สืบค้นงานวิจัย
การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อการจัดตั้งกองทุนออมทรัพย์ในกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพื้นที่โครงการส่วนป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ จังหวัดราชบุรี
สมชาย ดวงสวัสดิ์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ชื่อเรื่อง: การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อการจัดตั้งกองทุนออมทรัพย์ในกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพื้นที่โครงการส่วนป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ จังหวัดราชบุรี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สมชาย ดวงสวัสดิ์
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจในเรื่องระบบการออม ทรัพย์ และการจัดตั้งระบบการออมทรัพย์ระหว่างผู้วิจัยกับกลุ่ม ผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเงิน มีการศึกษา ความพึงพอใจของกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ที่มีต่อการดำเนิน งานของทุนออมทรัพย์ หลังจากมีการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์แล้ว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม โครงการพระราชดำริ จำนวน 4 หมู่บ้าน ในตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี รวมทั้งสิ้น 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ หลักสูตรการจัดการฝึกอบรม เรื่อง ระบบการออมทรัพย์และเครื่องมือวัดผล ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่อง ระบบการออมทรัพย์ แบบวัดความ เชื่ออำนาจในตนแบบสอบถามการยอมรับนวัตกรรมการออมทรัพย์ แบบสังเกตพฤติกรรมแบบมีส่วนร่วม และแบบวัดความพึงพอใจต่อระบบการออมทรัพย์ การเก็บรวบรวมข้อมูลมี 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การมีส่วนร่วม ผู้วิจัยร่วมกับกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จัด เสวนาในรูปแบบเวทีชาวบ้าน ใช้เครื่องมือและวิธีการ คือ แบบ สัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ขั้นตอนที่ 2 การปฏิบัติการ ผู้วิจัย ใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการเลือกกิจกรรม ซึ่งได้จากการประชุม เสวนากลุ่ม และนำข้อมูลที่ได้รับจัดทำหลักสูตรเพื่อฝึกอบรม เรื่อง ระบบการออมทรัพย์ ใช้เวลา จำนวน 2 วัน 1 คืน ซึ่งวัดผล สัมฤทธิ์ และแบบสอบถามต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือในการวิจัยดัง กล่าวมาแล้ว จากนั้นรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มออม ทรัพย์ และการดำเนินการของกลุ่มด้วยการสัมภาษณ์ และสังเกตแบบมี ส่วนร่วมในการเสวนาและจัดเวทีชาวบ้าน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การ แจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ (Persentage(%)) ค่ามัชฌิมเลขคณิตศาสตร์ X และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) ใช้การทดสอบสมมุติฐานด้วยค่า สถิตทดสอบที (t-test) แบบกลุ่มสัมพันธ์กัน (Dependent Sample) และการใช้การสังเคาะห์เนื้อหา (Content Analysis) จากผลการ เสวนาและจัดเวทีชาวบ้าน ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาสำคัญที่สุดของ สมาชิกทุคนในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม คือ เรื่อง การเงิน ซึ่ง กลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงมามีความเห็นสอดคล้องกันว่า ควรจะมี เงินออมทรัพย์และต้องการให้มีการฝึกอบรมเพื่อให้เข้าในการออม ทรัพย์ ทั้งนี้ สถานภาพของสมาชิกทั้งหมดเป็นเพศหญิง มีอายุอยู่ ในระหว่าง 31 - 51 ปี และสมรสแล้ว ส่วนใหญ่จบการศึกษาภาคบังคับ คือ ประถมศึกษา และมีสมาชิกในครัวเรือนที่สามารถช่วยกันเลี้ยง ไหมได้ อยู่ระหว่าง 3.5 คน สมาชิกส่วนใหญ่มีรายจ่ายต่อปีมาก กว่ารายได้ ทำให้สมาชิกทั้งหมดยังมีหนี้สินอยู่ ด้านความ รู้ความเข้าในในเรื่อง ระบบการออมทรัพย์ของสมาชิกกลุ่มผู้ปลูก หม่อนเลี้ยงไหม หลังจากการฝึกอบรมแล้ว พบว่าผู้เข้าร่วมการ ฝึกอบรมมีวามรู้ความเข้าใจระบบการออมทรัพย์สูงกว่าก่อนการ ฝึกอบรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สมาชิกกลุ่มปลูก หม่อนเลี้ยงไหมมีความเชื่อในตนอยู่ในระดับปานกลาง คือ จะดูผล ของการกระทำจากสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกตนเอง ซึ่งเป็นผลดี ต่อการให้การยอมรับนวัตกรรมการออมทรัพย์ สูงกว่าก่อนการฝึกอบรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตทีระดับ .05 ซึ่งผลจากการเข้าสังเกตแบบ มีส่วนร่วมของผู้วิจัยต่อการดำเนินงานในระบบการออมทรัพย์ของสมาชิกผู้ปลูกหม่อนเลี้ยง ไหม พบว่ากลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมสามารถคัดเลือกสมาชิกใน กลุ่ม เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารงานด้านการออมทรัพย์ได้เป็น อย่างดี อีกทั้งมีการร่างระเบียบข้อบังคับ โดยสมาชิกทุกคนให้ ความเห็นชอบ และเมื่อการออมทรัพย์ผ่านไปแล้ว 10 เดือน มีเงิน กองทุนสะสม 433,646 และสมาชิกกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม มี ความพึงพอใจต่อระบบการออมทรัพย์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดีโดยมี ค่าเฉลี่ยรวมในระดับมาก
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=10&RecId=249&obj_id=1280
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
คำสำคัญ: วิทยานิพนธ์
คำสำคัญ (EN): 334.7
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
รายละเอียด: การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจในเรื่องระบบการออม ทรัพย์ และการจัดตั้งระบบการออมทรัพย์ระหว่างผู้วิจัยกับกลุ่ม ผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเงิน มีการศึกษา ความพึงพอใจของกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ที่มีต่อการดำเนิน งานของทุนออมทรัพย์ หลังจากมีการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์แล้ว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม โครงการพระราชดำริ จำนวน 4 หมู่บ้าน ในตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี รวมทั้งสิ้น 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ หลักสูตรการจัดการฝึกอบรม เรื่อง ระบบการออมทรัพย์และเครื่องมือวัดผล ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่อง ระบบการออมทรัพย์ แบบวัดความ เชื่ออำนาจในตนแบบสอบถามการยอมรับนวัตกรรมการออมทรัพย์ แบบสังเกตพฤติกรรมแบบมีส่วนร่วม และแบบวัดความพึงพอใจต่อระบบการออมทรัพย์ การเก็บรวบรวมข้อมูลมี 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การมีส่วนร่วม ผู้วิจัยร่วมกับกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จัด เสวนาในรูปแบบเวทีชาวบ้าน ใช้เครื่องมือและวิธีการ คือ แบบ สัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ขั้นตอนที่ 2 การปฏิบัติการ ผู้วิจัย ใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการเลือกกิจกรรม ซึ่งได้จากการประชุม เสวนากลุ่ม และนำข้อมูลที่ได้รับจัดทำหลักสูตรเพื่อฝึกอบรม เรื่อง ระบบการออมทรัพย์ ใช้เวลา จำนวน 2 วัน 1 คืน ซึ่งวัดผล สัมฤทธิ์ และแบบสอบถามต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือในการวิจัยดัง กล่าวมาแล้ว จากนั้นรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มออม ทรัพย์ และการดำเนินการของกลุ่มด้วยการสัมภาษณ์ และสังเกตแบบมี ส่วนร่วมในการเสวนาและจัดเวทีชาวบ้าน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การ แจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ (Persentage(%)) ค่ามัชฌิมเลขคณิตศาสตร์ X และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) ใช้การทดสอบสมมุติฐานด้วยค่า สถิตทดสอบที (t-test) แบบกลุ่มสัมพันธ์กัน (Dependent Sample) และการใช้การสังเคาะห์เนื้อหา (Content Analysis) จากผลการ เสวนาและจัดเวทีชาวบ้าน ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาสำคัญที่สุดของ สมาชิกทุคนในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม คือ เรื่อง การเงิน ซึ่ง กลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงมามีความเห็นสอดคล้องกันว่า ควรจะมี เงินออมทรัพย์และต้องการให้มีการฝึกอบรมเพื่อให้เข้าในการออม ทรัพย์ ทั้งนี้ สถานภาพของสมาชิกทั้งหมดเป็นเพศหญิง มีอายุอยู่ ในระหว่าง 31 - 51 ปี และสมรสแล้ว ส่วนใหญ่จบการศึกษาภาคบังคับ คือ ประถมศึกษา และมีสมาชิกในครัวเรือนที่สามารถช่วยกันเลี้ยง ไหมได้ อยู่ระหว่าง 3.5 คน สมาชิกส่วนใหญ่มีรายจ่ายต่อปีมาก กว่ารายได้ ทำให้สมาชิกทั้งหมดยังมีหนี้สินอยู่ ด้านความ รู้ความเข้าในในเรื่อง ระบบการออมทรัพย์ของสมาชิกกลุ่มผู้ปลูก หม่อนเลี้ยงไหม หลังจากการฝึกอบรมแล้ว พบว่าผู้เข้าร่วมการ ฝึกอบรมมีวามรู้ความเข้าใจระบบการออมทรัพย์สูงกว่าก่อนการ ฝึกอบรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สมาชิกกลุ่มปลูก หม่อนเลี้ยงไหมมีความเชื่อในตนอยู่ในระดับปานกลาง คือ จะดูผล ของการกระทำจากสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกตนเอง ซึ่งเป็นผลดี ต่อการให้การยอมรับนวัตกรรมการออมทรัพย์ สูงกว่าก่อนการฝึกอบรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตทีระดับ .05 ซึ่งผลจากการเข้าสังเกตแบบ มีส่วนร่วมของผู้วิจัยต่อการดำเนินงานในระบบการออมทรัพย์ของสมาชิกผู้ปลูกหม่อนเลี้ยง ไหม พบว่ากลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมสามารถคัดเลือกสมาชิกใน กลุ่ม เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารงานด้านการออมทรัพย์ได้เป็น อย่างดี อีกทั้งมีการร่างระเบียบข้อบังคับ โดยสมาชิกทุกคนให้ ความเห็นชอบ และเมื่อการออมทรัพย์ผ่านไปแล้ว 10 เดือน มีเงิน กองทุนสะสม 433,646 และสมาชิกกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม มี ความพึงพอใจต่อระบบการออมทรัพย์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดีโดยมี ค่าเฉลี่ยรวมในระดับมาก
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อการจัดตั้งกองทุนออมทรัพย์ในกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพื้นที่โครงการส่วนป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ จังหวัดราชบุรี
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
2549
ทางเลือกที่เหมาะสมของผู้ส่งออกเครื่องนุ่งห่มไทยในการใช้ประโยชน์จากกฎแหล่งกำเนิด สินค้าที่ไทยทำความตกลงการค้ากับต่างประเทศ ลักษณะทางจุลกายวิภาคของอวัยวะสืบพันธุ์ของม้าน้ำ Hippocampus kuda (Bleeker) วัย 8 เดือน จากห้องปฏิบัติการ ผลของปัจจัยในการเพาะเลี้ยงบางประการต่อการผลิตไฟโคไซยานินจากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินทนร้อน Synechococcus spp. ผลของกระบวนการแปรรูปด้วยความร้อนต่อสารแอนติออกวิแดนต์ ของผลหม่อนในน้ำเชื่อมในขวดบรรจุภัณฑ์ทนร้อนชนิดอ่อนตัว รายงานการวิจัยเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและเครื่องดื่มกรณีศึกษา : ผลิตภัณฑ์กะปิ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเสาเภาสามัคคี เลขที่ 43 หมู่ 2 ตำบลเสาเภา อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานการวิจัยเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม กรณีศึกษา : ผลิตภัณฑ์กะปิผัดหมูสับ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเสาเภาสามัคคี เลขที่ 48 หมู่ 2 ตำบลเสาเภา อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมรา การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลในชุมชนชายฝั่งทะเล ตำบลเกาะเปริด อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี การเปรียบเทียบคุณภาพเนื้อขิงโคขาวลำพูนและลูกผสมบราห์มันที่เลี้ยงด้วยหญ้าแพงโกล่าสด การตอบสนองของหม่อนต่อไนโตรเจนและน้ำ การประเมินผลการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำในเขตโครงการชลประทานตราด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก