สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาพาหะนำโรค และอัตราการติดเชื้อก่อโรคลิชมาเนีย ในพาหะนำโรคในแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ในภาคใต้ ประเทศไทย
นายคณพศ ทองขาว - กองโรคติดต่อนำโดยแมลง
ชื่อเรื่อง: การศึกษาพาหะนำโรค และอัตราการติดเชื้อก่อโรคลิชมาเนีย ในพาหะนำโรคในแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ในภาคใต้ ประเทศไทย
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นายคณพศ ทองขาว
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับชนิดริ้นฝอยทรายที่เป็นพาหะนำโรคลิชมาเนีย อัตราการติดเชื้อ ก่อโรคลิชมาเนียในริ้นฝอยทราย ชนิดเชื้อลิซมาเนียที่พบในริ้นฝอยทราย และชนิดสัตว์ที่ริ้นฝอยทรายกัดกินเลือด ของในถ้ำที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ในภาคใต้ของประเทศไทย โดยสำรวจและเก็บตัวอย่างริ้นฝอยทรายใน แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ 1) ถ้ำขมิ้น จังหวัดสุราษฎร์ธานี, 2) ถ้ำแสงเพชร จังหวัดกระบี่, 3) ถ้ำเขาพลู จังหวัดชุมพร, 4) ถ้ำเขารูปช้าง จังหวัดสงขลา, 5) ถ้ำรับร่อง จังหวัดชุมพร, 6) ถ้ำระฆังทอง จังหวัด สตูล, 7 ถ้ำพระขยาง จังหวัดระนอง, 8) ถ้ำเลเขากอบ จังหวัดตรัง, 9) ถ้ำพุงช้าง จังหวัดพังงา, และ 10) ถ้ำสุมะ โน จังหวัดพัทลุง โดยใช้กับดักแสงไฟ (light trap) ระหว่างเดือนมิถุนายน 2559-เมษายน 2560 ผลการศึกษาพบ ริ้นฝอยทรายจำนวน 4,513 ตัว สามารถจำแนกได้ 2 สกุล (genus) จำนวน 21 ชนิด (species) เป็น Phlebotomus 6 ชนิด (ร้อยละ 28.57) และ Sergentomyia 15 ชนิด (ร้อยละ 71.43) มีริ้นฝอยทรายที่ไม่ สามารถจำแนกชนิดได้ จำนวน 1 ชนิด โดยชนิดริ้นฝอยทรายที่พบมากที่สุด คือ S. anodontis (ร้อยละ 28.21) รองลงมา ได้แก่ P. mgjor mgjor (ร้อยละ 22.73) , P. kiangsuensis (ร้อยละ 17.42) , P. asperulus (ร้อยละ 8.66) , s. gammae (ร้อยละ 5.30) , 5. hodgsoni (ร้อยละ 4.37) , 5. silvatica (ร้อยละ 2.24) , s. barroudi (ร้อยละ 2.17) , P. stontoni (ร้อยละ 1.96) และ S. hamidi (ร้อยละ 1.57) ซึ่งริ้นฝอยทรายชนิด P. orgentipes และ P. mojor mojor เป็นชนิดที่เคยมีรายงานว่าเป็นพาหะนำเชื้อลิชมาเนียได้ ซึ่งทุกถ้ำที่ ทำการศึกษาจะพบริ้นฝอยทรายทั้งสองชนิดนี้ และจากการตรวจหาเชื้อลิชมาเนียในริ้นฝอยทรายโดยวิธีพีซีอาร์ จากกลุ่มตัวอย่างริ้นฝอยทราย 383 pools พบให้ผลบวกของดีเอ็นเอเชื้อลิชมาเนียในยีน 18s SSUIRNA ที่มี ขนาด 379 คู่เบส จำนวน 65 pools (ร้อยละ 16.97 ชนิดริ้นฝอยทรายที่พบให้ผลบวกของดีเอ็นเอเชื้อลิซมาเนีย มี 14 ชนิด คือ P. major major, p. asperulus, p. kiangsuensis, p. stantoni, p. argentipes, s. anodontis, 5. gammae, 5. indica, S. hodgsoni, s. barraudi, 5. sylvatica, s. punjabensis, s. hivernus และ S. tambor: เมื่อนำตัวอย่างที่ให้ผลบวกกับดีเอ็นเอของเชื้อลิชมาเนียโดยวิธีพีซีอาร์ไปหาลำดับ นิวคลิโอไทด์ สามารถหาลำดับนิวคลิโอไทด์ได้จำนวน 9 pools เป็นกลุ่มตัวอย่างริ้นฝอยทราย 2 ชนิด คือ P. kiangsuensis (1 pool จากถ้ำเลเขากอบ จังหวัดตรัง และ P. asperulus (8 pool) จากถ้ำเลเขากอบ จังหวัด ตรัง, ถ้ำระฆังทอง จังหวัดสตูล, และถ้ำสุมะโน จังหวัดพัทลุง ซึ่งผลจากการทำแผนภูมิวงวานวิวัฒนาการแสดง ความสัมพันธ์ของลำดับนิวคลีโอไทด์ของกลุ่มตัวอย่างริ้นฝอยทรายทั้ง 9 pools เปรียบเทียบกับลำดับนิวคลิโอ ไทด์ของเชื้อ Trypanosoma และ Leishmania จากฐานข้อมูล The National Center for Biotechnology Information (NCBI) พบว่ามีความเป็นไปได้ว่าเป็นเชื้อกลุ่ม Trypanosoma มากกว่าเชื้อกลุ่ม Leishmanio ที่ เป็นเชื้อก่อโรคลิซมาเนียที่ระบาดในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย (. donovani, L. infantum, L martiniquensis, และ L. siamensis และมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันกับเชื้อ Trypanosoma lewisi ที่เคยมี รายงานการค้นพบในประเทศไทย ซึ่งโรค Trypanosomiasis เป็นโรคปสิตในเลือดของโคและกระบือ54 สามารถ ติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ โดยพบในหนูนอรเวย์ (Rattus norvegicus) ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถ้ำที่พบริ้นฝอยทรายที่ ติดเชื้อกลุ่ม Trypanosoma ได้แก่ ถ้ำเลเขากอบ จังหวัดตรัง, ถ้ำระฆังทอง จังหวัดสตูล, และถ้ำสุมะโน จังหวัด พัทลุง ส่วนการตรวจหาชนิดเลือดที่พบในส่วนท้องริ้นฝอยทรายโดยวิพีซีอาร์ จากตัวอย่าง 80 ตัวอย่าง พบที่ให้ ผลบวกและสามารถส่งหาลำดับนิวคลีโอไทด์จำนวน 18 ตัวอย่าง จากริ้นฝอยทราย 6 ชนิด คือ P. mgjor mojor, P. asperulus, P. kiangsuensis, S. anodontis, S. silvatica, และ S. hamidi เมื่อเปรียบเทียบกับลำดับนิวคลี โอไทด์จากฐานข้อมูล NCB! พบว่าเป็นเลือดของคน (Homo sapiens ถ้ำที่พบริ้นฝอยทรายที่มีเลือดของคนใน ส่วนท้อง ได้แก่ ถ้ำระฆังทอง จังหวัดสตูล ( sperulus, P. kiangsuensis, s. anodontis, s. hamidi), ถ้ำพระขยางค์ จังหวัดระนอง (S. anodontis), ถ้ำเลเขากอบ จังหวัดตรัง (P. mojor major, P. asperulus), และถ้ำสุมะโน จังหวัดพัทลุง (P. asperulus, P. kiangsuensis, S. onodontis, S. silvatica) จากการศึกษานี้จะพบว่ามีริ้นฝอยทรายจำนวน 2 ชนิด ที่กัดกินเลือดของคนและ ตรวจพบเชื้อกลุ่ม haemoflagellate ที่อาจจะเป็นเชื้อ Trypanosoma (ewisi คือ P. kiangsuensis และ P. asperulus ซึ่งพบที่ถ้ำระฆังทอง จังหวัดสตูล จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นพาหะในการส่งผ่านเชื้อที่มีความสัมพันธ์ที่ ใกล้ชิดกันกับเชื้อ Trypanosoma lewisi สู่คนได้ ซึ่งจะต้องมีการศึกษาต่อไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://klb.ddc.moph.go.th/dataentry/research/download/textfull/956
เผยแพร่โดย: กองโรคติดต่อนำโดยแมลง
คำสำคัญ: Trypanosomiasis
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมควบคุมโรค
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาพาหะนำโรค และอัตราการติดเชื้อก่อโรคลิชมาเนีย ในพาหะนำโรคในแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ในภาคใต้ ประเทศไทย
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก