สืบค้นงานวิจัย
สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร จังหวัดชุมพร
วิชัย ไชยช่วย - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร จังหวัดชุมพร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิชัย ไชยช่วย
บทคัดย่อ: การศึกษาสภาพการปลุกหม่อนเลี้ยงไหมขอเงกษตรกรจังหวัดชุมพร มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบข้อมูลพื้นฐานของเกษตรกร ศึกษา สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร ศึกษาความคิดเห็นของเกษตรกรต่ออาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของเกษตรกร โดยใช้แบบสัมภาษณ์ รวบรวมข้อมูลเกษตรกรร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ปี 2544 ของสำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร จำนวน 20 ราย แบบเจาะจงเปนรายบุคคล ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการศึกษาครั้งนี้ จะใช้ในการวางแผนและปรับปรุงงานส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรต่อไป จากผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรมีอายุระหว่าง 20-40 ปี เพศหญิง ร้อยละ 90 จบการศึกษาระดับประถมศึกษา เป็นเกษตรกรมี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาชิกในครัวเรือนร้อยละ 80 ระหว่าง 4-6 ราย อาชีพหลักทำสวน รายได้เฉลี่ย 2,170 บาทต่อเดือน เกษตรกรมีพื้นที่ปลูกหม่อน 4 ไร่ขึ้นไปร้อยละ 50 พันธุ์หม่อนที่ปลูกทุกรายปลูกพันธุ์บุรีรัมย์ 60 (บร.60) ใช้ระยะปลูกมาตรฐาน 1.50 x 0.5 ร้อยละ 5 นอกจากนั้นใช้ระยะปลูกอื่น ๆ ในการปฏิบัติสวนหย่อมพบว่า ทุกรายมีการพรวนดิน ในการกำจัดวัชพืชใช้แรงงานและสารเคมีร่วมกันร้อยละ 55 การใส่ปุ๋ยร้อยละ 75 ใส่ปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมี อัตราการใส่ปุ๋ย ร้อยละ 50 ใช้อัตรา 31-50 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ในฤดูแล้งเกษตรกรเพียงร้อยละ 15 ที่ใช้วัสดุคลุมดิน การให้น้ำอาศัยน้ำฝนแต่เพียงอย่างเดียว ในฤดูฝนมีการระบายน้ำ การตัดแต่งกิ่ง เกษตรกรทุกรายมีการตัดแต่ง โดยร้อยละ 90 มีการตัดต่ำ ร้อยละ 10 มีการตัดกลาง โรคหม่อนพบว่า ร้อยละ 90 มีการระบาดของโรคราสนิม ร้อยละ 30 พบโรครากเน่า แมลงศัตรูพืช ร้อยละ 25 พบการระบาดของหนอนกระทู้ ร้อยละ 15 พบเพลี้ยหอย ร้อยละ 10 พบเพลี้ยแป้ง และร้อยละ 5 มีการทำลายของปลวก ในการเลี้ยงไหมของเกษตรกร ทุกรายปฏิบัติตามขั้นตอนเทคนิคการเลี้ยงไหมตามที่ได้รับการฝึกอบรมจากศูนย์ขยายพันธุ์ไหมตั้งแต่การเลี้ยงไหมระยะวัยอ่อน (วัย 1-3) ระยะวัยแก่ (วัย 4-5) และการปฏิบัติหลังการเก็บผลผลิตส่งจำหน่ายแก่บริษัทรับซื้อรังไหม ทุกรายพอใจในการปฏิบัติคัดคุณภาพรังไหม การตีราคา การเทียบราคากับตารางมาตรฐานและทุกคนพอใจต่อราคาที่ได้รับ ปริมาณการเลี้ยงไหมต่อรุ่นของเกษตรกรพบว่าทุกรายเลี้ยงไหม 2 กล่องต่อรุ่น จำนวน 4 รุ่น ผลผลิสูงสุด 29.1-30 กิโลกรัมต่อกล่อง ร้อยละ 5 และมีผลผลิตต่ำสุด 24-25 กิโลกรัมต่อกล่อง ร้อยละ 35 ราคาที่จำหน่ายรังไหมสูงสุด 106-110 บาทต่อกิโลกรัม ร้อยละ 40 ราคาที่จำน่ายได้ต่ำสุด 100 บาทต่อกิโลกรัม ร้อยละ 30 รายได้เกษตรกรจากการเลี้ยงไหม 4 รุ่น จำนวน 8 กล่องสูงสุดระหว่าง 25,001-30,000 บาท ร้อยละ 10 และรายได้ต่ำสุดระหว่าง 20,000-25,000 บาท ร้อยละ 90 ต้นทุนการผลิตเกษตรกรจ่ายสบทบค่าก่อสร้างห้องเลี้ยงไหมสูง ระหว่าง 10,000-20,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 40 ร้อยละ 55 และร้อยละ 5 ตามลำดับ จ่ายค่าวัสดุห้องเลี้ยงไหม ตั้งแต่ 4,501-10,000 บาทขึ้นไปร้อยละ 5 ร้อยละ 20 และร้อยละ 75 ค่าสารเคมีในการเลี้ยงไหม ต่ำกว่า 100 บาทถึง 120 บาท ร้อยละ 65 ร้อยละ 20 และร้อยละ 15 ค่าดูแลรักาษแปลงหม่อน จ่ายตั้งแต่ 1,000-2,000 บาท ขึ้นไปร้อยละ 15 ร้อยละ 45 และร้อยละ 40 โดยทุกรายไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าแรงงาน ในส่วนความคิดเห็นของเกษตรกร เกษตรกรทุกรายมีความคิดเห็นที่ดีต่อการส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ร้อยละ 80 และร้อยละ 20 มีความิดเห็นที่ดีและพอใช้ต่อการปฏิบัติตามเทคนิคการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อจำหน่ายรังแทนการขายเส้นไหมแบบเดิม ร้อยละ 90 มีความคิดเห็นที่ดีมากต่อการติดตามและให้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ร้อยละ 10 ร้อยละ 40 และร้อยละ 50 มีความคิดเห็นที่ดีมาก ดีและพอใช้ต่อรายได้ทดแทนการปลูกกาแฟ ร้อยละ 10 และร้อยละ 70 มีความคิดเห็นระดับไม่ดี และพอใช้ ต่อการซื้อขายรังไหม ของบริษัท ร้อยละ 20 มีความคิดเห็นที่ดีมาก ต่อการบริหารจัดการกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะของเกษตรกรพบว่า เกษตรกรมีพื้นที่จำกัด ขาดน้ำในฤดูแล้ง หม่อนเป็นโรคราสนิม แมลงกัดกินตาอ่อน ด้านการเลี้ยงไหมเกษตรกรจดจำวิธีปฏิบัติ ขาดเงินซื้อวัสดุอุปกรณ์ห้องเลี้ยงไหม ไหมเป็นโรค ผลผลิตต่ำ ห้องเลี้ยงไหมสร้างใกล้บริเวณมีการใช้สารเคมี กลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมไม่เข้มแข็ง การจำหน่ายรงไหมให้บริษัทสาวไหมพบว่า จ่ายเงินช้า ในส่วนข้อเสนอแนะของเกษตรกร ให้ขอพื้นที่สร้างแปลงหม่อนชุมชนจากองค์การบริหารส่วนตำบล แนะนำการป้องกันและกำจัดศัตรูหม่อนไหม จัดแหล่งสินเชื่อวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้คำปรึกษาระบบกลุ่มให้เข้มแข็งขึ้น ทั้งนี้สรุปได้ว่าเกษตรกรมีการยอมรับและปฏิบัติตามเทคนิคการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและต้องการให้มีการสนับสนุนต่อไป ในส่วนปัญหาต่าง ๆ คงจะได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่อไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: หม่อนไหม
หมวดหมู่ AGRIS:
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร จังหวัดชุมพร
กรมส่งเสริมการเกษตร
2546
สภาพการผลิตและความต้องการรับการส่งเสริมด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร ตำบลแจนแวน กิ่งอ.ศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและความต้องการการส่งเสริม ของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม ที่ดำเนินโครงการแปลงใหญ่หม่อนไหม กรณีศึกษาจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดน่าน และจังหวัดอุดรธานี การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่น สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรอำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ ความคิดเห็นของเกษตรกรต่อการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรอำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรในอำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรในกิ่งอำเภอสีดา จังหวัดนครราชสีมา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก