สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ระบบสวนยางพารา
สมบูรณ์ เจริญจิระตระกูล - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ระบบสวนยางพารา
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สมบูรณ์ เจริญจิระตระกูล
บทคัดย่อ: "การศึกษาเรื่องการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในรูปของการปลูกพืซร่วมยาง ในระบบสวนยางพารา จึงมีขึ้นเพื่อศึกษา (1) ระบบสวนยางพาราที่เกษตรกรปฏิบัติอยู่ในสถานการณ์ ปัจจุบัน (2) ความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ระบบสวนยางพารา (3) ทัศนคติของ เกษตรกรต่อมิติต่าง ๆ ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ระบบสวนยางพารา (4) แนวทางการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ระบบสวนยางพารา โดยเจาะจงศึกษาใน 2 พื้นที่ คือพื้นที่ตำบลเขาพระอำเภอ รัตภูมิ จังหวัดสงขลา และพื้นที่ตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง เพื่อความสมบูรณ์ของ งานวิจัย ทีมวิจัยใช้การวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods) กล่าวคือใช้ทั้งการสัมภาษณ์เชิงลึกสัมภาษณ์ รายบุคคล จัดเวทีนำเสนอผลการศึกษาระหว่างการวิจัย และมีเวทีสัมมนาก่อนปิดโครงการ วิเคราะห์ โดยใช้ทั้งสถิติเชิงพรรณนา และเชิงปริมาณ รวมทั้งหลักการวิเคราะห์โครงการ สำหรับประเด็นสำคัญในการวิเคราะห์ประกอบด้วยความรู้และบทเรียนของการปลูกพืชร่วม ยาง โดยใช้ข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key Informants) จำนวน 23 ราย จากนั้นเป็นการตรวจสอบความ เป็นไปได้ในเชิงเศรษฐกิจว่าการปลูกพืชร่วมยางนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับการทำสวนยางเชิงเดี่ยว โดยใช้ ข้อมูลจากเกษตรกรที่ทำสวนยางพาราเชิงเดี่ยวจำนวน 31 ราย และที่ปลูกพืชร่วมยางจำนวน 21 ราย รวม 52 ราย และสุดท้ายเป็นการพิจารณาทัศนคติของเกษตรกรโดยทั่วไปที่ทำสวนยางเชิงเดี่ยวต่อพืช ร่วมยางในมิติต่าง ๆ โดยใช้ข้อมูลจากเกษตรกรชาวสวนยางพารโดยทั่วไปที่ทำสวนยางเชิงเดี่ยว พื้นที่ละ 200 ราย รวม 400 ราย ผลการศึกษาพบว่าเกษตรกรในพื้นที่ศึกษาซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกพืชร่วมยางอย่างเป็นรูปธรรม มากที่สุดของภาคใต้ส่วนใหญ่ก็ยังทำสวนยางพาราเชิงเดี่ยวเป็นหลัก สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมปลูกพืช ร่วมยางนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะการขับเคลื่อนของภาคประชาชนในพื้นที่ การปลูกพืชร่วมยางมี 2 แนวคิด คือแนวคิดธรรมชาติ โดยพืชร่วมที่มีในสวนยางจะเป็นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งพบน้อยมากและแนวคิด จัดหาพืชร่วมมาปลูก ซึ่งเป็นรูปแบบที่เป็นจริงในภาคปฏิบัติทั้ง 2 พื้นที่ศึกษา พืชร่วมจะถูกปลูกเป็น แถวเป็นแนว และมีจำนวนพืชร่วมในสวนยางระหว่าง 1-7 ชนิด ความรู้ภาคปฏิบัติในการปลูกพืซร่วมยางจากประสบการณ์ตรงของเกษตรกรพบว่า ไม้ป่าทุก ชนิด เช่น ตะเคียนทอง จำปาทอง กฤษณา ยางนา ทัง พะยอม สักทอง เป็นต้น สามารถปลูกเป็นพืซ ร่วมยางได้ทั้งหมด ส่วนไม้เศรษฐกิจโตเร็ว เช่น สะเดาเทียม และมะฮอกกานี หากจะปลูกเป็นพืชร่วม ยาง ไม่ควรปลูกระหว่างร่องยางเป็นจำนวนมาก ไม้โตเร็วจะไปแย่งอาหารต้นยาง ในขณะที่ไม้ผลที่ ปลูกเป็นพืชร่วมยางได้ผลดี ได้แก่ ทุเรียน จำปาดะ กระท้อน มะไฟ รังแข (ลูกปุย) รวมทั้ง สะตอ เหรียง บริเวณที่เหมาะสมในการปลูกพืชร่วมยาง คือ ระหว่างร่องยาง ส่วนความหนาแน่นในการปลูกในเชิง เศรษฐกิจควรปลูกพืชร่วม 30-40 ต้นต่อไร่ ส่วนช่วงเวลาปลูกที่เหมาะสมสำหรับไม้ป่า ไม้เศรษฐกิจโตเร็ว หรือไม้ผลต่าง ๆ ควรปลูกในสวนยางอ่อนที่ยังไม่ให้ผลผลิต คือในช่วงที่ต้นยางมีอายุระหว่าง 2-4 ปี ส่วน บทเรียนในการปลูกพืชร่วมยาง พบว่าไม้เศรษฐกิจโตเร็วจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อผลผลิตยาง ไม้ผล เช่น ส้มโอ ส้มเขียวหวาน ลองกอง มังคุด (ในสภาพดินที่แห้ง) มะม่วง เงาะ ลำไย เป็นพืชที่ไม่เหมาะสม ในเชิงเศรษฐกิจสำหรับการปลูกเป็นพืซร่วมยาง การวิเคราะห์โครงการทางการเงิน (อัตราคิดลดร้อยละ 9.25) ที่ราคายาง 73.78 บาท/กก. พบว่า สวนยางพาราเชิงเดี่ยวมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 44,092.30 บาทต่อไร่ และอัตราผลตอบแทน ต่อการลงทุน (BC R) เท่ากับ 1.74 ในขณะที่สวนยางพาราที่มีพืชร่วมให้ความคุ้มค่าแก่การลงทุนสูงกว่า อย่างชัดเจน กล่าวคือระบบที่ 1 คือ ระบบยาง-ตะเคียนทอง-กฤษณา พบว่ามี NPV เท่ากับ 75,118.48 บาทต่อไร่ และ BCR เท่ากับ 2.17 ระบบที่ 2 คือ ระบบยาง-ตะเคียนทอง-จำปาทอง มี NPV เท่ากับ 64,510.72 บาทต่อไร่ มี BCR เท่ากับ 2.01 และระบบที่ 3 คือ ระบบยาง-ไผ่มันป่า มี NPV เท่ากับ 75,603.60 บาทต่อไร่ และ BCR เท่ากับ 2.10 ส่วนการวิเคราะห์โครงการทางเศรษฐกิจก็ให้ผลการศึกษา ในแนวทางเดียวกัน เกษตรกรโดยทั่วไปที่ทำสวนยางเชิงเดี่ยวมีทัศนคติต่อพืชร่วมยาง ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อมในระดับดี โดยมีคะแนนเฉลี่ยในแต่ละประเด็นย่อย 11 ประเด็นระหว่าง 3.56-4.35 จากคะแนนเต็ม 5 ที่น่าสนใจคือ เกษตรกรกลุ่มดังกล่าวจำนวน 293 คน (n=400) คิดเป็นร้อยละ 73.25 ให้คำตอบว่าจะตัดสินใจปลูกพืชร่วมยางในอนาคต 5 ปี ข้างหน้า โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ปลูกพืชร่วมยางดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ จำนวนสมาชิกในครัวเรือน (P=0.043) องค์ความรู้ พืชร่วมยาง (P=0.022) การเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับพืชร่วมยาง (P=0.039) และประสบการณ์การทำ สวนยาง (P=0.074) สรุปได้ว่าผลการศึกษาทุกประเด็นดังกล่าวต่างเกื้อกูลต่อการขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ ระบบสวนยางพาราในรูปของการปลูกพืชร่วมยางเป็นมาก อย่างไรก็ตาม หากไม่มีมาตรการใดมาช่วย ขับเคลื่อน และปล่อยให้การปลูกพืชร่วมยางเป็นไปตามธรรมชาติหรือตามอิสรภาพของเกษตรกรเหมือน ที่เป็นมา การเพิ่มพื้นที่การปลูกพืชร่วมยางคงเป็นไปได้ยาก รัฐต้องมีมาตรการที่จำเป็นเพื่อขับเคลื่อน ให้การเพิ่มพื้นที่การปลูกพืชร่วมยางมีโอกาสเป็นจริง เช่น (1) ต้องกำหนดนโยบายส่งเสริมการปลูกพืช ร่วมยางให้เป็นรูปธรรม (2) ต้องปรับกฎระเบียบข้อกฎหมายให้เอื้อต่อการปลูกพืชร่วมยาง (3) ต้อง จัดสรรงบประมาณขยายพื้นที่การปลูกพืชร่วมยางเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับระบบสวนยางเชิงเดี่ยว อย่างต่อเนื่อง (4) ต้องสร้างกลไกการประสานความร่วมมือกับภาคีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพืชร่วมยาง และ (5) ต้องจัดให้มีการจัดการความรู้ด้านพืชร่วมยางขององค์กรภาคประซาชน (6) การระดมเงินเข้า กองทุนกองทุนขับเคลื่อนการปลูกพืชร่วมยางที่ถาวร (7 ผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมี นโยบายปันส่วนรายได้โดยจัดสรรงบประมาณสมทบกองทุนฯ เป็นต้น"
บทคัดย่อ (EN): No information found from agency.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: พื้นที่สีเขียว
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ระบบสวนยางพารา
การยางแห่งประเทศไทย
2559
การศึกษาเบื้องต้นในการส่งถ่ายยีนเข้าสู่ยางพาราด้วยเทคนิค Agrobacterium transformation การยับยั้งอย่างจำเพาะเจาะจงต่อการแสดงออกของยีน Rubber Elongation Factor (REF) ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโปรตีนก่อภูมิแพ้ในยางพาราด้วยเทคโนโลยีแอนติเซน แนวทางการแก้ปัญหายางพาราเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สำรวจการเลี้ยงสัตว์ในสวนยางภาคใต้ หน้าที่ใช้สอยและสุนทรียภาพของพื้นที่สีเขียวในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ การพัฒนาอุปกรณ์วิเคราะห์น้ำยางพาราสำหรับใช้งานในสวนยางพารา การศึกษาจำนวนไก่พื้นเมืองที่เหมาะสม ต่อพื้นที่ปล่อยเลี้ยงในพื้นที่สวนผลไม้ สวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมันในสภาพของเกษตรกร เทคโนโลยีการผลิตยางพาราในสวนยางที่เปิดกรีดจังหวัดหนองบัวลำพู การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการลงทุนทำสวนยางพาราในอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช สมรรถภาพการผลิตไก่เบตงในพื้นที่ สวนลองกอง สวนสมรม และ สวนยางพารา ของเกษตรกรในจังหวัดยะลา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก