จากผลการดำเนินงานในปีแรกได้ผลการศึกษาความสัมพันธ์ของความเข้มข้นของธาตุอาหารในใบปาล์มกับการเจริญเติบโตและผลผลิตปาล์มน้ำมันซึ่งพบว่า จำนวนผลผลิตทะลายปาล์มสะสม มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับปริมาณฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และโบรอนในใบ โดยที่ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมร่วมกับโบรอนนั้น ส่งเสริมการเจริญเติบโตของลำต้นและการติดทะลาย ส่วนอัตราปุ๋ยไนโตรเจนที่เพิ่มขึ้นจะส่งเสริมทำให้การดูดใช้ธาตุเหล่านี้โดยเฉพาะโบรอนได้ดีขึ้นและส่งผลต่อผลผลิตปาล์มให้สูงขึ้น สำหรับผลการศึกษาเพื่อวิเคราะห์ปัญหาที่เป็นข้อจำกัดในการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน พบว่า ต้องจัดการความเป็นกรดจัดของดิน ซึ่งจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของรากปาล์มน้ำมัน และการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตของปาล์มน้ำมัน และเป็นการลดอิทธิพลความเป็นพิษของอะลูมินัม สำหรับสมบัติอื่น ๆ ของดินอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี และสามารถจัดการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ นอกจากนี้ ผลจากการวิเคราะห์ใบปาล์มน้ำมัน พบว่า ปาล์มน้ำมันจะขาดความสมดุลของธาตุอาหารโพแทสเซียมได้ง่าย เนื่องจากมีค่าวิเคราะห์ของโพแทสเซียมในใบปาล์มน้ำมันใกล้เคียงกับค่าวิกฤติ สำหรับธาตุอาหารอื่น ไม่มีค่าที่แสดงว่าวิกฤติ ส่วนการศึกษาสมบัติของของเสียจากอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ได้แก่ ขี้เถ้าปาล์ม และถ่านชีวภาพจากเส้นใยผล เส้นใยทะลายและกะลาปาล์ม และวัสดุทะลายปาล์มที่เหลือจากการเพาะเห็ด พบว่า วัสดุดังกล่าวมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งในการใช้เป็นวัสดุปรับปรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชทางการเกษตร รวมถึงการขยายผลในเชิงพาณิชย์ด้วย<-o-p><-span><-p>

          ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้คือ ได้องค์ความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของดินที่ใช้ในการปลูกปาล์มน้ำมันนำมาสู่การจัดการดินและธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีการจัดการธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรองและจุลธาตุอาหารในดินที่ใช้ปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อลดต้นทุนการผลิต อีกทั้งสามารถแก้ปัญหาการหยุดหรือการเจริญเติบโตช้าของรากและต้นปาล์มน้ำมันได้อย่างตรงจุด รวมถึงเข้าใจคุณสมบัติของของเสียจากปาล์มและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด<-o-p><-span><-p>