สืบค้นงานวิจัย
ผลของการประจุฟลูออไรด์ใหม่ต่อปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์และความขรุขระผิวของวัสดุบูรณะชนิดต่าง ๆ
Jirakant Limtanyakul - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ผลของการประจุฟลูออไรด์ใหม่ต่อปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์และความขรุขระผิวของวัสดุบูรณะชนิดต่าง ๆ
ชื่อเรื่อง (EN): The effect of fluoride recharge on the content of fluoride release and surface roughness of various restorative materials
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Jirakant Limtanyakul
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อเปรียบเทียบปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์และความขรุขระผิวของวัสดุ บูรณะชนิดต่างๆ ก่อนและหลังการประจุใหม่ด้วยเจลฟลูออไรด์เฉพาะที่ต่างชนิดกัน เตรียมตัวอย่างของกลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ชนิดดั้งเดิม (คีแทคฟิลพลัสแอพลิแคป) แบบเคลือบและไม่ เคลือบวาร์นิช, กลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ชนิดดัดแปลงด้วยเรซิน (ฟูจิทูแอลซีแคปซูล), ไจโอเมอร์ (บิวตี้ฟิล), คอมโพเมอร์ (ไดแรคเอพี), เรซินคอมโพสิตที่สามารถปลดปล่อยฟลูออไรด์ (เททริคซีแรม), และเรซินคอมโพสิต (แซด250) นำตัวอย่างไปวัดความขรุขระผิวหลังเตรียมเสร็จทันที จากนั้นนำไปแช่ในน้ำที่ปราศจากไอออนเพื่อวัด ปริมาณฟลูออไรด์ การวัดปริมาณฟลูออไรด์และความขรุขระผิวทำวันที่ 1,2,3,4,5,6,7,14,21 และ 28 ตามลำดับ จากนั้นแบ่งตัวอย่างจากวัสดุแต่ละกลุ่มเป็น 2 กลุ่มเท่ากัน นำไปแช่ในเจลเอพีเอฟหรือเจลโซเดียมฟลูออไรด์ 4 นาที ทำการทดลองซ้ำเช่นเดียวกับตอนแรก ทดสอบทางสถิติโดยใช้การวิเคราะห์แฟกทอเรียล, การเปรียบเทียบ เชิงซ้อนดันเนตต์ส์ที 3 และอินดีเพนเดนต์ที ที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการศึกษาพบว่าวัสดุแต่ละชนิดมีปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งถ้ายกเว้น แซด250 แล้ว ปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์จากวัสดุหลังเตรียมเสร็จมีมากที่สุดเฉพาะ 24 ชั่วโมงแรก แล้ว ลดลงอย่างรวดเร็วจนค่อยๆ ถึงระดับคงที่ หลังประจุใหม่ ทุกวัสดุปลดปล่อยฟลูออไรด์เพิ่มขึ้นมากในวันแรก เท่านั้น การประจุใหม่ด้วยเจลเอพีเอฟหรือเจลโซเดียมฟลูออไรด์มีผลคล้ายกันต่อปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์ จากทุกวัสดุยกเว้นไดแรคเอพีและคีแทคฟิลพลัสแอพลิแคป วัสดุประเภทกลาสไอโอโนเมอร์ปลดปล่อยฟลูออไรด์ มากที่สุด ไจโอเมอร์ปลดปล่อยฟลูออไรด์น้อยกว่าหรือเท่ากับคอมโพเมอร์ วัสดุประเภทเรซินคอมโพสิต ปลดปล่อยฟลูออไรด์น้อยที่สุด การเคลือบผิวด้วยวาร์นิชของกลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ชนิดดั้งเดิมไม่มีผลยับยั้ง การปลดปล่อยฟลูออไรด์อย่างมีนัยสำคัญ การวิเคราะห์ความขรุขระผิวพบแนวโน้มของความขรุขระผิวเพิ่มขึ้นจากแซด250/ไดแรคเอพี/บิวตี้ฟิล ไปยัง เททริคซีแรม, ฟูจิทูแอลซีแคปซูล, และคีแทคฟิลพลัสแอพลิแคป ตามลำดับ โดยวัสดุประเภทเรซินมีค่าความ ขรุขระผิวที่ค่อนข้างต่ำใกล้เคียงกัน หลังการประจุใหม่ด้วยเจลเอพีเอฟหรือเจลโซเดียมฟลูออไรด์ ไม่พบความ ขรุขระผิวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทุกวัสดุ
บทคัดย่อ (EN): s T3 multiple comparison, and Independent T test at a significant level of .05. The amount of fluoride release from the various materials was significantly different. With all materials, except for Z250, the highest amount of fluoride release from freshly-prepared materials occurred during the first 24 hours. Fluoride release then dropped rapidly and gradually stabilized. After recharge, fluoride release from all materials increased only on the first day. Exposure to APF gel or NaF gel had similar effects on the content of fluoride release from all materials except Dyract AP and Ketac-Fil Plus Aplicap. Glass-ionomer materials released the greatest amount of fluoride. Fluoride release from giomer was less than or equivalent to that from compomer. The lowest amount of fluoride release was from resin composite materials. Varnish did not significantly inhibit fluoride release from conventional glass-ionomer cement. Surface roughness examination indicated that there was a trend of increasing surface roughness from Z250/Dyract AP/Beautifil, to Tetric Ceram, to Fuji II LC Capsule, to Ketac-Fil Plus Aplicap respectively. The basic resin composite materials showed rather low similar values of surface roughness. There was no significantlyincreased surface roughness for any materials after application of APF gel or NaF gel
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2339&obj_id=1357
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Surface roughness
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อเปรียบเทียบปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์และความขรุขระผิวของวัสดุ บูรณะชนิดต่างๆ ก่อนและหลังการประจุใหม่ด้วยเจลฟลูออไรด์เฉพาะที่ต่างชนิดกัน เตรียมตัวอย่างของกลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ชนิดดั้งเดิม (คีแทคฟิลพลัสแอพลิแคป) แบบเคลือบและไม่ เคลือบวาร์นิช, กลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ชนิดดัดแปลงด้วยเรซิน (ฟูจิทูแอลซีแคปซูล), ไจโอเมอร์ (บิวตี้ฟิล), คอมโพเมอร์ (ไดแรคเอพี), เรซินคอมโพสิตที่สามารถปลดปล่อยฟลูออไรด์ (เททริคซีแรม), และเรซินคอมโพสิต (แซด250) นำตัวอย่างไปวัดความขรุขระผิวหลังเตรียมเสร็จทันที จากนั้นนำไปแช่ในน้ำที่ปราศจากไอออนเพื่อวัด ปริมาณฟลูออไรด์ การวัดปริมาณฟลูออไรด์และความขรุขระผิวทำวันที่ 1,2,3,4,5,6,7,14,21 และ 28 ตามลำดับ จากนั้นแบ่งตัวอย่างจากวัสดุแต่ละกลุ่มเป็น 2 กลุ่มเท่ากัน นำไปแช่ในเจลเอพีเอฟหรือเจลโซเดียมฟลูออไรด์ 4 นาที ทำการทดลองซ้ำเช่นเดียวกับตอนแรก ทดสอบทางสถิติโดยใช้การวิเคราะห์แฟกทอเรียล, การเปรียบเทียบ เชิงซ้อนดันเนตต์ส์ที 3 และอินดีเพนเดนต์ที ที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการศึกษาพบว่าวัสดุแต่ละชนิดมีปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งถ้ายกเว้น แซด250 แล้ว ปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์จากวัสดุหลังเตรียมเสร็จมีมากที่สุดเฉพาะ 24 ชั่วโมงแรก แล้ว ลดลงอย่างรวดเร็วจนค่อยๆ ถึงระดับคงที่ หลังประจุใหม่ ทุกวัสดุปลดปล่อยฟลูออไรด์เพิ่มขึ้นมากในวันแรก เท่านั้น การประจุใหม่ด้วยเจลเอพีเอฟหรือเจลโซเดียมฟลูออไรด์มีผลคล้ายกันต่อปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์ จากทุกวัสดุยกเว้นไดแรคเอพีและคีแทคฟิลพลัสแอพลิแคป วัสดุประเภทกลาสไอโอโนเมอร์ปลดปล่อยฟลูออไรด์ มากที่สุด ไจโอเมอร์ปลดปล่อยฟลูออไรด์น้อยกว่าหรือเท่ากับคอมโพเมอร์ วัสดุประเภทเรซินคอมโพสิต ปลดปล่อยฟลูออไรด์น้อยที่สุด การเคลือบผิวด้วยวาร์นิชของกลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ชนิดดั้งเดิมไม่มีผลยับยั้ง การปลดปล่อยฟลูออไรด์อย่างมีนัยสำคัญ การวิเคราะห์ความขรุขระผิวพบแนวโน้มของความขรุขระผิวเพิ่มขึ้นจากแซด250/ไดแรคเอพี/บิวตี้ฟิล ไปยัง เททริคซีแรม, ฟูจิทูแอลซีแคปซูล, และคีแทคฟิลพลัสแอพลิแคป ตามลำดับ โดยวัสดุประเภทเรซินมีค่าความ ขรุขระผิวที่ค่อนข้างต่ำใกล้เคียงกัน หลังการประจุใหม่ด้วยเจลเอพีเอฟหรือเจลโซเดียมฟลูออไรด์ ไม่พบความ ขรุขระผิวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทุกวัสดุ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการประจุฟลูออไรด์ใหม่ต่อปริมาณการปลดปล่อยฟลูออไรด์และความขรุขระผิวของวัสดุบูรณะชนิดต่าง ๆ
Jirakant Limtanyakul
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
ชั้นที่ต้านทานต่อกรดและปริมาณฟลูออไรด์ในเนื้อฟันภายหลังการบูรณะด้วยวัสดุที่ปลดปล่อยฟลูออไรด์ชนิดต่าง ๆ การสำรวจแหล่งน้ำมันพืชชนิดใหม่เพื่อการอุตสาหกรรม การศึกษาชนิดและปริมาณของน้ำตาลและกรดอินทรีย์บางชนิดในสารที่หลั่งจากราก (root exudate) ของข้าว 5 พันธุ์ การจำแนกโปรตีนตอบรับชนิดใหม่ต่อไวรัสเด็งกี่สายพันธุ์ที่ 2 บนผิวเซลล์เพาะเลี้ยงจากตับ อิทธิพลของชนิดและปริมาณของสารเพิ่มปริมาณและแรงตอกต่อการปลดปล่อยตัวยาอินโดเมทาซินจา อิทธิพลของความหนาผิวเคลือบพอลิยูริเทนและปริมาณผงไททาเนียมไดออกไซด์ในผิวเคลือบที่มีต่อสมบัติการถ่ายเทความร้อนของผลิตภัณฑ์หลังคายางจากวัสดุผสมยางธรรมชาติและขี้เลื่อยไม้ ผลของวัสดุเพาะเมล็ดและไมคอร์ไรซาต่อการเติบโตของกล้วยไม้ดินบางชนิด การปรับปรุงยางมะตอยอิมัลชันชนิดประจุลบด้วยน้ำยางธรรมชาติ. ผลของชนิดและรูปแบบของวัสดุยึดเกาะต่อผลผลิตของกุ้งฝอยในบ่อดิน อิทธิพลของสารช่วยในเมมเบรนชนิดที่มีประจุและไม่มีประจุต่อคุณสมบัติทางเคมีกายภาพและความคงตัวของไนโอโซมของกรดซาลิซัยลิก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก