สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการผลิตลำไยอินทรีย์
ปฏิภาณ สุทธิกุลบุตร - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการผลิตลำไยอินทรีย์
ชื่อเรื่อง (EN): DEVELOPMENT OF AN APPROPRIATE TECHNOLOGY FOR ORGANIC LONGAN PRODUCTION
บทคัดย่อ: แผนงานวิจัยเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการผลิตลำไยอินทรีย์ แบ่ง งานวิจัยออกเป็น 3 โครงการย่อยคือ โครงการที่ 1 การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการจัดการ ธาตุอาหารลำไยอินทรีย์ โครงการที่ 2 การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการควบคุมศัตรูลำไยโดย ไม่ใช้สารเคมี และ โครงการที่ 3 การศึกษาผลการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์ (PGPR) ต่อการดึงดูดธาตุอาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของลำไย การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการจัดการธาตุอาหารลำไยอินทรีย์ การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการควบคุมศัตรูลำไยโดยไม่ใช้สารเคมี การศึกษาผลการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์ต่อ (PGPR) การดึงดูด ธาตุอาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของลำไย การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการจัดการลำไยอินทรีย์ ได้แบ่งงานออกเป็น 3 ส่วนคือ งานด้านการจัดการธาตุอาหาร การศึกษาการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์ (PGPR) จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน และการควบคุมศัตรูลำไยในระบบอินทรีย์ ในจังหวัด พะเยา โดยการศึกษาด้านธาตุอาหารพบว่า พื้นที่ที่ปลูกลำไยอินทรีย์ในที่ลุ่มกับที่ดอนดินในจังหวัด เชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน มีความอุดมสมบูรณ์ในดินที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการดูดใช้ธาตุอาหาร ในใบแตกต่างกันด้วยและข้อจำกัดในการปลูกในที่ดอนคือการจัดการน้ำ สำหรับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ชนิดต่างๆ เช่น มูลวัว รำข้าว กากถั่วเหลือง มูลค้างคาว หินฟอสเฟต และโดโลไมด์ พบว่า การใช้ มูลวัวจะให้ปริมาณธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี สะสมในดินสูงที่สุด ส่วนมูลค้างคาว รำข้าว 2 และหินฟอสเฟต จะให้ปริมาณธาตุฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์และโพแทสเซียมสะสมในดินสูง ที่สุด นอกจากนั้นการใช้มูลค้างคาวจะให้ปริมาณของ ฟอสฟอรัสที่เป็ นประโยชน์ สังกะสี และ ทองแดงสะสมในดิน นอกจากนั้นการปลูกถั่วเพื่อเป็นปุ๋ยพืชสดใต้ต้นลำไยไม่ควรกระทำเนื่องจาก ภายใต้พุ่มลำไยไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของถั่ว และส่งผลให้การสร้างมวลชีวภาพไม่เพียงพอ จนมีผลต่อคุณภาพของลำไย การศึกษาการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์ (PGPR) ต่อการดึงดูดธาตุ อาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของลำไย ใน 6 อำเภอ เขตจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน คือได้แก่ อำเภอสันป่ าตอง อำเภอหางดง อำเภอสารภี อำเภอแม่ออน อำเภอแม่ทา และอำเภอทุ่งหัวช้าง พบว่า ปริมาณเชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซา ของตัวอย่างดินทั้ง 6 อำเภอมีค่าเฉลี่ย 17.0 สปอร์/ดิน 10 กรัม โดยพบว่าที่อำเภอสารภีมีปริมาณสปอร์หนาแน่นสูงที่สุดคือ 19.67 สปอร์/ดิน 10 กรัม และ ไม่แตกต่างในทางสถิติกับอำเภออื่น รูปร่างลักษณะสปอร์โดยทั่วไปค่อนข้างกลม แต่มีความ หลากหลายของสีสปอร์ เช่นสีดำ ขาว เหลือง ส้ม ส้มแดง และขาวเหลือง เป็นต้น และผลของการใช้ เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์ (PGPR) ต่อการดึงดูดธาตุอาหาร การเจริญเติบโตและ ผลผลิตของลำไย ในสภาพแปลงปลูกที่ทำการศึกษาในสวนลำไยอินทรีย์ เขตอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ค่าความเป็นกรด-ด่างของดินระดับบน โดยเฉลี่ยลดลงเล็กน้อย โดยการใช้ PGPR มีผลทำให้ค่าความเป็นกรด-ด่างสูงกว่าตำรับอื่น ขณะที่พบว่า ปริมาณอินทรียวัตถุเพิ่มขึ้น เล็กน้อยเมื่อเทียบกับดินก่อนการทดลอง สำหรับปริมาณฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่สกัดได้ลด ต่ำลงทั้งในปี การทดลองที่ 1 และปี การทดลองที่ 2 เหลือเพียง 15.5 และ 7.5 mgP/kg และปริมาณ โพแทสเซียม เหลือเพียง 361 และ 392 mgK/kg ส่วนการทดสอบในกระถางพบว่า พบว่าเชื้อรา ไมคอร์ไรซาที่คัดเลือกได้จากอำเภอแม่ทามีความสามารถในการเข้ารากสูงที่สุดและปริมาณสปอร์ ไมคอร์ไรซาสูงที่สุดหลังจากการใส่เชื้อนาน 12 เดือน ในการศึกษาการควบคุมศัตรูลำไยนั้นได้การศึกษาผลของการพ่นน้ำส้มควันไม้ สารสกัดพืชสูตรผสม (โล่ติ้น 40% หนอนตายหยาก 20% บอระเพ็ด 5% ตะไคร้หอม 5% ยูคาลิปตัส 5% ข่า 5% มะคำดีควาย 5%) สารสกัดหยาบยี่โถ สารสกัดสะเดา จุลินทรีย์ Bacillus subtilis จุลินทรีย์ Trichoderma spp. และสารสกัดหยาบมะรุม ต่อการควบคุมศัตรูลำไยในสภาพแปลงปลูก และในโรงเรือนมุ้งตาข่าย ระหว่างปี 2555-2556 พบว่า การพ่นสารสกัดพืชสูตรผสมอัตราเจือจางน้ำ 400 เท่า ทุกๆ 2 สัปดาห์ให้ผลดีที่สุดในการควบคุมแมลงศัตรูลำไย โดยสามารถลดความเสียหาย จากการเข้าทำลายของแมลงได้ 41.9% เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่ใช้สาร (control) การปลูกเลี้ยง ลำไยภายใต้โรงเรือนมุ้งตาข่าย มีการระบาดและเข้าทำลายของแมลงต่ำกว่าสภาพแปลงปลูก แต่มี ปัญหาการออกดอกติดผลน้อย เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของระดับอุณหภูมิในโรงเรือน และการขาด 3 แมลงช่วยผสมเกสร พบการระบาดและเข้าทำลายของโรคลำไยเพียง 1 ชนิดคือ โรคจุดสนิม และมี ระดับความเสียหายเฉลี่ยในทุกกรรมวิธีต่ำมาก กรรมวิธีต่างๆ ยังให้ผลไม่เด่นชัดในการควบคุมโรค เนื่องจากมีการระบาดของโรคลำไยในแปลงที่ศึกษาน้อยมาก การควบคุมศัตรูลำไยในทุกกรรมวิธี ไม่มีผลต่อการออกดอก การติดผล และคุณภาพผล แต่กรรมวิธีการพ่นสารสกัดพืชสูตรผสม มีแนวโน้มของการออกดอก-ติดผลสูงสุด และให้ปริมาณผลผลิตที่แตกต่างจากต้นที่ไม่ให้สาร (control) คำสำคัญ: เกษตรอินทรีย์ ลำไย ธาตุอาหารพืช ปุ๋ยอินทรีย์ สารสกัดจากพืช จุลินทรีย์ดิน ไมคอร์ไรซา พีจีพีอาร์
บทคัดย่อ (EN): Development of an appropriate management technology for organic logan production was studied in 3 parts ; 1) plant nutrition management, 2) the effect of abuscular mycorrhiza fungi and plant growth promoting rhizobacteria (PGPR) and 3) pest control for organic logan production. A survey on soil fertility, an amount of nutrient in longan leaves, and yield giving of organic longan gown in Chiang Mai and Lamphun provinces. This resulted in the difference in soil fertility, an amount of nutrient in longan leaves and an amount of yields. For lowland orchards, the farmers there could manage water appropriately. This made organic fertilizer release nutrient beneficial to longan trees in a greater amount than that of upland orchards having a limitation in water. However, it would not have an effect on organic longan production if the farmers could solve the problem in water sources. An effect of various kinds of organic fertilizer on the level of nutrient in soil and change of an amount of nutrient in organic longan leaves (E-dor varieties). Cow manure, rice bran, soybean roughage, bat feces, rock phosphate and dolomite were studied. It was found that cow manure could give a highest amount of calcium, manganese, and zinc accumulated in soil. Meanwhile, bat feces, rice bran, and rock phosphate could give a highest amount of phosphorus and potassium. An effect of legume used as green manure on the level of nutrient in soil, change of an amount of nutrient in organic longan leaves, and yield giving. Black bean and red bean were grown to be green manure. After that, an amount of nutrient in soil and quality of longan yields were investigated. It was found that the two types of beans harrowed under the longan bushes could give a small amount of nutrient. Besides, growing beans had an effect on increased acid in soil under longan bushes. This might be because the period of green manor production was too short. Bean plants absorbed nutrient in soil under longan bushes and when it was furrowed, nutrient obtained from bean growing was still not released due to factors on time and various environmental conditions. To study the effect of abuscular mycorrhiza fungi and plant growth promoting rhizobacteria (PGPR) on nutrients uptake, growth and yield of longan was consisted. The variation and population of abuscular mycorrhiza fungi under longan canopies was studied from sampled that collected from different orchard at 6 districts in Chiang mai and Lamphun provinces 5 such as Sapatong, Hong Dong, Saraphee, Mae On, Mae Tha and Thung Hua Chang. The result shows the average of population of mycorrhiza as 17.0 spores/ 10 g soil. At Saraphee district, the population of mycorrhiza got the peak at 19.67 spores/10 g soil but not significant with others. Normally, the shape of spores reported in often circle or oval shape, and they have many colors like black, white, yellow, orange, orange-red, white-yellow, etc. The respond of the usage of abuscular mycorrhiza and PGPR on nutrients uptake, growth and yield of longan at Doi Saket district orchard was studied 2 annuals. The result found that the average of soil pH in topsoil slightly decreased and the applied only PGPR caused the soil pH higher than other treatments. Organic matter was slightly increased compared with soil sample before treated. Extractable phosphorus and potassium were reduced in the end of experiment on the first and second years after application of treatments to 15.5 and 7.5 mgP/kg, 361 and 392 mgK/kg respectively. The efficiency of abucular mycorrhiza fungi on longan seeding growth in pot experiment was study. The result showed that AMF of Mae Tha site caused the highest percentage of root colonization and spores mycorrhiza after 12 months inoculated. This research was aimed to investigate the effect of foliar applications of wood vinegar, Bacillus subtilis, Trichoderma spp., and some plant extracts [neem, oleander, drumstick, mixed plant extracts (tuba root, Stemona collinsae Craibr, Tinospora crispa L., citronella grass, galanga, soap nut tree, eucalyptus)] on the severity of diseases and insect pests in longan trees under net house and field conditions. The results showed that the application of mixed plant extract gave the best result on the reduction of percent diseases and insect pests severity compared among treatment and control. The severity of diseases and insect pests of longan trees were decreased under net house condition, but there was some problem with the low fruit setting due to the lack of pollinator and the increasing of average temperature inside. Algal leaf spot was only one kind of longan disease which occurred in this experiment with low severity. All treatments were not clearly reduced the severity of diseases in longan. Flowering, fruit setting and fruit quality were not significantly different among treatment, but the application of mixed plant extract trended to increase fruit setting and yield of longan trees under field condition. Key words: Organic culture, Longan, Plant nutrition, Organic fertilizer, Plant extract, Soil microorganism, Micorrihzal fungi, PGPR
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: ราไมคอร์ไรซา
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ปฏิภาณ สุทธิกุลบุตร. "การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการผลิตลำไยอินทรีย์DEVELOPMENT OF AN APPROPRIATE TECHNOLOGY FOR ORGANIC LONGAN PRODUCTION". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2555

ปฏิภาณ สุทธิกุลบุตร. "การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการผลิตลำไยอินทรีย์DEVELOPMENT OF AN APPROPRIATE TECHNOLOGY FOR ORGANIC LONGAN PRODUCTION". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2555. Print.



TARR Wordcloud:
การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการผลิตลำไยอินทรีย์
ปฏิภาณ สุทธิกุลบุตร
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
30 กันยายน 2555
การตัดสินใจเพื่อการผลิตและจำหน่ายลำไยปลอดภัยและลำไยอินทรีย์อย่างเหมาะสมด้วยแนวคิดเกษตรแปลงใหญ่อย่างฉลาด การผลิตลำไยอินทรีย์ : การศึกษาวิธีการชักนำการออกดอก การถ่ายทอดเทคโนโลยีเหมาะสมสำหรับการผลิตลำไยในเชิงพาณิชย์ โครงการพัฒนาต้นแบบการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตลำไยอินทรีย์ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน สภาพการผลิตลำไยของเกษตรกรที่เข้าร่วมระบบการผลิตตามการเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ของเกษตรกรในจังหวัดจันทบุรี การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการผลิตทางการเกษตรเพื่อการพึ่งพาตนเองของเกษตรกรบ้านป่าบง ตำบลตะเบาะ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ สภาพการผลิตและการตลาดลำไยของเกษตรกรในจังหวัดลำพูน อิทธิพลของต้นตอและตอกลางที่มีผลต่อการออกดอกของลำไยอินทรีย์ แนวทางการผลิตและการตลาดลำไยในจังหวัดเชียงราย การจัดการธุรกิจลำไยอินทรีย์ในเขตภาคเหนือตอนบนของไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair