สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์เปรียบเทียบระบาดวิทยาของเชื้อสตาฟฟิโลคอคคัสก่อโรคบนผิวหนังสุนัข ผู้เลี้ยงสุนัข และสัตวแพทย์และมาตรการป้องกันการติดต่อจากสุนัขสู่คน : รายงานการวิจัย
ณุวีร์ ประภัสระกูล - ไม่ระบุหน่วยงาน
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์เปรียบเทียบระบาดวิทยาของเชื้อสตาฟฟิโลคอคคัสก่อโรคบนผิวหนังสุนัข ผู้เลี้ยงสุนัข และสัตวแพทย์และมาตรการป้องกันการติดต่อจากสุนัขสู่คน : รายงานการวิจัย
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ณุวีร์ ประภัสระกูล
บทคัดย่อ: งานวิจัยในปีที่ 1 ได้รายงานความชุกและการกระจายเชิงระบาดวิทยาโมเลกุลของเชื้อ methicillin-resistant coagulase-positive staphylococci (CoPS) ในสุนัข เจ้าของสุนัข และสัตวแพทย์ ประกอบด้วยเชื้อ Staphylococcus pseudintermedius, S. schleiferi subsp. coagulans and S. aureus พบการระบาดของเชื้อดื้อยานี้อย่างกว้างขวางในโรงพยาบาลสัตว์ในประเทศไทย หลักฐานด้านสายพันธุ์ที่มีความเชื่อมโยงกันระหว่างสุนัขและผู้ที่เกี่ยวข้องกับสุนัข นอกจากนี้ยังพบสายพันธุ์ใหญ่ในการศึกษาที่ผ่านมาด้วย ดังนั้นการตรวจติดตามเชื้อแบคทีเรียดื้อยานี้เป็นความจำเป็นเพื่อศึกษาแหล่งที่มาของปัญหา และนำไปปรับใช้ในการกำหนดมาตรการลดการระบาดระหว่างคนและสัตว์ และใช้เป็นแนวทางปฏิบัติการจัดการด้านสุขศาสตร์ งานวิจัยในปีที่ 2 นี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษา หาลักษณะทางพันธุกรรมของการดื้อยาจากเชื้อที่พบในปีที่ 1 ปัจจัยของคงอยู่ของเชื้อดื้อยาชนิด methicillin-resistant coagulase positive staphylococci (MRCoPS) บนผิวหนังสุนัข และประเมินประสิทธิภาพของสารฆ่าเชื้อได้แก่ chlorhexidine gluconate in isopropanol, potassoum peroxymonosulfate oxidizing agent, silver nano products และ providone iodine จากการทดสอบความไวรับต่อยาต้านจุลชีพแสดงให้เห็นว่าเชื้อมากกว่า 80% ที่แยกได้จากกลุ่มประชากรที่ศึกษาแสดงการดื้อยาต้านจุลชีพหลายชนิด ได้แก่ tetracycline, aminoglycoside, erythromycin, clindamycin, chloramphenicol, trimethoprim, ciprofloxacin และ sulfamethoxazole ซึ่งเป็นยาพื้นฐานที่ใช้ในทางการแพทย์และสัตวแพทย์ จากการติดตามสุนัขที่ได้รับยาปฏิชีวนะชนิด cephalexin monohydrate ในระยะเวลา 4 สัปดาห์ พบการคงอยู่ของเชื้อดื้อยา MRCoPS พบว่าเพิ่มขึ้นจาก 6.12% เป็น 100% หลังการให้ยาปฏิชีวนะเพียง 1 สัปดาห์ และยังคงอยู่ภายในหกเดือนถึงหนึ่งปี เชื้อที่พบมากที่สุดคือ methicillin-resistant S. pseudintermedius (MRSP) และสามารถพบได้ตลอดทั้งการศึกษา แต่เชื้อ methicillin-resistant S. schleiferi subsp. coagulans (MRSSc) พบเฉพาะในระหว่างให้ยาเท่านั้น ในการทดสอบกับสารฆ่าเชื้อที่ใช้เป็นประจำในโรงพยาบาลและสารทางเลือกพบว่า 0.5 - 2% chlorhexidine gluconate ใน isopropanol และ 0.005-0.02% potassoum peroxymonosulfate oxidizing agent ให้ผลฆ่าเชื้อในกลุ่ม CoPS ภายในระยะเวลา 15 วินาที ในขณะที่การเจือจาง 10% povidone iodine ให้อยู่ในระดับ 0.1-1% จะเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อได้หมดในระยะเวลา 45 วินาที ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อนุภาคเงินระดับนาโน (silver nano) ที่นำมาทดสอบกำจัดเชื้อได้ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง จากการศึกษาครั้งนี้พบว่าการใช้ยาปฏิชีวนะมีผลกระทบกับการเพิ่มจำนวนประชากรของเชื้อดื้อยา และคงอยู่ในระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน การปรับใช้ 0.5% chlorhexidine gluconate ใน isopropanol และ 0.1% povidone iodine บนตัวสุนัข และ การใช้ 0.005% potassoum peroxymonosulfate oxidizing agent ในโรงพยาบาลสัตว์ เป็นทางเลือกเพื่อการลดการปนเปื้อนของเชื้อในสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระยะเวลาการออกฤทธิ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์อนุภาคเงินระดับนาโน (silver nano) ที่ทดสอบไม่เหมาะสำหรับการฆ่าเชื้อทันทีหลังการใช้ ผลงานวิจัยนี้สามารถนำมาปรับใช้เพื่อวางมาตรการการแพร่กระจายของเชื้อบนตัวสุนัขและการลดการปนเปื้อนของเชื้อ MRCoPS ในโรงพยาบาลได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/60411
คำสำคัญ: โรคติดเชื้อจากสัตว์
เจ้าของลิขสิทธิ์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์เปรียบเทียบระบาดวิทยาของเชื้อสตาฟฟิโลคอคคัสก่อโรคบนผิวหนังสุนัข ผู้เลี้ยงสุนัข และสัตวแพทย์และมาตรการป้องกันการติดต่อจากสุนัขสู่คน : รายงานการวิจัย
ไม่ระบุผู้เผยแพร่
2558
การวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมการข้าวกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ระยะที่ 2 ปัจจัยที่เป็นข้อจำกัดต่อการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์บางแก้วของผู้เลี้ยงสุนัขในจังหวัดพิษณุโลก การตรวจหา Suilysin และโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของ เชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส ที่แยกได้จากสุกรป่วย สุกรปกติที่เป็นพาหะของโรคและคนที่เกี่ยวข้องโดยใช้เทคนิค PCR โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาโรคใบขาวของอ้อย การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตรวจพบโรคพิษสุนัขบ้า จากรายงานผลการตรวจโรคพิษสุนัขบ้าของห้องปฏิบัติการในพื้นที่สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 2 การป้องกันและบรรเทาภัยแล้งแบบบูรณาการ การใช้แบบจำลองทางระบาดวิทยา SEIRS ประเมินมาตรการรองรับกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินสำหรับโรคไอเอ็มเอ็น ประสิทธิภาพของหญ้าปักกิ่งต่อการยับยั้งการเจริญของเนื้องอกที่ระบบสืบพันธุ์ในสุนัข การศึกษาความแตกต่างทางพันธุกรรมของเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส ที่แยกได้จากสุกรและคนโดยใช้เทคนิค pulsed-field gel electrophoresis การตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบติดตามการรักษาของสัตวแพทย์แบบหลายคนพร้อมกัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก