สืบค้นงานวิจัย
การประเมินอันตรายในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์
นายรังสิมันต์ ชอบกตัญญู - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: การประเมินอันตรายในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์
ชื่อเรื่อง (EN): Assessment of Harzard in Processing Pasteurized Crabmeat
บทคัดย่อ: ปูพาสเจอไรซ์ (Pasteurized crabmeat) เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง และต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐ ปูพาสเจอไรซ์ เป็นผลิตภัณฑ์จากเนื้อปูที่ได้จากปล้องต่างๆ ของขาเดิน(leg meat) เนื้อ ก้าม (pincer or claw meat) เนื้อล าตัว (body meat) เนื้อที่ได้จากโคนขา (should meat) อย่างใดอย่าง หนึ่งหรือหลายอย่างปนกัน จากนั้นบรรจุในภาชนะบรรจุและผ่านความร้อนอย่างเพียงพอโดยวิธีพาสเจอไรซ์เซ ซัน (pasteurization) ซึ่งใช้เวลาและอุณหภูมิแตกต่างกัน เช่น อุณหภูมิ 62.8 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 วินาที หรือ 77 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 วินาที การใช้อุณหภูมิและเวลานี้ยังไม่สามารถทำลายแบคทีเรีย ที่ทนร้อนอีกหลายชนิด จึงต้องเก็บผลิตภัณฑ์พาสเจอไรซ์ไว้ที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อป้องกันการเจริญของเชื้อ แบคทีเรียชนิดอื่น สำหรับเนื้อปูที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อนี้จะมีคุณค่าสารอาหารเกือบเท่ากับเนื้อปูก่อนผ่านการฆ่า เชื้อ ตลอดจนรสชาติของเนื้อปูจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเนื้อปูตามธรรมชาติ อันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้บริโภคในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์ มีในหลายขั้นตอน ตั้งแต่ 1) วัตถุดิบเบื้องต้น เนื่องจากปูม้าเป็นสัตว์ทะเล มีความเสี่ยงการปนเปื้อนของจุลินทรีย์กลุ่ม Vibrio spp. ที่พบ มากในอาหารทะเล ได้แก่ Vibrio cholerae, Vibrio parahemolyticus และ Vibrio vulnificus โดย Vibrio cholerae อันตรายด้านเคมี ได้แก่การปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะ ได้แก่ chloramphenical และ nitrofuran อีกทั้งปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงปูม้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งอาจมีการใช้ยาหรือสารเคมีในการเพาะเลี้ยง 2) การแกะปูใน สถานแปรรูปเบื้องต้น อาจมีการปนเปื้อนของสิ่งแปลกปลอม (Filth) และการปนเปื้อนของแบคทีเรียที่เป็น ดัชนีชี้วัดสุขอนามัยเช่น E. coli, Staphylococcus aureus และแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคเช่น Salmonella spp, Vibrio cholerae และ Listeria monocytogynes เป็นต้น 3) กระบวนการบรรจุและฆ่าเชื้อปูพาสเจอไรซ์ ซึ่งมีความเสี่ยงด้านจุลินทรีย์และสิ่งแปลกปลอมเช่นเดียวกับการแกะปู 4) ขั้นตอนการเก็บรักษา เนื่องจากปูพาสเจอไรซ์ จะจัดเก็บที่อุณหภูมิตู้เย็น เพื่อรักษารสชาติของเนื้อปู จากกระบวนการผลิตซึ่งมีหลายขั้นตอน และการฆ่าเชื้อที่ใช้อุณหภูมิต่ำ เวลาสั้นที่สุด เพื่อรักษา รสชาติของปู ดังนั้นการวางแผนการศึกษา การประเมินอันตรายด้านจุลินทรีย์จึงตรวจวิเคราะห์ปริมาณ แบคทีเรียในกระบวนการผลิตทั้ง 4 ขั้นตอน การประเมินอันตรายด้านเคมีจะประเมินในขั้นตอนการรับวัตถุดิบ และผลผลิตสุดท้าย ส่วนการประเมินอันตรายด้านกายภาพ เปรียบเทียบระหว่างปูที่แกะในสถานแปรรูป เบื้องต้นและปูในโรงงาน ส่วนการประเมินด้านสุขอนามัยของสถานประกอบการจะศึกษาข้อมูลผลการตรวจ โรคของคนงาน ผลการตรวจน้ำใช้น้ำแข็ง การสังเกตและสอบถาม เปรียบเทียบกับการเก็บตัวอย่างเพื่อ วิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ จากนั้นนำข้อมูล V. parahaemolyticus และ Salmonella ที่ได้มาวิเคราะห์ อันตรายของจุลินทรีย์เชิงปริมาณ ซึ่งผลการศึกษา ได้ผลดังนี้ 1 การปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในการแปรรูปเบื้องต้นปูพาสเจอไรซ์ เก็บตัวอย่างในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี 3 แห่ง และจังหวัดนครศรีธรรมราช 1 แห่ง ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2552 – เดือนสิงหาคม 2553 โดยเก็บ ตัวอย่างทั้งสิ้น 7 ครั้ง จาก 3 ขั้นตอนการผลิต ขั้นตอนละ 3 ซ้ำ ดังนี้ 1) ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ (ปูต้ม ปู รับมา และปูแช่เย็น) 2) ขั้นตอนการแกะเนื้อปู และ 3) ขั้นตอนการคัดกากและชั่ง พบว่าปริมาณแบคทีเรีย รวมในตัวอย่างส่วนใหญ่มีค่าเกิน 1 x 105 cfu/g ส่วนบริเวณมือพนักงาน และบริเวณโต๊ะแกะ พบมีแนวโน้ม สูงกว่าบริเวณพื้นผิวอุปกรณ์ใช้งาน ค่า Total coliforms, Fecal coliforms และ E. coli มีโอกาสพบมากใน ขั้นตอนการแกะเนื้อปู เชื้อ S. aureus มีโอกาสพบในทุกขั้นตอนการผลิต และพบในสถานแปรรูปเบื้องต้นทุก แห่ง แต่ปริมาณที่พบส่วนใหญ่มีค่าน้อยกว่า 100 MPN/g ส่วนเชื้อ V. parahaemolyticus ที่ตรวจพบมี ปริมาณไม่เกิน 100 MPN/g มีเพียง 1 ตัวอย่างที่มีค่าเกิน 100 MPN/g เชื้อ V. cholerae มีเปอร์เซนต์การ ตรวจพบในขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบเป็นส่วนใหญ่ กลุ่ม Salmonella spp. พบในปูแช่เย็น ขั้นตอนการแกะ เนื้อ และการคัดกากและชั่ง คิดเป็น 2.4 % ของตัวอย่างทั้งหมด โดยไม่พบในตัวอย่างของอุปกรณ์และคนงาน และตรวจไม่พบเชื้อ L. monocytogenes ในการศึกษาครั้งนี้ 2 การปนเปื้อนสารคลอแรมฟินิคอลและไนโตรฟูแรนส์ในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์ โดยรวบรวมตัวอย่าง จากสถานแปรรูปเบื้องต้น 4 แห่ง และโรงงาน จำนวน 2 โรง ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - สิงหาคม 2552 จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 345 ตัวอย่าง ประกอบด้วยตัวอย่างปูม้าสด ปู ม้าต้ม เนื้อปูแกะ และผลิตภัณฑ์เนื้อปูม้าพาสเจอไรซ์ นำตัวอย่างมาตรวจวิเคราะห์สารคลอแรมฟินิคอลด้วยเทคนิค Enzyme-Link Immunosorbance Assay (ELISA) และไนโตรฟูแรนส์ด้วยเทคนิค Liquid ChromatographyMass Spectrometer/Mass Spectrometer (LC/MS/MS) ผลปรากฏว่า ไม่พบการปนเปื้อนของสารคลอแรมฟินิ คอลในตัวอย่างปูม้าสด และปูม้าต้ม แต่มีการตรวจพบสารคลอแรมฟินิคอลในตัวอย่างเนื้อปูแกะ และผลิตภัณฑ์ เนื้อปูพาสเจอไรซ์ มีค่าอยู่ในช่วง 0.010 – 0.023 ไมโครกรัม/กิโลกรัม โดยปริมาณที่ตรวจพบมีค่าไม่เกินค่า Minimum Required Performance Limit (MRPL) 0.30 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ตามที่สหภาพยุโรปกำหนด สำหรับไนโตรฟูแรนส์ ตรวจไม่พบการปนเปื้อนเมตาโบไลท์ของกลุ่มสารไนโตรฟูแรนส์ 3 ชนิด คือ 3-amino-2oxazolidinone (AOZ), 3-amino-5-morpholinomethyl-2-oxazolidinone (AMOZ) และ 1aminohydantoin (AHD) แต่ตรวจพบการปนเปื้อนของสาร Semicarbazide (SEM) ในทุกประเภทตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 11.88 ของจำนวนตัวอย่าง โดยค่าที่พบอยู่ในช่วง 0.017 – 0.315 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ซึ่งไม่เกินค่า MRPL 1.00 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ตามที่สหภาพยุโรปกำหนด 3 การปนเปื้อนของสิ่งแปลกปลอมในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์ โดยเก็บตัวอย่างจำนวน 216 ตัวอย่าง จากสถานแปรรูปเบื้องต้น จำนวน 4 แห่ง และโรงงานผู้ผลิตจำนวน 2 โรง ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช ในเดือนพฤษภาคม และ สิงหาคม 2552 เพื่อศึกษาสิ่งแปลกปลอมด้วยวิธีตรวจหา สิ่งแปลกปลอมที่มองเห็นด้วยตาเปล่าและวิธีตรวจหาสิ่งแปลกปลอมที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ผล การศึกษา พบสิ่งแปลกปลอมประเภทเปลือกปู ได้แก่ เปลือกปูบริเวณก้ามและนิ้ว เปลือกปูบริเวณอก แผ่นไค ติน และรยางค์ปาก จำนวน 175 ตัวอย่าง โดยพบในกระบวนการผลิตของวัตถุดิบจากสถานแปรรูปปู 1 สถาน แปรรูปปู 2 สถานแปรรูปปู 3 และสถานแปรรูปปู 4 จำนวน 45, 45, 41 และ 44 ตัวอย่าง ตามลำดับ อย่างไร ก็ตาม การปนเปื้อนของสิ่งแปลกปลอมในผลิตภัณฑ์ปูพาสเจอไรซ์ มีจำนวนลดลงเมื่อผ่านขั้นตอนต่างๆ ของ กระบวนการผลิต โดยสิ่งแปลกปลอมประเภทเปลือกปูที่พบในผลิตภัณฑ์สุดท้ายมีค่าไม่เกิน 2 ชิ้นต่อปอนด์ และ อยู่ในเกณฑ์ยอมรับ นอกจากนั้น การศึกษาในครั้งนี้ไม่พบสิ่งแปลกปลอมที่บ่งชี้ถึงกรรมวิธีการผลิตที่ไม่ถูก สุขลักษณะ ๔ การปนเปื้อนของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์ ของโรงงานผู้ผลิตในเขตจังหวัด สุราษฎร์ธานี จำนวน 2 แห่ง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2552 ถึงเดือนสิงหาคม 2553 โดยทำการเก็บ ตัวอย่างทั้งสิ้น 4 ครั้ง จาก 5 ขั้นตอนการผลิต ขั้นตอนละ 3 ซ้ำ ดังนี้ 1) การรับวัตถุดิบ 2) การแยกเศษ ชิ้นส่วนปู 3) ก่อนการบรรจุกระป๋อง (จุดผสม) 4)หลังการพาสเจอไรซ์ และ 5) การเก็บรักษา พบว่า ปริมาณ แบคทีเรียรวมลดลงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้เมื่อผ่านขบวนการพาสเจอไรซ์ และปริมาณเชื้อเพิ่มขึ้นเมื่อผ่าน ขบวนการแปรรูป ปริมาณเชื้อกลุ่ม Total coliforms, fecal coliforms และ E. coli ที่พบส่วนใหญ่มีค่าไม่ เกิน 10 MPN/g แต่ตัวอย่างส่วนใหญ่ตรวจไม่พบเชื้อกลุ่มนี้ และ E. coli ตรวจพบเฉพาะโรงงาน 1 เชื้อ Salmonella spp. ตรวจพบเฉพาะโรงงาน 1 ในขั้นตอนการรับวัตถุดิบ และขั้นตอนการผสม 8.33 % และ 16.67 % ตามลำดับ เชื้อ V. parahaemolyticus ตรวจพบเฉพาะโรงงาน 1 ที่ระดับ < 10 MPN/g เชื้อ S. aureus พบทุกขั้นตอนการผลิตก่อนการพาสเจอไรซ์ และพบในตัวอย่างทุกตัวอย่างจากขั้นตอนการแยกเศษ ชิ้นส่วนปู ส่วนเชื้อ V. cholerae และ L. monocytogenes ตรวจไม่พบในการศึกษาครั้งนี้ ๕ การปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในน้ำและน้ำแข็งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์ เก็บตัวอย่างน้ำและ น้ำแข็งจากสถานแปรรูปเบื้องต้นปูพาสเจอไรซ์ 4 แห่ง โรงงานผลิตปูพาสเจอไรซ์ 2 โรง และโรงงานผลิตน้ำแข็ง 2 โรง ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ถึงเดือนสิงหาคม 2553 โดยเก็บตัวอย่างทั้งสิ น 7 ครั้ง เป็น ตัวอย่างน้ำใช้ และน้ำแข็งจากสถานแปรรูปเบื้องต้นปู พาสเจอไรซ์จำนวน 150 และ 213 ตัวอย่าง โรงงานผลิตปูพาสเจอไรซ์จำนวน 42 และ 39 ตัวอย่าง โรงงานผลิตน้ำแข็งเก็บตัวอย่างน้ำ น้ำแข็ง และ swab test จ้านวน 84, 84 และ 55 ตัวอย่าง ตามล้าดับ พบว่าน้ำที่ใช้ในสถานแปรรูปเบื้องต้นปูพาสเจอไรซ์ทั้ง 4 แห่ง ยังคงตรวจพบการปนเปื้อนของจุลินทรีย์เกินมาตรฐานในกลุ่มแบคทีเรียรวมจากสถานแปรรูปเบื้องต้น 2 แห่ง กลุ่ม Total coliforms จากสถานแปรรูปเบื้องต้น 1 แห่ง E. coli จากสถานแปรรูปเบื้องต้น 2 แห่ง V. cholerae nonO1/O139 จากสถานแปรรูปเบื้องต้น 1 แห่ง และ Salmonella spp. จากสถานแปรรูป เบื้องต้น 1 แห่ง น้ำของโรงงานตรวจไม่พบจุลินทรีย์กลุ่มที่ศึกษา น้ำของโรงน้ำแข็งทั้ ง 2 โรงตรวจพบปริมาณ แบคทีเรียรวม Total coliforms และ E. coli มีค่าเกินมาตรฐานในน้ำใช้ละลายบล็อก คุณภาพน้ำแข็งของ สถานแปรรูปเบื้องต้นทั้ง 4 แห่ง ตรวจพบการปนเปื้อนของจุลินทรีย์เกินมาตรฐานทุกกลุ่มที่ศึกษา ได้แก่ ปริมาณแบคทีเรียรวม Total coliforms, E. coli, V. cholerae nonO1/O139 และ Salmonella spp. น้ำแข็งที่ใช้ในโรงงานทั้ง 2 โรง และที่ผลิตจากโรงน้ำแข็ง ทั้ง 2 โรงตรวจพบปริมาณแบคทีเรียรวม Total coliforms และ E. coli มีค่าไม่ผ่านมาตรฐาน แต่ตรวจไม่พบ V. cholerae nonO1/O139 และ Salmonella spp. นอกจากนี้ ตรวจพบ E. coli บริเวณพื้นผิวด้านในของรถขนส่งน้ำแข็ง 1 ตัวอย่างมีค่า เท่ากับ 4 MPN/25cm2 การตรวจพบจุลินทรีย์ในน้ำและน้ำแข็งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์พบ ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากน้ำแข็ง จึงควรเพิ่มความระมัดระวังเพื่อควบคุมกระบวนการผลิตในขั้นตอนการแกะ เนื้อปูและการเก็บรักษาคุณภาพเนื้อปูด้วยน้ำแข็ง ๖. การประเมินสุขลักษณะในสถานแปรรูปเบื้องต้นปูพาสเจอไรซ์ ผลการประเมินสุขลักษณะในสถานแปรรูป สัตว์น้ำเบื้องต้นปูพาสเจอไรซ์ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี 3 แห่ง และจังหวัดนครศรีธรรมราช 1 แห่ง เพื่อ ศึกษาปัจจัยที่มีความเสี่ยงที่มีต่อสุขลักษณะในการผลิตโดยแบ่งปัจจัยออกเป็น 4 ด้าน คือด้านโครงสร้างวัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านบุคลากร ด้านน้ำใช้-น้ำแข็ง และด้านกระบวนการผลิต ทำการเก็บ ตัวอย่างเนื้อปู น้ำใช้ น้ำแข็ง และ swab วัสดุอุปกรณ์ ตรวจวิเคราะห์ทางด้านจุลินทรีย์ โดยเริ่มเก็บตัวอย่างใน เดือนกุมภาพันธ์ 2552 ถึงเดือนสิงหาคม 2553 และสัมภาษณ์บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต จำนวน 2 ครั้ง พบว่าสุขลักษณะสถานแปรรูปปูทั้ง 4 แห่งมีความเสี่ยงน้อยในด้านโครงสร้าง วัสดุอุปกรณ์แต่ พบความเสี่ยงปานกลางเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก นอกจากนี้ยังพบว่าสถานแปรรูปปู 1 และ 3 มีความเสี่ยง ในระดับต่ำที่จะเกิดการปนเปื้อนไนโตรฟูแรนส์และคลอแรมฟินิคอล ด้านบุคลากรพบว่าพนักงานทุกสถานแปรรูปปูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขลักษณะเป็นอย่าง ดี รวมทั้งผู้บริหารให้ความสำคัญในกระบวนการผลิต จึงไม่พบความเสี่ยงในสถานแปรรูปปู 1 แต่พบความเสี่ยง ในการปนเปื้อน total viable count (TVC) ในสถานแปรรูปปู 2, 3 และ 4 พบความเสี่ยงในการปนเปื้อน Vibrio cholerae ในสถานแปรรูปปู 2 และพบความเสี่ยงในการปนเปื้อน total coliforms, fecal coliforms และ Escherichia coli ในสถานแปรรูปปู 3 ด้านน้ำใช้ พบความเสี่ยงในการปนเปื้อน total viable count (TVC) ในสถานแปรรูปปูทุกแห่ง สถานแปรรูปปู 3 พบความเสี่ยงในการปนเปื้อน V. cholerae สถานแปรรูปปูทุกแห่งมีโอกาสที่จะเกิดการ ปนเปื้อน total coliforms, fecal coliforms และ Escherichia coli ในด้านน้ำแข็ง พบว่าสถานแปรรูปปู 1, 3 และ 4 มีความเสี่ยงสูงที่จะปนเปื้อน total viable count (TVC), total coliforms, fecal coliforms, Escherichia coli และ Salmonella spp. ด้านกระบวนการผลิตสถานแปรรูปปูทุกแห่งมีความเสี่ยงที่จะปนเปื้อน total viable count (TVC) และสถานแปรรูปปู 3 มีความเสี่ยงที่จะปนเปื้อน total coliforms, fecal coliforms และ Escherichia coli สถานแปรรูปทุกแห่งมีกระบวนการคัดแยกสิ่งแปลกปลอมทำให้ไม่พบความเสี่ยงที่จะเกิด การปนเปื้อนสิ่งปลอมปน (filth) ส่วนการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ในกระบวนแปรรูปปูยังไม่ส่งผลกระทบต่อ ผลิตภัณฑ์ปูพาสเจอไรซ์บรรจุกระป๋องเนื่องจากกระบวนการให้ความร้อนสามารถทำลายเชื้อให้อยู่ในระดับที่ ยอมรับได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: การปนเปื้อน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประเมินอันตรายในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์
กรมประมง
31 มีนาคม 2554
กรมประมง
คุณภาพด้านจุลชีววิทยาในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์ การปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์ การปนเปื้อนของสิ่งแปลกปลอมในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์ การปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในน้ำและน้ำแข็งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปูพาสเจอไรซ์ การประเมินสุขลักษณะในสถานแปรรูปเบื้องต้นปูพาสเจอไรซ์ การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร ความหลากหลายทางชีวภาพของปูบริเวณหมู่เกาะมัน จังหวัดระยอง รูปแบบการวิเคราะห์อันตรายและการควบคุมจุดวิกฤตสำหรับกระบวนการผลิตน้ำปลาร้าปรุงรส การจัดการความปลอดภัยในกระบวนการผลิตปลากะตักแห้งเพื่อการส่งออก การปรับปรุงกระบวนการผลิตปุ๋ยชีวภาพโรงงานขนาดเล็กในจังหวัดพัทลุง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก