สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยและพัฒนาการนำไหมดาหลามาใช้ประโยชน์
สุกรรณ ปัญสวัสดิ์ - กรมหม่อนไหม
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยและพัฒนาการนำไหมดาหลามาใช้ประโยชน์
ชื่อเรื่อง (EN): Research and Development to uses Torch Ginger Silkworm
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ในปี 2554 พบผีเสื้อยักษ์ วงศ์ Saturniidae มากินใบและทำรังบนกอดาหลา ในศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ หนองคาย โครงการนี้จึงได้ดำเนินการ เพื่อการวิจัยและพัฒนาการใช้ประโยชน์จากไหมป่าชนิดนี้ ในปี 2557-2559 โดยคัดเลือกดาหลาพันธุ์ดอกสีชมพู (Nk.Pi.2) ที่มีความเหมาะสมต่อการเลี้ยงไหม การวิเคราะห์ธาตุอาหารในใบพบว่า ในใบแก่มีคาร์โบไฮเดรต 18.85 เปอร์เซ็นต์ และไขมัน 1.56 เปอร์เซ็นต์สูงกว่าในใบอ่อนส่วนโปรตีนและความชื้นในใบอ่อนมีมากกว่า (4.15 ,77.15 เปอร์เซ็นต์) เมื่อนำมาปลูกทดสอบศึกษาผลการสูญเสียใบต่อปริมาณดอกดาหลา ในช่วงเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงเลี้ยงไหม พบว่า การตัดใบออก 25 เปอร์เซ็นต์ทำให้จำนวนดอกลดลง แต่ไม่แตกต่างกันทางสถิติ ส่วนการตัดใบมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ปริมาณหน่อดอกดาหลาต่อกอลดลงอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง คือมี 13.75 ดอกต่อกอ ในธรรมชาติไหมดาหลามีวงจรชีวิต 82-95 วัน แบ่งเป็น ระยะไข่ 8-10 วัน ระยะตัวหนอน 30-35 วัน ระยะดักแด้ 35-40 วัน ระยะผีเสื้อ 7-10 วัน การเปรียบเทียบการเลี้ยงไหมโดยการตัดใบนำมาเลี้ยงในโรงเรือนกับการเลี้ยงไหมในกระโจมคลุมกอดาหลาช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2557 พบว่าการเจริญเติบโตของหนอนไหม ด้านความยาวและน้ำหนัก ของหนอนไหมจากการเลี้ยงในกระโจมดีกว่าการตัดใบเลี้ยงในโรงเรือนทุกวัยและให้ผลผลิตสูงกว่าอย่างชัดเจน ในการผลิตไข่ให้นำรังไหมมาเก็บไว้ในกรงผลิตไข่ที่ประดิษฐ์ขึ้น ได้จำนวนไข่ไหมต่อแม่เฉลี่ย 266 ฟอง โดยมีเปอร์เซ็นต์การฟักออกเฉลี่ย 86.40 เปอร์เซ็นต์ ปี 2559 ได้ปรับปรุงเทคนิคการต้มรังไหมในน้ำด่าง pH 10 ด้วยหม้อความดัน เป็นเวลา 3 และ 5 นาทีเปรียบเทียบกับวิธีการเดิม คือต้มในน้ำด่าง pH 12 ด้วยหม้อปกติ เป็นเวลา 30 นาทีพบว่า การต้มรังไหมในน้ำด่าง pH 10 ด้วยหม้อความดัน เป็นเวลา 3 นาทีสาวไหมได้ง่ายขึ้น คุณภาพเส้นไหมดีขึ้น คือ มีขนาดเส้นใย 730.28 ดีเนียร์ เปอร์เซ็นต์สาวได้ 66.83 เปอร์เซ็นต์และความเหนียว 0.95 กรัม/ดีเนียร์ สูงกว่ากรรมวิธีอื่นแต่ไม่แตกต่างกันในทางสถิติ ได้นำเส้นไหมดาหลามาทอผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง คือ ผ้าพันคอใช้ฟืมเบอร์ 40 และผ้าสำหรับทำกระเป๋าใช้ฟืมเบอร์ 80 ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะนี้สามารถนำวิธีการไปขยายผลในโรงผีเสื้อ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่การเลี้ยงไหมจำนวนมากต้องศึกษาพัฒนาการเลี้ยงเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลี้ยงร่วมกับพืชอาหารชนิดอื่น และควรอนุรักษ์พันธุ์ดาหลาและพันธุกรรมไหมป่าชนิดนี้ไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป
บทคัดย่อ (EN): The Saturniidae (Attacus atlas.) which eats Torch Ginger Leaf (Etlingera elatior [Jack] R. M. Smith) was found at the Queen Sirikit Sericulture Center (Nongkhai) in 2011. The researches and developed programs of utilizing this kind of wild silk had been done in 2014-2016, by selecting the pink flower clone (Nk.Pi.2), which is suitable for the silk culture. The analysis of leaf nutrients found that 18.85 percent carbohydrates and 1.56 percent of fat were found and higher in mature leaves. But protein and moisture percentage are higher in young leaves (4.15, 77.15 percent). Percentage loss of leaves to the number of flowers in March, found that cutting leaves about 25 percent has the effect in reducing the number of flowers, but it is not statistically different. Cuttings of leaves more than 50 percent significantly decreases the flower buds. Naturally, Saturniidae (Attacus atlas.) eating Torch Ginger Leaf has 82-95 days in its life cycles which the eggs period is 8-10 days, the larvae period is 30-35 days, the pupa period is 35-40 days and the butterfly period is 7-10 days. Comparison of the silk culture by cutting the leaves was done in the silkworm house and the silkworms were raised on Torch Ginger Tree, from July to August, 2014. This comparison found that the growth of silkworms, the length and weight of silkworm larvae in the second method was better and all of the cocoons were significantly higher. In 2016, the study to improve reeling technique, by boiling the cocoon in the pressure cooker which pH is 10 and the boiling time is 3 and 5 minutes compared to conventional methods which boil in a normal pot for 30 minutes and pH is 12. It is found that the improved technique was better and the quality of silk was also improved. Products from this yarns are the silk scarf and luggage bag. It is now possible to extend the results in a butterfly raising house and help promote the tourism. However, many silkworms still need a further study, especially in the combination with the other food crops and they should be preserved and made genetically engineering for the research in the future.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมหม่อนไหม
คำสำคัญ: ดาหลา
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยและพัฒนาการนำไหมดาหลามาใช้ประโยชน์
กรมหม่อนไหม
30 กันยายน 2559
กรมหม่อนไหม
การใช้รังสีแกมมาเพื่อเพิ่มผลผลิตของไหมพันธุ์ไทย โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องสาวไหมเส้นพุ่ง (ใช้แรงคน) การรวบรวมและจำแนกศึกษาลักษณะประจำพันธุ์ไหมเพื่อการใช้ประโยชน์ โครงการสำรวจ รวบรวม อนุรักษ์เชื้อพันธุกรรมไหมป่าเพื่อใช้ประโยชน์ โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบ่อน้ำร้อนถ้ำเขาพลู การยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัสนิวคลีโอโพลีฮีโดร (NPV) ของไหม โดยใช้ double-strand RNA interference การพัฒนา เทคโนโลยีสะอาดและการใช้ประโยชน์เศษเหลือจากการผลิตไหม ในการผลิตโปรตีนไหม และผลิตภัณฑ์ สู่อุตสาหกรรมชุมชน โครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตและใช้ประโยชน์จากปอ โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ดาหลา การศึกษาลักษณะประจำพันธุ์ของไหมพันธุ์ใหม่ A10 และ A11
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก