สืบค้นงานวิจัย
คุณลักษณะของเชื้อพันธุกรรมอ้อยพันธุ์ไทยและแนวทางการนำไปใช้ประโยชน์
อัมราวรรณ ทิพยวัฒน์ - ไม่ระบุหน่วยงาน
ชื่อเรื่อง: คุณลักษณะของเชื้อพันธุกรรมอ้อยพันธุ์ไทยและแนวทางการนำไปใช้ประโยชน์
ชื่อเรื่อง (EN): Characteristics of Thai Sugarcane (Saccharum spp. hybrids) Cultivars and Potential for Utilization.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อัมราวรรณ ทิพยวัฒน์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Amarawan Tippayawat
บทคัดย่อ: ประเทศไทยได้มีการปรับปรุงพันธุ์อ้อยอย่างต่อเนื่อง อ้อยพันธุ์ใหม่ส่วนใหญ่เป็นการต่อยอดจากฐานพันธุกรรมของพันธุ์ดีเด่นเดิม พันธุ์ดีที่ได้รับคัดเลือกก็ยังคงมาจากคู่ผสมเดิมที่เคยให้ลูกที่ดีมาก่อน เช่น คู่ผสมระหว่าง K84-200 กับ อีเหี่ยวแดง ให้ลูกที่เป็นพันธุ์รับรองหลายพันธุ์ เช่น คู่ผสมปี 1992 ได้พันธุ์ LK92-11, LK92-14, LK92-17, K92-60 และ คู่ผสมในปี 1999 ได้พันธุ์ K99-72, K99-75 และK99-82 เป็นต้น แต่ทั้งนี้พันธุ์ที่ได้รับการยอมรับและปลูกกันอย่างแพร่หลาย มีเพียงไม่กี่พันธุ์ ด้วยเหตุนี้จึงได้ทำการศึกษาคุณลักษณะต่างๆ ของอ้อยพันธุ์ไทย ทั้งพันธุ์รับรอง พันธุ์แนะนำ พันธุ์ดีเด่น และพันธุ์พื้นเมือง จำนวน 95 พันธุ์ เพื่อหาแนวทางในการใช้พันธุ์เหล่านี้ ในการปรับปรุงพันธุ์อ้อยให้ได้พันธุ์ที่ให้ผลผลิตอ้อย และน้ำตาลสูง โดยปลูกอ้อยพันธุ์ละ 1 แถวๆ ยาว 5 เมตร ระยะห่างระหว่างแถว 1.4 เมตร (เก็บเกี่ยว 3 เมตร) ระหว่างเดือน เมษายน 2554 ถึง เมษายน 2555 ที่แปลงทดลองท่าพระ ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น บันทึกข้อมูลต่างๆ ในทุกระยะจนกระทั่ง เก็บเกี่ยว จากการศึกษาพบว่าน้ำหนักลำ กว่า 50% ของพันธุ์ส่วนใหญ่ มีค่าอยู่ในช่วง 3-9 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ความสูง ต้นที่อายุ 4 เดือนมีความสัมพันธ์กับความยาวลำ เมื่อเก็บเกี่ยว และความยาวลำ เมื่อเก็บเกี่ยวมีความสัมพันธ์กับน้ำหนักลำ ต่อตารางเมตร ค่าบริกซ์ที่อายุ 8 เดือน มีค่าอยู่ระหว่าง 14-21% และพันธุ์ส่วนใหญ่มีค่าบริกซ์ 16-18% เมื่ออายุ 10 เดือน ส่วนใหญ่มีความหวานเพิ่มขึ้น มีค่าบริกซ์ 20% พันธุ์ที่มีค่าบริกซ์มากกว่า 22% คือ พันธุ์ 88-2-069, LK92-11, 07-35/7 และ ขอนแก่น 3 และที่อายุเก็บเกี่ยว (อ้อยอายุ 12 เดือน) ค่าซีซีเอสอยู่ระหว่าง 4.0-16.9% พันธุ์ที่ให้ค่าซีซีเอสเกิน 15% ได้แก่ พันธุ์ K90-54 และ K84-200/SP50 และมีพันธุ์อ้อยที่ให้ค่าบริกซ์สูงสม่ำเสมอ จากอายุ 7-12 เดือน คือพันธุ์ 88-2-069 และ มีค่าซีซีเอสเมื่อเก็บเกี่ยว 13.5% และจากการบันทึกการออกดอกพบว่า 62 พันธุ์มีการออกดอกและกระจายตัวอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม เป็นส่วนใหญ่ และมี 33 พันธุ์ไม่ออกดอก พันธุ์ที่มีลักษณะเด่นส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ที่มาจาก พ่อ-แม่พันธุ์ที่มีลักษณะดี โดยได้เสนอ 3 แนวทางในการนำไปใช้ประโยชน์ของเชื้อพันธุ์เหล่านี้ คือ 1) ใช้พันธุ์ที่มีลักษณะเด่นเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ (Tester) 2) ผสมกลับไปหาพ่อ-แม่พันธุ์ที่ดี (Backcross) 3) นำลูกผสมที่มีลักษณะดีผสมพันธุ์กัน
บทคัดย่อ (EN): Thai sugarcane clones are continuously developed to obtain new varieties from old outstanding clones. Most of good parents still gave good progenies. However, a few varieties are widely popular. According to this reason, the features of the 95 clones from recommended varieties, elite clones and land race clones were studied to find out good guidelines to utilize them to improve yield and high sugar content of new sugarcane clones. Each sugarcane clone was planted in 1 row per 5 meter long, and distance between row was 1.4 meters (harvest 3 meters) during April 2011 to April 2012 at Thaphra site, Khon Kaen Field Crops Research Center. Agronomical and botanical traits were recorded in every stage until the harvest. The results showed that more than 50% of clones, cane weight per square meter were distribute in 3-9 kg per square meter. Stem height at 4 months had a relation with stalk length at harvest and stalk length had a relation with cane weight. Brix at 8 months were ranged between 14 to 21%. Moreover, most of clones had brix value 16 to 18%. At 10 months, most of them were increase in brix values over 20%. The clone that provided > 22% brix value are 88-2-069, LK92-11, 7-35/7 and Khon Kaen 3. At harvesting (12 months), CCS value is dispersive between 4.0-16.9%. The clones providing CCS value >15% and producing consistently high brix are K90-54 and K84-200/SP50. Clone 88-2-069 showed higher brix from 7-12 months and CCS at harvest was13.5 %. The flowering of 62 clones were found at November-December and the 33 clones were no flower. Most of the outstanding clones came from the good parents, thus this study suggests 3 ways for utilization to breed new sugarcane clone including 1) the good clones are used as tester parent, 2) backcross to good parents, and 3) crossing between good clones.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 7
เอกสารแนบ: https://ag2.kku.ac.th/kaj/PDF.cfm?filename=08.pdf&id=635&keeptrack=10
คำสำคัญ: แนวทางการนำไปใช้ประโยชน์
คำสำคัญ (EN): Potential for utilization
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
คุณลักษณะของเชื้อพันธุกรรมอ้อยพันธุ์ไทยและแนวทางการนำไปใช้ประโยชน์
ไม่ระบุผู้เผยแพร่
2555
การใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางพันธุกรรมของต้นหนอนตายหยาก ความหลากหลายและสัมพันธ์ทางพันธุกรรมระหว่างอ้อยพันธุ์การค้า ในประเทศไทย ประโยชน์จากความหลากหลายทางพันธุกรรมของไผ่สายพันธุ์ที่พบ ณ ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หริภุญชัย จังหวัดลำพูน ความหลากหลายทางพันธุกรรมและจำแนกกลุ่มพันธุกรรมไก่พื้นเมืองในจังหวัดน่านด้วยไมโครแซทเทิลไลท์ การวิเคราะห์ความหลากหลายทางพันธุกรรมของกล้วยในจังหวัดนครสวรรค์ ลักษณะการดูดซับโพแทสเซียมของดินที่ใช้ปลูกอ้อยในจังหวัดสระแก้ว การศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของไก่พื้นเมืองในพื้นที่ภาคเหนือ การศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของลิ้นจี่ในแปลงรวบรวมพันธุ์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ การศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมมะม่วงโดยเทคนิคเครื่องหมายโมเลกุลเอส เอส อาร์ การศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชสกุลฮ้อม (Strobilanthes sp.) ด้วยเทคนิคเซลล์พันธุศาสตร์และชีววิทยาระดับโมเลกุล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก