สืบค้นงานวิจัย
การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นการละเล่นพื้นบ้าน “บะข่างโว่” กรณีศึกษา: เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
จิรวรรณ บุญมี - มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นการละเล่นพื้นบ้าน “บะข่างโว่” กรณีศึกษา: เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Local Wisdom Conservation: “Ba Khang Woh” Folk Play at Fa-ham Tambon Municipality, Muang District,ChiangMaiProvince.
บทคัดย่อ: ชื่องานวิจัย การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นการละเล่นพื้นบ้าน “บะข่างโว่” กรณีศึกษา: เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ชื่อผู้วิจัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์จิรวรรณ บุญมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธวัชชัย บุญมี โครงการวิจัยเรื่อง การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นการละเล่นพื้นบ้าน “บะข่างโว่” กรณีศึกษา: เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับบะข่างโว่จากปราชญ์ชาวบ้านและผู้รู้ในชุมชนเทศบาลตำบล ฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนเพื่อจัดทำและประเมินคุณภาพของ สื่อสิ่งพิมพ์ที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับบะข่างโว่ ผู้วิจัยรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับบะข่างโว่โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกจากปราชญ์ชาวบ้าน และผู้รู้ในชุมชนเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจัดกิจกรรมจัดการความรู้ และจัดเวทีชาวบ้านโดยมีบุคคลกลุ่มดังกล่าวเข้าร่วมกิจกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม นำข้อมูลมาวิเคราะห์ผลโดยใช้วิธีการผสมผสานทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้ บะข่างโว่ คือ ลูกข่างชนิดหนึ่งที่ใช้ไม้ไผ่เป็นวัสดุหลักในการทำ มีเอกลักษณ์อยู่ที่เสียงดัง “โว่ๆ” ในขณะที่ลูกข่างกำลังหมุน สันนิษฐานว่าบะข่างโว่เป็นของเล่นที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถูกห้ามเล่นในช่วงระหว่างสงคราม ทำให้ความนิยมเล่น บะข่างโว่ลดลง และเริ่มสูญหายไปทีละน้อย ในปีพ.ศ. 2538 นายอานนท์ ไชยรัตน์ และ นายคัณโท อินทแกล้ว เป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมแข่งขันบะข่างโว่ขึ้นเป็นครั้งแรกในงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุ ณ วัดสันทรายต้นกอก ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา นับตั้งแต่นั้นมาก็มีการจัดกิจกรรมการแข่งขันบะข่างโว่ขึ้นเป็นประจำทุกปีมาจนถึงปัจจุบัน สื่อสิ่งพิมพ์ เรื่อง “บะข่างโว่” เป็นหนังสือขนาด A5 พิมพ์ 4 สี จำนวน 32 หน้า พิมพ์ที่ I Think Graphic and Printing พิมพ์ครั้งที่ 1 ในปี พ.ศ. 2558 จำนวน 300 เล่ม ภายในหนังสือมีหัวข้อและเนื้อหาเกี่ยวกับบะข่างโว่ ประกอบด้วย ประวัติความเป็นมา ส่วนประกอบต่างๆ อุปกรณ์ในการทำ ขั้นตอนการทำ วิธีการเล่น เทคนิคการเล่น อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นและอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน กติกาการแข่งขัน ตลอดจนคุณค่าและประโยชน์ของบะข่างโว่ ผลการประเมินคุณภาพของสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับบะข่างโว่จัดอยู่ในระดับดีมาก ทั้งในด้านสื่อสิ่งพิมพ์ ด้านเนื้อหา ด้านภาษา ด้านตัวอักษร และด้านภาพประกอบ
บทคัดย่อ (EN): Research Title Local Wisdom Conservation: “Ba Khang Woh” Folk Play A Case Study of Fa-ham Tambon Municipality, Muang District, Chiang Mai Province Authors Assistant Professor Jirawan Boonmee Assistant Professor Thawatchai Boonmee The research of local wisdom conservation: “Ba Khang Woh” folk play, a case study of Fa-ham tambon municipality, Muang district, Chiang Mai Province is objected to gather knowledge about the local wisdom about Ba Khang Woh from expert villagers and scholars who know the community at Fa Ham district, in Chiang Mai and to prepare as well as assess the quality of the publication that based on their knowledge. The researcher consolidated Ba Khang Woh knowledge by performing the depth interview with scholars and villagers in Fa-ham municipality. It raised the activities to promote knowledge and community’s seminar in order to induce people to join the activities. Tools were applied by interview form and questionnaire, whereas the data were analyzed by using a combination of both quantitative and qualitative approach. The results were as followed: Ba Khang Woh was one of the gyroscopes that use bamboo as its main material. It had a unique “Woh” sound when the gyroscopes were spun in motion. The assertion was that this toy had been created since the era of World War 2 but had been banned, thus reducing its popularity as a form of entertainment in the period of 1995. Mr. Arnon Chairath and Mr. Kantho Inthaklew were the leaders of coordinating the Ba Khang Woh competition event. It was the first time that where there was a festival features bathing relics at Sansai Tonkok Temple, which falls on Visakha Bucha Day. Since then, tournaments had been currently organized at Ba Khang Woh on an annual basis. The publication of Ba Khang Woh was in a size A5 book, 4 color printing at 32 pages entitled “I Think Graphic and Printing”, the first issue was in the year 2015. There were 300 copies of the book with the title and content about Ba Khang Woh consisting of contents with the history, the various components, the equipment in the process of making the play techniques, items used for the play, used in the race, the rules, as well as the value and benefits of Ba Khang Woh. The quality of Ba Khang Woh book was at an outstanding level in terms of content, language, publication of letters and illustrations.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
คำสำคัญ: การจัดการความรู้
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นการละเล่นพื้นบ้าน “บะข่างโว่” กรณีศึกษา: เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
30 กันยายน 2558
การบูรณาการงานวิจัยชาเมี่ยงเพื่อสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การพัฒนาชุดการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นการใช้ประโยชน์จากการผลิต มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ของชุมชนดงมูลเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 การสร้างฐานการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง : กรณีศึกษาอำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วมของชุมชนที่มีต่อการพัฒนาการศึกษาและอาชีพการเกษตรในท้องถิ่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรหนอนตายอยากจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาวะโภชนาการของนักเรียนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ความหลากหลายของภูมิปัญญาท้องถิ่น : การใช้จุลินทรีย์และผลิตภัณฑ์ของจุลินทรีย์ในการผลิตข้าว ความหลากหลายของภูมิปัญญาท้องถิ่น : การใช้จุลินทรีย์และผลิตภัณฑ์ของจุลินทรีย์ในการผลิตข้าว ระยะที่ 2 การบริหารโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ กรณีศึกษา: โครงการ “หนึ่งอำเภอหนึ่งโรงปุ๋ย” ในจังหวัดอุบลราชธานี การตรวจสอบสมุนไพรในโคเนื้อทางวิทยาศาสตร์ โดยสืบสานจากภูมิปัญญาท้องถิ่น สำหรับเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อ เพื่อการประกอบอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงกรณีศึกษา บ้านสี่เหลี่ยมเจริญ ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก