ำสองวัฏภาค (ATPS) และระบบสารละลายน้ำสามวัฏภาค (TPP) รวมไปถึงการศึกษาสมบัติทางชีวเคมีของ เอนไชม์ที่แยกได้ สำหรับระบบ ATPS ปัจจัยที่ศึกษาประกอบด้วย โพลีเอธิลีนไกลคอล (PEG) น้ำหนักโมเลกุล 4000 6000 และ 8000 ดาลตัล ที่ความเข้มข้นร้อยละ 9 12 และ 1 5 (โดยน้ำหนัก) เกลือโซเดียมชิเตรท แมกนีเซียมซัลฟต โปแทสเชียมฟอสเฟตและ แอมโมเนียมซัลเฟต ที่ความเข้มข้นร้อยละ 11 14 และ 17 (โดย น้ำหนัก) จากผลการทดลองพบว่าระบบที่ให้ร้อยละผลผลิตสูงสุดคือ ชั้นโพลีเอธิลีนไกลคอล ของระบบซึ่ง ประกอบด้วย PEG-4000 ร้อยละ 12 และเกลือแมกนีเชียมซัลเฟตเข้มข้นร้อยละ 17 และเพื่อเป็นการเพิ่ม ประสิทธิภาพในการแยกได้มีการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการแยกเพิ่มเติมซึ่งได้แก่ พี่เอชของระบบ (4.0 7.0 และ 9.0) รวมถึงการเติมเกลือเพื่อรบกวนระบบ (ร้อยละ 2 4 และ 6) โดยพบว่าที่พี่เอช 4.0 และ 9.0 ทำให้ค่า สัมประสิทธิ์การแยกของเอนไซม์และร้อยละของผลผลิตมีค่าลดลงอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับที่พีเอช 7.0 นอกจากนั้นพบว่าการเติมเกลือในระบบให้มีความเข้มข้นถึงร้อยละ 6 สามารถเพิ่มร้อยละของผลผลิตได้สูงถึง 107 เมื่อคิดเทียบกับชุดที่ไม่มีการเติม จากการกระจายตัวของน้ำหนักโมเลกุลและการย้อมติดสีเอนไซม์พบว่า โปรตีเอสที่แยกได้มีน้ำหนักโมเลกุลประมาณ 38 กิโลดาลตัล อย่างไรก็ตามเอนไซม์ที่แยกได้จะไม่มีความเสถียร ในสภาวะที่มีสารรีดิวชิง ((ME)นอกจากนั้นยังพบอีกว่าภายใต้สภาวะอิเส็คโตรโฟเรชิสแบบประจุบวก โปรตีเอส จากยางรักแสดงรูปแบบของโปรตีนเช่นเดียวกับเอนไซม์ปาเปนบริสุทธิ์ ในการหาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการแยกโปรตีเอสด้วยระบบสารละลายน้ำสามวัฏภาคปัจจัยที่ศึกษา ได้แก่ สัดส่วนของสารสกัดหยาบเอนไซม์ต่อบิวทานอล ร้อยละความอิ่มตัวของเกลือแอมโมเนียมซัลเฟต และ รอบการทำช้ำของ TPP ร้อยละของผลผลิตสูงสุด (รอบแรก) ที่ 182 ค่าความบริสุทธิ์ 0.95 เท่าในชั้นกลางของ ระบบซึ่งประกอบด้วยสัดส่วนสารสกัดหยาบเอนไซม์ต่อบิวทานอล 1.0:0.5 เกลือแอมโมเนียมซัลเฟตเข้มข้นร้อยละ 50 การทำซ้ำ TPP รอบที่สองโดยการเพิ่มแอมโมเนียมซัลเฟตให้มีความเข้มข้นถึงร้อยละ 65 (น้ำหนักต่อ ปริมาตร ในชั้นล่งของ TPP รอบแรกซึ่งประกอบด้วยเกลือแอมโนเนียมซัลเฟตร้อยละ 30 และสัดส่วนสาร สกัดหยาบต่อบิวทานอลที่ 1.0:0.5 พบว่าสามารถทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ132 รูปแบบของโปรตีนและ กิจกรรมการย่อยสับสตรทแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการแยกโปรตีเอสจากยางรักด้วยระบบ TPP โดย น้ำหนักโมเลกุลของโปรตีเอสตัวหลักที่พบมีค่ประมาณ 28 กิโลดาลตัล ผลจากการศึกษาในครั้งนี้ให้ผลเป็นที่ น่าสนใจโดยสามารถประยุกต์ใช้ทคนิคการแยกชั้นเป็นขั้นตอนเบื้องต้นในการทำบริสุทธิ์สารเปรียบเทียบกับวิธีที่ มีการใช้อยู่
บทคัดย่อ (EN): The protease from the latex of Calotropis procera was isolated by an aqueous two-phase system (ATPS; 18% PEG 1000 containing 14% MgSO4) and then applied to hydrolyze muscle proteins. The degradation of myofibrillar proteins observed by SDS-PAGE (myosin heavy chain: MHC and actin: AC) of farmed giant catfish was higher than that of beef and squid muscles as indicated by the degradation proteins with lower molecular weight. In addition, crude enzyme extract from C. procera latex was also conducted in order to tenderize muscle foods pork, beef, and chicken The muscle samples were marinated with distilled water control and 0.05, 0.1, 0.2, 0.3 and 0.5% w/w of crude enzyme extract powder for 60 min at 4oC before subjected to quality monitoring. A decrease in moisture content was observed when the crude enzyme extract was added. Firmness and toughness of the muscle samples significantly decreased with the increased addition of crude enzyme extract p0.05 An increasing in protein solubility and TCA-soluble peptides content was observed in all of the treated samples. The electrophoresis pattern of the muscle treated samples also revealed extensive proteolysis occurring in each muscle type. The last investigation was compared the efficiency of different proteases to C. procera latex protease. The samples were treated with 4 proteases; C. procera latex, papaya latex, papain and bromelain. Changes of muscle properties were monitored after 24 h of 4 C aging. Decrease of muscle pH on chicken, giant catfish and pork was observed when enzymes was added (p<0.05). Significantly increases of collagen solubility were also found in all muscle samples. An increase in TCA-soluble peptides, and myofibrillar protein degradation were observed in all enzyme treated samples (p<0.05). At the microstructural level, tissue fibers were broken, and the connections between the sarcolemma and the myofibrils were loosen when each enzyme was applied. Comparing to all proteolytic enzymes used papaya latex proteases showed the highest hydrolysis activity to all muscle types followed by C. procera latex proteases, commercial papain and bromelain. The results show that the proteolytic enzymes from Calotropis procera latex could be used as an effective meat tenderizer.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
คำสำคัญ: ยางรัก
คำสำคัญ (EN): latex
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การแยก การศึกษาคุณลักษณะ และการใช้ประโยชน์เอนไซม์ย่อยโปรตีนจากยางรัก
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
30 กันยายน 2553
โปรตีนจากแมลงทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค การเพิ่มระดับของโปรตีนของมันสำ ปะหลังโดยใช้ยีสต์ในกระบวนการหมัก การใช้ประโยชน์จากแหนเป็ดเพื่อเป็นแหล่งโปรตีนสำหรับเป็ดเทศกบินทร์บุรี การศึกษาคุณลักษณะของไหมลูกผสมชั่วแรก การผลิตและการใช้ประโยชน์จากบอระเพ็ด การศึกษาสมบัติทางเคมีและกายภาพของยางรักและการใช้ประโยชน์ : พื้นที่ ตำบลสะลวง-ขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การศึกษาคุณลักษณะของไหมพันธุ์จีนพันธุ์ใหม่ การศึกษาคุณลักษณะของไหมพันธุ์แท้ที่เกิดจากกรรมวิธี การสร้างพันธุ์แท้ที่ต่างกัน การศึกษาคุณลักษณะของไหมพันธุ์แท้ที่เกิดจาก กรรมวิธีการสร้างพันธุ์ที่ต่างกัน ศึกษาบทบาทหน้าที่ของโปรตีน 14-3-3 ในกุ้ง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก