สืบค้นงานวิจัย
การศึกษารูปแบบการให้ปุ๋ยข้าวนาดำที่เหมาะสมเพื่อการเพิ่มผลผลิตข้าว และปรับปรุงสมบัติบางประการของดินที่บ้านพันธุลี ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
ภัชญา เสาเวียง - มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษารูปแบบการให้ปุ๋ยข้าวนาดำที่เหมาะสมเพื่อการเพิ่มผลผลิตข้าว และปรับปรุงสมบัติบางประการของดินที่บ้านพันธุลี ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
ชื่อเรื่อง (EN): The Study of Suitable Model of Fertilizers Application on Transplanted Rice for Increasing and Improving Some Soil Properties at Baan Puntulee, Norkmuang Sub-district , Muang District , Surin Province
บทคัดย่อ: ภัชญา เสาเวียง และทองอ่อน เสาเวียง : การศึกษารูปแบบการให้ปุ๋ยข้าวนาดำที่เหมาะสมเพื่อการเพิ่มผลผลิตข้าว และสมบัติบางประการของดินที่บ้านพันธุลี ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ (The Study of Appropriate Fertilizer Models Applied on Transplanted Rice for Increasing Rice Yields and Some Soil Properties at Puntulee Village, Norkmuang Sub-district, Muang District, Surin) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ปีการศึกษา 2552 การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบผลผลิตข้าวนาดำที่ได้รับรูปแบบการให้ปุ๋ยต่างชนิดกัน (2) เปรียบเทียบผลตอบแทนทางเศรษฐกิจข้าวนาดำที่ได้รับรูปแบบการให้ปุ๋ยต่างชนิดกัน และ(3) ศึกษาสมบัติบางประการของดินที่ปลูกข้าวนาดำที่ได้รับรูปแบบการให้ปุ๋ยต่างชนิดกัน ดำเนินการทดลองในพื้นที่นาของเกษตรกรบ้านพันธุลี ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้แผนการทดลองแบบสุ่มบล็อกสมบูรณ์ (Randomized Complete Block Design : RCBD) จำนวน 4 ซ้ำ 6 กรรมวิธีประกอบด้วย กรรมวิธีใส่ปุ๋ยพืชสดแหนแดง (อัตรา 400 กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยคอกมูลโค (อัตรา 160 กิโลกรัมต่อไร่) กรรมวิธีใส่ปุ๋ยคอกมูลโคอย่างเดียว (อัตรา 160 กิโลกรัมต่อไร่) กรรมวิธีไม่ใส่ปุ๋ย กรรมวิธีใส่ปุ๋ยพืชสดโสนอาฟริกัน กรรมวิธีใส่ปุ๋ยพืชสดถั่วพร้าและกรรมวิธีใส่ปุ๋ยตามวิธีของเกษตรกร (ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 อัตรา 37 กิโลกรัมต่อไร่) ใช้ข้าวพันธุ์ กข15 ในการทดลองโดยหว่านกล้าวันที่ 1 มิถุนายน 2552 ย้ายปักดำวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ระยะปักดำเท่ากับ 25 ? 25 เซนติเมตร จำนวน 5 ต้นต่อจับ จากผลการทดลองพบว่า (1) การใส่ปุ๋ยทั้ง 6 กรรมวิธีให้ผลผลิตและการเจริญเติบโตของข้าวแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง (p ? 0.01) โดยกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยเคมีตามวิธีของเกษตรกรให้ผลผลิตข้าวเปลือก จำนวนต้นต่อกอ ความสูงของลำต้น น้ำหนักฟาง จำนวนเมล็ดดีต่อรวง น้ำหนักเมล็ดดี 100 เมล็ด และจำนวนรวงต่อกอ เฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 235.50 กิโลกรัม/ไร่ 8.15 ต้น/กอ 124.02 เซนติเมตร 290 กิโลกรัม/ไร่ 55.50 เมล็ด/รวง 2.91 กรัม/ 100 เมล็ด และ 8.15 รวง/กอ ตามลำดับ ส่วนเมล็ดลีบ/รวง พบว่ากรรมวิธีการใส่ปุ๋ยเคมีตามวิธีของเกษตรกรให้จำนวนเมล็ดลีบ/รวงต่ำสุด เฉลี่ยเท่ากับ 3.75 เมล็ด/รวง และเมื่อพิจารณาโดยภาพรวมแล้วกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยที่ให้ผลผลิตและการเจริญเติบโตข้าวโดยเฉลี่ยสูงรองจากกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยเคมีได้แก่ กรรมวิธีการใส่ปุ๋ยคอก กรรมวิธีการใส่ปุ๋ยแหนแดง กรรมวิธีการใส่โสนอาฟริกัน กรรมวิธีการใส่ปุ๋ยถั่วพร้า และกรรมวิธีไม่ใส่ปุ๋ยตามลำดับ (2) ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจโดยวิเคราะห์ผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Marginal Rate of Return - MRR) จากกรรมวิธีที่ไม่ใส่ปุ๋ย พบว่ากรรมวิธีใส่ปุ๋ยคอกให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด (254.37 %) รองลงมา คือ กรรมวิธีใส่ปุ๋ยแหนแดง (102.50 %) และกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยเคมีตามวิธีของเกษตรกร (28.64%) ส่วนกรรมวิธีการใส่ปุ๋ย โสนอาฟริกันและกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยถั่วพร้าจัดว่าเป็นกรรมวิธีด้อย และ (3) คุณสมบัติบางประการของดินหลังการทดลองพบว่ากรรมวิธีใส่ปุ๋ยทั้ง 6 กรรมวิธีให้ปริมาณฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม แตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง (p ? 0.01) โดยกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยเคมีให้ปริมาณฟอสฟอรัส (1.35 mg/kg) และโพแทสเซียม (17.63 mg/kg) เฉลี่ยสูงสุด และนอกจากนี้ยังพบว่ากรรมวิธีการใส่ปุ๋ยทั้ง 6 กรรมวิธีให้ปริมาณอินทรียวัตถุแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ (p ? 0.05) โดยกรรมวิธีการใส่ปุ๋ยแหนแดงให้ปริมาณอินทรียวัตถุเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 0.57 % ส่วนค่าความเป็นกรด-ด่าง และความหนาแน่นรวมของดินพบว่ากรรมวิธีในการใส่ปุ๋ยทั้ง 6 กรรมวิธีให้ผลไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p > 0.05)
บทคัดย่อ (EN): PATCHAYA SAOVIANG AND THONG-ON SAOVIANG : THE STUDY OF APPROPRIATE FERTILIZER MODELS APLIED ON TRANPLANTED RICE FOR INCREASING RICE YIELDS AND SOME SOIL PROPERTIES AT PNTULEE VILLAGE, NORKMUANG SUB-DISTRICT, MUANG DISTRICT, SURIN) RAJABHAT UNIVERSITY SURIN, ACADEMIC YEAR, 2009 This study aimed to (1) compare productions of transplanted rice applied by different fertilizer models, (2) compare economic return of transplanted rice applied by different fertilizer models, and (3) study some soil properties after a trial applied by different fertilizer models. The study was conducted on the farmer’s field at Puntulee village, Norkmuang sub-district, Muang district, Surin province, by Randomized Completed Block Design (RCBD) with 4 replications and 6 treatments; control (no fertilizer), sesbania’s green manure, azolla (400 kg/rai) + cow manure (160 kg/rai), cow manure (160 kg/rai), jack bean’s green manure and farmer’s practice (N-P-K, fertilizer grade 16-16-8 at the rate of 37 kg/rai). RD15, rice variety, was used for seedlings, prepared on June 1, 2009. And then transplanted when they were 30 days old (July 2, 2009). Plant – space covered 25 ? 25 square of centimeters with 5 tillers/hill. The results revealed that (1) all grain and growth yields studied were significantly different (p ? 0.01); the farmer’s practice produced the highest of rice grain, tiller/hill, height, hay weight, filled grain/panicle, filled grain weight/ 100 seeds, no. of panicle/hill and the lowest of incomplete grain/panicle as average of 235.50 kg/rai, 8.15 tiller/hill, 124.02 cm , 290 kg/rai, 55.50 grains/panicle, 2.91 gram/100 seeds, 8.15 panicles/hill, and 3.75 grains/panicle respectively. By the whole perspective viewed on the grain and growth rice yields found that the dominants of sub-sequence were cow manure, azolla + cow manure, sesbania’s green manure, jack bean’s green manure, and no fertilizer respectively. (2) For economic return analyzed by marginal rate of return : MRR , it was found that cow manure gave the highest economic return (MRR = 254.37 %), followed by azolla + cow manure (MRR = 102.50%), and farmer’s practice (MRR = 28.64%), while others were dominated. And (3) For some soil properties (after trial) like BD and pH exhibited non-significant differences (p > 0.05), but in available phosphorus and exchangeable K, it did (p ? 0.01) ; the farmer’s practice still existed the highest available phosphorus (1.35 mg/kg) and exchangeable potassium (17.63 mg/kg). Besides, it was also found the significant difference (p ? 0.05) on organic matter ; azolla + cow manure still possessed at the top of 0.57 %.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
คำสำคัญ: การปรับปรุงดิน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษารูปแบบการให้ปุ๋ยข้าวนาดำที่เหมาะสมเพื่อการเพิ่มผลผลิตข้าว และปรับปรุงสมบัติบางประการของดินที่บ้านพันธุลี ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
30 ธันวาคม 2552
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การจัดการฟางข้าวเพื่อการปรับปรุงดินและเพิ่มผลผลิตข้าว การพัฒนาเชื้อราไตรโคเดอร์มาปฏิปักษ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดโรคข้าวเป็นชีวภัณฑ์เชิงพาณิชย์ การผลิต resistant starch จากแป้งข้าวด้วยวิธีการย่อยแป้งด้วยกรดร่วมกับการให้ความร้อนและความชื้น การศึกษารอยเท้าน้ำของข้าวใน 3 จังหวัด ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี การจัดการเกษตรอินทรีย์ เกษตรกึ่งอินทรีย์ และเกษตรเชิงพาณิชย์ ที่มีผลต่อบทบาท และความหลากหลายของจุลินทรีย์กลุ่มย่อยสลายเซลลูโลส และการเปลี่ยนแปลงความอุดมสมบูรณ์ของดินในนาข้าวหอมมะลิ จังหวัดสุรินทร์ ผลการตอบสนองต่อความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่เกิดจากความเค็มในสายพันธุ์ต่าง ๆ ของข้าวไทย การปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ในชุดดินโคราช (กลุ่มชุดดินที่ 35) สภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโดยใช้องค์ความรู้ใหม่ในการจัดการศัตรูข้าวเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตข้าวในนาชลประทาน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก