สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากผักเชียงดาต่อการป้องกัน การแตกตัวของเม็ดเลือดแดงและการเสียหายของดี
Thanyaluk Muangman - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากผักเชียงดาต่อการป้องกัน การแตกตัวของเม็ดเลือดแดงและการเสียหายของดี
ชื่อเรื่อง (EN): Antioxidant activity and protective effects of Gymnema Inodorum decne. on red blood cell hemolysis and DNA damage in TK6 human lymphoblastoid cells
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Thanyaluk Muangman
บทคัดย่อ: การศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในผักและผลไม้มีคุณสมบัติในการลดโอกาส เสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรังและโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะต่างๆได้ โดยสมมุติฐานเกี่ยวกับพยาธิวิทยาของโรค เหล่านั้นเชื่อว่าเกิดจากการที่อนุมูลอิสระทำลายโมเลกุลของสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ) โปรตีน ไขมัน และ สาร โมเลกุลเล็กอื่นๆในเซลล์ของร่างกาย ปัจจุบันได้มีการศึกษาถึงคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ โดยเฉพาะสารที่ได้จากพืชเพื่อใช้ในการรักษาและป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนการศึกษา ทางวิทยาศาสตร์เพื่อบอกถึงคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของผักพื้นบ้านในประเทศไทยยังมีน้อยมาก ผักเชียงดาเป็น พืชพื้นบ้านของประเทศไทยที่นิยมปลูกในแถบภาคเหนือของประเทศ มีการศึกษาพบว่าผักเชียงดามีสารที่ออกฤทธิ์ ต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ดังนั้นวัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือ เพื่อประเมินฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของผักเชียงดา ในรูปแบบการเตรียมต่างๆกัน รวมทั้งศึกษาผลต่อการป้องกันการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงและการเสียหายของดี เอ็นเอ ผักเชียงดาถูกเตรียมด้วยวิธีการ 4 แบบ ได้แก่ น้ำคั้นผักสด ส่วนที่ได้จากการสกัดด้วยน้ำ สกัดด้วยเอทา นอลที่ความเข้มข้นร้อยละ 50 และ ที่ความเข้มข้นร้อยละ 95 การทดสอบคุณสมบัติการจับอนุมูลอิสระเพื่อป้องกัน การทำลายสารชีวโมเลกุลใช้วิธี DPPH assay, deoxyribose assay, hemolysis assay และ comet assay จากการศึกษา ครั้งนี้พบว่าน้ำคั้นผักสดมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงและการเสียหายของ ดีเอ็นเอสูงสุด รวมทั้งมีปริมาณของวิตามินอี และเบต้าแคโรทีนสูงที่สุดด้วย ส่วนสารสกัดด้วยเอทานอลที่ความ เข้มข้นร้อยละ 50 มีปริมาณของสารประกอบฟินอลิกสูงสุด และสารสกัดด้วยเอทานอลที่ความเข้มข้นร้อยละ 95 มี ฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระและปริมาณสารประกอบฟินอลิกต่ำสุด การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าผักเชียงดาในรูปแบบของ ผักสดที่ไม่ผ่านขบวนการแปรรูปมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดีและยังมีปริมาณวิตามินที่มีคุณสมบัติที่เป็นสารต้าน อนุมูลอิสระสูงอีกด้วย ข้อมูลคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของผักเชียงดาด้วยการเตรียมแบบต่างๆในงานวิจัยนี้น่าจะเป็น ประโยชน์แก่ผู้บริโภค ในการพิจารณาเลือกบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ
บทคัดย่อ (EN): Epidemiological evidence indicates that diets high in fruits and vegetables are rich in many antioxidant nutrients, having capability of decreasing the risk of chronic degenerative diseases. The pathogenesis of these diseases is hypothesized to be the harmful effects of free radicals on DNA, protein, lipid, and small intracellular molecules. Recently, the search for natural antioxidants and other preparations of plants concerning the beneficial effect for good health has been intensified. Still, little information regarding free radical scavenging and/or antioxidant activity is available for a vast number of Thai local vegetables. Gymnema inodorum Decne. (Chiangda) is one of the Thai local vegetables that grows in the northern part of Thailand. It has been known to be effective for some diseases including diabetes mellitus, rheumatic arthritis, and gout. Interestingly, there are reports showing that Chiangda has many phytochemicals that act as antioxidants. Therefore, objectives of this study are to determine the antioxidant activity of various preparations of Gymnema inodorum. Gymnema inodorum (GI) was prepared in four fractions. Edible parts of Gymnema inodorum were divided into two parts: fresh juice (GIJ) and dried forms, which were extracted with water (GIW), 50% ethanol (GIE50) and 95% ethanol (GIE95). The antioxidant activities were determined by DPPH radical scavenging assay, deoxyribose degradation assay, hemolysis assay, and comet assay. The total phenolic compounds were determined by folin-ciocalteu method. The results showed that the GIJ fraction had the highest antioxidant activity in all tests as well as the highest content of vitamin E (22.6 mg/100 g freeze dry extract) and beta-carotene (25.9 mg/100 g freeze dry extract). The highest concentration of total phenolic compounds (3.95 g GAEs/100g freeze dry extract) was found in the GIE50 fraction. The GIE95 fraction had the lowest antioxidant activity and amount of total phenolic compound. In conclusion, this study reveals that juice of Gymnema inodorum has strong antioxidant activities including the highest protective effects on RBC hemolysis and DNA damage. In addition, juice of Gymnema inodorum has a high content of vitamins that act as antioxidants. This information can assist consumers in selecting a source of natural antioxidants for consumption
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=216&obj_id=2096
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Hemolysis
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในผักและผลไม้มีคุณสมบัติในการลดโอกาส เสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรังและโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะต่างๆได้ โดยสมมุติฐานเกี่ยวกับพยาธิวิทยาของโรค เหล่านั้นเชื่อว่าเกิดจากการที่อนุมูลอิสระทำลายโมเลกุลของสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ) โปรตีน ไขมัน และ สาร โมเลกุลเล็กอื่นๆในเซลล์ของร่างกาย ปัจจุบันได้มีการศึกษาถึงคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ โดยเฉพาะสารที่ได้จากพืชเพื่อใช้ในการรักษาและป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนการศึกษา ทางวิทยาศาสตร์เพื่อบอกถึงคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของผักพื้นบ้านในประเทศไทยยังมีน้อยมาก ผักเชียงดาเป็น พืชพื้นบ้านของประเทศไทยที่นิยมปลูกในแถบภาคเหนือของประเทศ มีการศึกษาพบว่าผักเชียงดามีสารที่ออกฤทธิ์ ต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ดังนั้นวัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือ เพื่อประเมินฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของผักเชียงดา ในรูปแบบการเตรียมต่างๆกัน รวมทั้งศึกษาผลต่อการป้องกันการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงและการเสียหายของดี เอ็นเอ ผักเชียงดาถูกเตรียมด้วยวิธีการ 4 แบบ ได้แก่ น้ำคั้นผักสด ส่วนที่ได้จากการสกัดด้วยน้ำ สกัดด้วยเอทา นอลที่ความเข้มข้นร้อยละ 50 และ ที่ความเข้มข้นร้อยละ 95 การทดสอบคุณสมบัติการจับอนุมูลอิสระเพื่อป้องกัน การทำลายสารชีวโมเลกุลใช้วิธี DPPH assay, deoxyribose assay, hemolysis assay และ comet assay จากการศึกษา ครั้งนี้พบว่าน้ำคั้นผักสดมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงและการเสียหายของ ดีเอ็นเอสูงสุด รวมทั้งมีปริมาณของวิตามินอี และเบต้าแคโรทีนสูงที่สุดด้วย ส่วนสารสกัดด้วยเอทานอลที่ความ เข้มข้นร้อยละ 50 มีปริมาณของสารประกอบฟินอลิกสูงสุด และสารสกัดด้วยเอทานอลที่ความเข้มข้นร้อยละ 95 มี ฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระและปริมาณสารประกอบฟินอลิกต่ำสุด การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าผักเชียงดาในรูปแบบของ ผักสดที่ไม่ผ่านขบวนการแปรรูปมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดีและยังมีปริมาณวิตามินที่มีคุณสมบัติที่เป็นสารต้าน อนุมูลอิสระสูงอีกด้วย ข้อมูลคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของผักเชียงดาด้วยการเตรียมแบบต่างๆในงานวิจัยนี้น่าจะเป็น ประโยชน์แก่ผู้บริโภค ในการพิจารณาเลือกบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากผักเชียงดาต่อการป้องกัน การแตกตัวของเม็ดเลือดแดงและการเสียหายของดี
Thanyaluk Muangman
มหาวิทยาลัยมหิดล
1 กรกฎาคม 2552
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดมะเกี๋ยง และผลต่อการเกิดมะเร็งตับหลายขั้นตอนที่เหนี่ยวนำด้วยสารเคมีในหนูขาว ฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคเริม ต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็งของสารสกัดสมุนไพรบางชนิด ผลเชิงเปรียบเทียบของสารสกัดจากสมุนไพรต่อการป้องกันเซลล์เม็ดเลือดแดงแตกจากภาวะออกซิเดทีฟสเตรส สารต้านอนุมูลอิสระและประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระของข้าวที่มีสายพันธุ์ต่าง ๆ และรำข้าว ฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของสารสกัดจากข้าวเหนียวดำ ผลของสารสกัดมะเกี๋ยงต่อระบบต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ปกป้องตับในหนูที่ได้รับอะเซตามิโนแฟน ฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอาการคันของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือ ฤทธิ์ระงับปวด ต้านการอักเสบและความเป็นพิษเฉียบพลันของสารสกัดจากเหง้าขิงแดง ฤทธิ์ต้านการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งของสารสกัดน้ำจากใบมะรุม ความเสถียร การเป็นสารต้านอนุมูอิสระ ฤทธิ์การต้านเชื้อจุลินทรีย์ และเซลล์มะเร็งของสารสกัดบัวกลุ่มอุบลชาติ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก