สืบค้นงานวิจัย
โครงการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานพลุสารดูดความชื้น สูตร "แคลเซียมคลอไรด์" และ "โซเดียมคลอไรด์" เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการฝนเมฆอุ่น
รศ.ดร.ลี่ลี อิงศรีสว่าง - กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานพลุสารดูดความชื้น สูตร "แคลเซียมคลอไรด์" และ "โซเดียมคลอไรด์" เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการฝนเมฆอุ่น
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รศ.ดร.ลี่ลี อิงศรีสว่าง
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการโครงการความร่วมมือ ด้านการวิจัยและพัฒนาเทดโนโลยีฝนหลวง ร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ในแผนงานพัฒนาสารฝนหลวง และอุปกรณ์ในการปฏิบัติการฝนหลวง โครงการวิจัยและพัฒนาพลุสารดูดความชื้นสูตรแคลเชียมคลอไรด์ เพื่อเสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น ปี 2553 ณ ฐานปฏิบัติการกองบิน 4 อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม ถึง 12 กันยายน 2553 โดยใช้เครื่องบินโจมตีธุรการแบบที่ 2 (AU-23A) ของกองทัพอากาศใน การปฏิบัติการฝนหลวง ในการทดสอบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบผลของพลุสารดูดความชื้น สูตรร้อน "แคลเซียมคลอ ไรด์" และสูตรแกน "โซเดียมคลอไรด์" ที่มีต่อการเพิ่มปริมาณและการกระจายของฝน เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการฝนหลวง เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 ได้มีการประชุมวางแผนปฏิบัติการร่วมและกำหนดหน้าที่การปฏิบัติการประจำวัน โดย นายวราวุธ ขันติยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร และ น.อ. นิมิต ใคร่กระโทก รองผู้อำนวยการ กองปฏิบัติกิจพิเศษ กรมยุทธการทหารอากาศ กองทัพอากาศ และนางรัชนีวรรณ ตาฬุมาศสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญ การพิเศษ หัวหน้าโครงการฯ นักวิชาการฝนหลวง นักบินฝนหลวง นักบินกองทัพอากาศ และผู้เกี่ยวข้อง โดยเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2553 คณะผู้บริหารได้ตรวจเยี่ยมและร่วมกันสรุปผลการทดสอบพลุสารดูดความชื้นสูตร "แคลเซียมคลอไรด์" และ"โซเดียมคลอไรด์" ณ ห้องประชุมฝูงบิน 402 กองบิน 4 อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ สรุปได้ ดังนี้ 1. สามารถสรุปแนวทางการดำเนินงานและข้อบกพร่องที่จะต้องปรับปรุงให้การปฏิบัติการทำฝนเมฆอุ่นมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผลการปฏิบัติการกับกลุ่มมฆตัวอย่างที่อยู่ในเกณฑ์หน่วยทดลองทำฝนเมฆอุ่น สามารถบินปฏิบัติการ ได้ทั้งหมด 27 วัน จำนวน 52 เที่ยวบิน 90 ชั่วโมง 48 นาที ปฏิบัติการทำฝนกับกลุ่มเมฆทดลอง 50 กลุ่มเมฆ ในการ คัดเลือกกลุ่มเมฆทดลองโดยใช้เครื่องบิน SKA-350 ตรวจวัดเมฆฟิสิกส์ จำนวน 48 เที่ยวบิน 51 ชั่วโมง 50 นาที ปฏิบัติการทำฝนกับกลุ่มเมฆทดลอง 25 กลุ่มเมม เพื่อจะได้วิเคราะห์เปรียบเทียบก่อนและหลังปฏิบัติการทำฝน 2. การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ โดยการใช้พลุสารดูดความชื้น (Hygroscopic Flare) ในการปฏิบัติการฝนหลวง อนุภาคของสารที่เผาไหมั (ควัน ที่ได้จากการจุดพลุสารดูดความชื้น จำนวน 8.582x1023 อนุกาค (เนื้อพลุ 800 กรัมต่อนัด) จะให้สารแคลเซียมคลอไรค์โซเดียมคลอไรด์ ขนาดอนุกาคเฉลี่ย 0.7 ไมครอน ในการทดสอบครั้งนี้ ใช้พลุสารดูดความชื้น แคลเชียมคลอไรด์ จำนวน 103 นัด (จากทั้งหมด 126 นัด และพลุสารดูดความชื้นโซเดียมคลอไรด์ จำนวน 59 นัด (ทั้งหมด 65 นัด ประสิทธิภาพในการใช้งานได้ของพลุฯคิดเป็นร้อยละ 90-91 และสามารถกำหนดจำนวนพลุที่เหมาะสมในการทำฝนเมฆอุ่น 3 นัดต่อ 1 ยอดมฆ และมีรูปแบบการยิงครั้งละนัด โดยพลุสารดูดความชื้นจะใช้ระยะเวลาในการเผาไหม้ เฉลี่ยนัดละ 6 นาที 3. การปฏิบัติการในแต่ละวัน นักวิชาการฝนหลวง นักบินฝนหลวง นักบินกองทัพอากาศ และผู้เกี่ยวข้องร่วมกัน วางแผนการปฏิบัติงาน โดยประสานกับนักวิชาการเมฆฟิสิกส์และนักวิชาการเรดาร์ เพื่อหาพิกัดของกลุ่มเมฆเป้าหมายที่จะ ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จากนั้นนักวิชาการบนเครื่องบิน SKA-350 จะคัดเลือกกลุ่มเมฆทดลองที่อยู่ในเกณฑ์การทำฝน และกำหนดพิกัดการทำฝนร่วมกัน และช่างเครื่องบินจะทำการติดตั้งพลุสารดูดความชื้น "แดลเซียมคลอไรด์" หรือ "โซเดียม คลอไรด์" ที่บริเวณปีกทั้งสองข้างของเครื่องบิน AU-23A ซึ่งเมื่อไปถึงกลุ่มเมฆเป้าหมาย เครื่องบิน SKA-350 จะต้องทำการ ตรวจวัดเมฆ ฟิสิกส์ของกลุ่มเมฆในรูปแบบ Cloud Base Spectra (ที่ระดับเหนือฐานเมฆ 500 ฟุต) และบันทึกข้อมูลไว้ รวมทั้งถ่ายภาพกลุ่มเมฆทดลองก่อนปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อจะได้นำมาเปรียบเทียบกับกลุ่มเมฆทดลองหลังจากที่ทำการจุด พลุสารดูดความชื้นฯ เข้ไปในกลุ่มเมม จากนั้นนักวิชาการหรือนักบินจะเป็นผู้ทำการกดสวิทซ์ เพื่อทำการยิงพสุฯใต้ฐานเมฆ โดยระหว่างที่มีการยิงพสุฯออกไปแล้วนั้น เรดาร์ตรวจกลุ่มฝนของฝนหลวงจะทำการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเมฆ เป้าหมาย ซึ่งทำให้นักวิชาการสามารถนำข้อมูลมาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานของพลุฯ ได้อย่างแม่นยำ และในการ ปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เครื่องบิน AU-23A สามารถใช้งานได้ดี 4. การดำเนินโครงการและปฏิบัติภารกิจจริงในภาคอากาศ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ จึงทำให้ทราบว่าการปฏิบัติการทำฝนโดยนำศักยภาพของแต่ละหน่วยงานมาบูรณาการร่วมกัน จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น นักวิชาการเมฆฟิสิกส์สรุปไว้ว่า จากผลการตรวจวัดเมฆฟิสิกส์พบว่าขนาดเม็ดน้ำที่ระดับฐานเมฆของกลุ่มเมฆที่มีการใช้พลุฯ มีแนวโน้มดีกว่ากลุ่มเมฆที่ไม่มีการใช้พลุฯ จากนักวิชาการทำฝนบนเครื่องบิน AU-23A และจากการวิเคราะห์ข้อมูลเรดาร์ ฝนหลวง สรุปผลได้ว่า การทดสอบปฏิบัติการฝนหลวงด้วยพลุสารดูดความชื้นในสภาวะเมฆอุ่น สามารถเพิ่มปริมาณน้ำฝน และเพิ่มพื้นที่ของการเกิดฝนได้ มีกลุ่มเมฆที่เข้าเงื่อนไขการทำฝนเมฆอุ่นจำนวน 38 กลุ่มเมฆ ในช่วงฤดูฝนจากอิทธิพลของ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ปี 2553 มีพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวง เฉลี่ย 27,500 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท พิจิตร อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี และสิงห์บุรี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://164.115.23.116:8060/Frontend/download?DocumentID=27&fileIndex=0&originalFileName=05%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%20%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%20%E2%80%9C%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%8C.pdf
เผยแพร่โดย: กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
คำสำคัญ: ปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานพลุสารดูดความชื้น สูตร "แคลเซียมคลอไรด์" และ "โซเดียมคลอไรด์" เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการฝนเมฆอุ่น
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
2553
โครงการประยุกต์ผลการวิจัยฝนหลวงในการปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ฝนหลวงประจำภาค การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี โครงการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานพลุสารดูดความชื้น สูตร “แคลเซียมคลอไรด์” เพื่อใช้เสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น โครงการปฏิบัติการวิจัยพลุสารดูดความชื้นเสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น ปี 2557 โครงการการใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม SMMS เพื่อการปฏิบัติการฝนหลวง ของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง โครงการศึกษาและทดสอบกุหลาบสายพันธุ์ใหม่ โครงการการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ลุ่มน้ำวิกฤต กรณีศึกษา ลุ่มน้ำภาคตะวันออก การทดสอบประสิทธิภาพโรงอบยางพลังงานแสงอาทิตย์ การใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม SMMS เพื่อการปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง โครงการย่อยที่ 5 โครงการวิเคราะห์ปริมาณสาร THC ในเฮมพ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก