สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาโมโนโคลนนอลแอนติบอดี และ ชุดตรวจสะดวกใช้ : strip test จำเพาะต่อ Vibrio cholerae สำหรับตรวจการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อม
ศ.ดร.ไพศาล สิทธิกรกุล - มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาโมโนโคลนนอลแอนติบอดี และ ชุดตรวจสะดวกใช้ : strip test จำเพาะต่อ Vibrio cholerae สำหรับตรวจการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อม
ชื่อเรื่อง (EN): Development of monoclonal antibodies immunochromatographic strip tests specific for detection of Vibrio cholerae contamination in agricultural product and environment
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศ.ดร.ไพศาล สิทธิกรกุล
บทคัดย่อ:      สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การพัฒนาโมโนโคลนนอลแอนติบอดี และ ชุดตรวจสะดวกใช้ : strip test จำเพาะต่อ Vibrio cholerae สำหรับตรวจการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อม” แก่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ผลิตโมโนโคลนนอลแอนติบอดี และนำมาพัฒนาเป็นชุดตรวจแบบสะดวกใช้ (Strip test) ทั้งหมด 2 ชุด สำหรับตรวจเชื้อ V. Cholera ทั่วไปทุกสายพันธุ์ 1 ชุด และ V. cholerae สายพันธุ์ก่อโรครุนแรง O1 และ O139 พร้อมกัน 1 ชุด ในการตรวจสอบการปนเปื้อนเชื้อ V. cholerae ในผลิตภัณฑ์อาหาร เกษตร และสิ่งแวดล้อม และในการตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อ V. cholerae  ในมนุษย์      จากการศึกษาวิจัย พบว่า ได้ทำการทดสอบชุดตรวจ Vibrio cholerae 3 ชุดคือ VCO1, VCO139 และ VCG โดยใช้ V. cholerae ใส่ลงในอุจจาระจากผู้ป่วย 1 ตัวอย่างและจากบุคคลปกติ 10 ตัวอย่าง พบว่าในตัวอย่างอุจจาระจากผู้ป่วยให้ผลบวกปลอมชั่วคราวที่ test line (T) ในช่วงเวลา 0-10 นาทีแรกหลังจากแอนติบอดีที่มี colloidal gold เคลื่อนที่ผ่าน control line (C) และผลบวกปลอมจะหายไปในนาทีที่ 15 สำหรับตัวอย่างอุจจาระของคนปกติ 10 ตัวอย่าง สองตัวอย่างให้ผลบวกปลอมในช่วงเวลา 0-10 นาทีแรกเช่นกันและแปดตัวอย่างไม่ให้ผลบวกปลอมแต่อย่างใด จากการแยกแบคทีเรียจากอุจจาระที่ให้ผลบวกปลอมทั้ง 3 ตัวอย่าง ไม่พบ V. cholera และแบคทีเรียชนิดอื่นที่แยกได้ไม่ให้ผลบวกกับชุดตรวจใดๆ สำหรับการทดลองใช้ตัวอย่าง V. cholerae O1 และ O139 ที่ใส่ในอุจจาระจากผู้ป่วยและจากบุคคลปกติหรือบัฟเฟอร์ให้ผลบวกที่ T และไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่ตรวจผล 20 นาที   แต่อย่างไรก็ตามแถบสีที่เกิดขึ้นในตัวอย่างที่มีอุจจาระที่ T และ C จะจางกว่าแถบสีที่ T และ C จากตัวอย่างในบัฟเฟอร์   และจากการเจือจาง V. cholerae ในอุจจาระพบว่าชุดตรวจทั้ง 3 ชุดให้ผลความไวใกล้เคียงกับการเจือจาง V. cholerae ในบัฟเฟอร์หรืออาหารทะเลชนิดต่างๆ   แต่อย่างไรก็ตามการตรวจผลในชุดตรวจที่ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงแถบสีที่ปรากฏจะจางลงมากกว่าแถบสีที่ปรากฏเมื่อตรวจดูที่ 20 นาทีโดยเฉพาะผลบวกที่เจือจาง V. cholerae ต่ำสุดที่ให้ผลบวกจะหายไป การซีดลงของแถบสีคาดว่าอาจเกิดจากเอนไซม์ protease ที่แบคทีเรียจำนวนมากในอุจจาระหลั่งออกมาสลายแอนติบอดีที่จับกับ colloidal gold และที่ขีดบน nitrocellulose membrane      ประโยชน์ที่จะได้รับจากผลงานวิจัย ได้ชุดตรวจสอบการปนเปื้อนเชื้อ V. cholerae สำหรับกรมประมง หน่วยงานต่างๆ และผู้ประกอบการ สามารถใช้ชุดตรวจเพื่อตรวจสอบการติดเชื้อในสัตว์น้ำ และการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ  ได้ นอกจากนี้ หน่วยงานทางการแพทย์ สามารถตรวจวินิจฉัยโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ V. cholerae ในผู้ป่วยทางเดินอาหารได้  
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
คำสำคัญ: Vibrio cholerae
คำสำคัญ (EN): Vibrio cholerae
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
ข้อมูลทรัพยสินทางปัญญา
ประเภทIP ลิขสิทธิ์
รายชื่อสิ่งประดิษฐ์ โครงการการพัฒนาโมโนโคลนอลแอนติบอดี้และชุดสะดวกใช้ : Strip test จำเพาะ Vibriocholeran สำหรับตรวจการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อม
เลขที่คำขอ 296084
วันที่ยื่นคำขอ 2013-08-26 12:00:00
เลขที่ประกาศ
วันที่จดทะเบียน 2016-01-21 12:00:00
เลขที่จดทะเบียน ส.9989
วันที่ประกาศ
สถานะปัจจุบัน เชิงพาณิชย์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาโมโนโคลนนอลแอนติบอดี และ ชุดตรวจสะดวกใช้ : strip test จำเพาะต่อ Vibrio cholerae สำหรับตรวจการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อม
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
25 ตุลาคม 2554
แบบหล่อคอนกรีตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร สถานการณ์เกษตรและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยในปัจจุบัน วิธีลอยกระทงให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตำรับยาสมุนไพรไทยต้านมะเร็งจากฐานข้อมูลคัมภีร์ตำรายาสมุนไพรไทย ปีที่ 3 การสำรวจระดับแอนติบอดีต่อโรคคลามัยเดียในโคเขต1 การสำรวจระดับแอนติบอดีต่อโรคคลามัยเดียในโคเขต 1 การพัฒนาชุดตรวจโรคทริสเตซาในเชิงพาณิชย์ การใช้วัสดุพลอยได้การเกษตรเลี้ยงโค โครงการประเมินระดับความพร้อมของเทคโนโลยีที่เกิดจากผลิตภัณฑ์บนฐานความหลากหลายทางชีวภาพในการพัฒนาไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ การพัฒนาชุดตรวจสารฆ่าแมลงกลุ่มไพรีทรอยด์สังเคราะห์โดยเทคนิค ELISA (ต่อยอดจากปี2556)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก