สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาเปรียบเทียบแบบจำลองการประเมินสมบัติดิน ระหว่างวิธีการทางภูมิสถิติ และการใช้เครื่องมือวัดความต้านทานของกระแสไฟฟ้าเพื่อการสำรวจและจำแนกดิน : กรณีศึกษา พื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน(ที่สูง) บ้านห้วยน้ำใส ม.8 ต. บ้านบึง อ. บ้านคา จ. ราชบุรี
อุกฤษฏ์ ศิริปโชติ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การศึกษาเปรียบเทียบแบบจำลองการประเมินสมบัติดิน ระหว่างวิธีการทางภูมิสถิติ และการใช้เครื่องมือวัดความต้านทานของกระแสไฟฟ้าเพื่อการสำรวจและจำแนกดิน : กรณีศึกษา พื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน(ที่สูง) บ้านห้วยน้ำใส ม.8 ต. บ้านบึง อ. บ้านคา จ. ราชบุรี
ชื่อเรื่อง (EN): Study to Compare Models of Soil Properties Assessment Using Geostatistics and Electrical Resistivity Tomography (ERT) for Soil Survey: Application to Development of Zone (Highland) in Ban Huai Nam Sai Tambon Banbueang Amphoe Ban ka, Ratchaburi province..
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อุกฤษฏ์ ศิริปโชติ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Ukrit Siripachote
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. กรมพัฒนาที่ดิน
บทคัดย่อ: การศึกษาเปรียบเทียบแบบจำลองการประเมินสมบัติดิน ระหว่างวิธีการทางภูมิสถิติ และการใช้เครื่องมือวัดความด้านทานของกระแสไฟฟ้าเพือการสำรวจและจำแนกดิน : กรณีศึกษา พื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน(ทีสูง บ้านห้วยนำใส ม.5 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ด้วยการทำขอบเขตดินจากวิธีการทั้ง 3 วิธีนี้เพื่อจะให้เห็นว่าการสำรวจดิน เมือต้องการ จะทำขอบเขตดินนี้เพือความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลแล้วจะต้องมีการสำรวจดินในภาคสนามและในพื้นที่ด้วย เพื่อให้เห็นถึงลักษณะความแตกต่างของสภาพภูมิประเทศ การใช้ประโยชน์ที่ดิน วัตถุต้นกำเนิดดิน และระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงของดิน จากวิธีการศึกษา ทั้ง 3 วิธี จะทำให้เห็นได้ว่าแต่ละวิธีมีความแตกต่างของข้อมูลที่จะนำมาใช้ วิธีที่ 1 การสำรวจดินในภาคสนาม เป็นวิธีการทำการ สำรวจดินได้ดีทีสุด ที่ให้ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำ แต่อาจมีข้อจำกัดในระยะเวลาทีต้องเข้าพื้นที่สภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศรวมถึงความรู้พื้นฐานของตัวผู้ทำการสำรวจดิน การที่จะได้เส้นขอบเขตดินของวิธีการนี้ผู้ทำการสำรวจต้องมีความรู้ทั้งทางด้านกายภาพ ที่รวมถึงข้อมูลธรณีวิทยา ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภูมิอากาศ ระยะเวลา สภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน และวัตถุต้นกำเนิดดิน รวมถึงข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่ที่จะเข้าไปสำรวจดิน เช่น ที่ถัง หมู่บ้านอำเภอ ถนน ทางนั่ง เป็นต้น เพราะการจะได้เส้นขอบเขตดินมาแต่ละเส้นต้องอาศัยความรู้ดังกล่าว รวมถึงพื้นฐานในการกันเส้นขอบเขตดินที่ให้ลักษณะเส้นทีมีความสวยงามตามสภาพพืมทีรเส้นชัมความสูง วิธีที่ 2 การใช้เครื่องมือ ERT วิธีนีป็นวิธีที่!ด้ใช้เครืองมืออีกประเภทหนึงมาช่วยในการ ทำเส้นขอบเขตดิน โดยอาศัยเทคโน โลยีความด้านทานไฟฟ้าที่ใช้ตัววัดความด้านทานกระแสไฟฟ้าท่ฝังลงไปในดิน ตามแนวเส้นที่มีได้วางแผนทดสอบกับสภาพพืยทีเครื่องมือนีจะทำให้ได้เส้นขอบเขตดินอีกประเภท แต่เป็นลักษณะแคบตามแนวสายไฟที่มีการฝังตัววัดความต้านทานของกระแสไฟฟ้า ต้องทำในพื้นที่กว้างมาก แต่ถ้าจะทำต้องวางแนวการวางเส้นให้เป็นแบบ cross section จากบนลงล่างของพื้นที่ เพื่อจะได้เห็นลักษณะแนวโน้มของค่าความต้านในพื้นที่ซึ่งก่อนทำควรมีการวางแผนในการวางแผนวางเส้นก่อนจะเป็นการดีส่วนใหญ่ข้อมูลที่ได้เครื่องจะประมวลผลออกมาเป็น 2 ลักษณะ คือ การวางตามแนวเส้น และ cross sccion ของแนวเส้น ซึ่งจะได้ค่าความต้านทานในแนวเส้นที่ฝั่งตัววัดลงไปลึกภายใน 1-2 เมตร วิธีนี้ดีจะได้ทราบว่าในดินในพื้นที่มีลึกตื้นอย่างไร โดยดูกับลักษณะความดูดกลืนของสีต่างๆ เช่น ถ้าแสดงเป็นสีแดงอาจเจอหินกรวดหรือลูกรัง ถ้าแสดงเป็นสีน้ำเงินอาจจะเจอดินที่มีความชีม เป็นต้น วิธีที่ 3 การใช้โปรแกรม ArcGis เป็นวิธีการใช้โปรแกรม ArcGis ตั้งแต่เวอร์ชัน 9 เป็นต้นไป มาช่วยในการให้เส้นขอบเขตดินด้วยวิธีการกำหนดค่าทางสถิติเป็นตัวเลขลงไป เพื่อให้โปรแกรมคำนวณจากตัวเลขที่กำหนดลงไป การใช้วิธีการนี้ใช้ข้อมูลเนื้อดินเป็นตัวทดสอบด้วย วิธีการใช้คำสังต่างๆ กัน เพื่อดูแนวโน้มของเสั่นว่าเป็นลักษณะใดบ้าง การใช้โปรแกรมนีรหมาะทีจะ ใช้เป็นข้อมูลพืรฐานเบื้องต้นเพื่อจะช่วยในการตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้องมากน้อยเพียงใดก่อนและหลังเข้าพื้นที่เพื่อนำข้อมูลที่รู้ได้มาปรับแก้ให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง วิธีการศึกษานี้เป็นวิธีที่ให้ข้อมูลรวดเร็ว แต่อาจจะไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการทางดิน คำสั่งที่ได้ใกล้เคียงกับแนวเส้นขอบเขตดินมากที่สุดเป็นคำสั่ง IDW และ Spline ซึ่งอยู่ที่ผู้ใช้ว่าชอบคำสั่งใดในการนำไปใช้ทั้งนี้จากการศึกษานี้ถาวรที่จะมีการนำทุกวิธีมาใช้ผสมกันไป เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด การสำรวจเพื่อให้ได้เส้นขอบเขตดินถูกต้องแม่นยำที่สุด ควรนำทุกศาสตร์ของการสำรวจดินมาผสมผสานกันให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะถ้าขาดข้อมูลตัวใดตัวหนึ่งอาจจะทำให้ข้อมูล ที่รู้ได้รับไม่ครบถ้วน หรือไม่ละเอียดพอ อาจทำให้ได้รับข้อมูลทีไม่ถูกต้อง ผลจากการศึกษานี้ผลลัพธ์มีไม่หลากหลาย เนื่องจากผู้จัดทำได้เลือกพื้นที่เรียกตัวอย่างเป็นตัวแทนของการศึกษาตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่ให้ปรึกษาในการกำหนดขอบเขตพื้นที่ในการให้ขอบเขตดิน ได้เลือกเฉพาะลักษณะทางกายภาพที่ได้จากในแผนที่คือ เนื้อดินที่ต่างนักสำรวจดินให้ความแตกต่างกัน และทางผู้วิจัยกำลังรวบรวมข้อมูลในส่วนที่ขาดเพิ่มเติม เนื่องจากหมดเวลาในการดำเนินการของงานวิจัย (มีข้อจำกัดทางด้านวิธีการ และเวลาที่ต้องรอผู้เชี่ยวชาญ ในการใช้เครื่องมือ ERT เข้าพื้นที่และสรุปผล) เพื่อสนับสนุนข้อมูลว่าในชั้นความลึกแต่ละจุดเจาะดินมีความลึกใกล้เคียงกับเครื่องมือ ERT หรือไม่ เพื่อยืนยันคำตอบว่าเครื่องมือ ERT มีประสิทธิภาพตรงกับแบบจำลองที่เรื่องกำหนดให้ค่ามามากน้อยเพียงใด โดยจะดำเนินการเจาะดินตามแนว cross section ที่รู้ได้วางแนวสายของเครื่องมือ ERT
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: การสำรวจและจำแนกดิน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

อุกฤษฏ์ ศิริปโชติ. "การศึกษาเปรียบเทียบแบบจำลองการประเมินสมบัติดิน ระหว่างวิธีการทางภูมิสถิติ และการใช้เครื่องมือวัดความต้านทานของกระแสไฟฟ้าเพื่อการสำรวจและจำแนกดิน : กรณีศึกษา พื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน(ที่สูง) บ้านห้วยน้ำใส ม.8 ต. บ้านบึง อ. บ้านคา จ. ราชบุรีStudy to Compare Models of Soil Properties Assessment Using Geostatistics and Electrical Resistivity Tomography (ERT) for Soil Survey: Application to Development of Zone (Highland) in Ban Huai Nam Sai Tambon Banbueang Amphoe Ban ka, Ratchaburi province..". กรมพัฒนาที่ดิน. 2555

อุกฤษฏ์ ศิริปโชติ. "การศึกษาเปรียบเทียบแบบจำลองการประเมินสมบัติดิน ระหว่างวิธีการทางภูมิสถิติ และการใช้เครื่องมือวัดความต้านทานของกระแสไฟฟ้าเพื่อการสำรวจและจำแนกดิน : กรณีศึกษา พื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน(ที่สูง) บ้านห้วยน้ำใส ม.8 ต. บ้านบึง อ. บ้านคา จ. ราชบุรีStudy to Compare Models of Soil Properties Assessment Using Geostatistics and Electrical Resistivity Tomography (ERT) for Soil Survey: Application to Development of Zone (Highland) in Ban Huai Nam Sai Tambon Banbueang Amphoe Ban ka, Ratchaburi province..". กรมพัฒนาที่ดิน. 2555. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาเปรียบเทียบแบบจำลองการประเมินสมบัติดิน ระหว่างวิธีการทางภูมิสถิติ และการใช้เครื่องมือวัดความต้านทานของกระแสไฟฟ้าเพื่อการสำรวจและจำแนกดิน : กรณีศึกษา พื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน(ที่สูง) บ้านห้วยน้ำใส ม.8 ต. บ้านบึง อ. บ้านคา จ. ราชบุรี
อุกฤษฏ์ ศิริปโชติ
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2555
การออกแบบและสร้างเครื่องวัดคุณภาพน้ำยางพาราสด การศึกษาวัสดุคลุมดินที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศของสตรอเบอรี 2 สายพันธุ์ การออกแบบแบบจำลองการพยากรณ์ผลผลิตมันสำปะหลังในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การวิเคราะห์ความคุ้มค่าพื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน การประเมินรายการวิทยุ "1นาทีกับดินดำน้ำชุ่ม" ความหลากหลายของจุลินทรีย์ดินในพื้นที่เกษตรกรรมของอำเภอไพรบึงจังหวัดศรีสะเกษ การจัดการดินและปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน จังหวัดอุตรดิตถ์ (กลุ่มชุดดินที่ 35) การคัดแยกจุลินทรีย์ที่สามารถผลิตเอนไซม์เซลลูเลสจากดิน บริเวณห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ การลดการปนเปื้อน Enterococci, Coliform และ Escherichia coli ในน้ำใช้และน้ำแข็งของสถานแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้นในจังหวัดสงขลา การประเมินรอบการให้น้ำระดับไร่นา โดยอาศัยสมบัติทางกายภาพของดิน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair