สืบค้นงานวิจัย
แผนการผลิตพืชเศรษฐกิจทางการเกษตรที่เหมาะสมของชุมชนในเขตจัดรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี เพื่อการพึ่งตนเอง (ระยะที่ 2)
เกียรติดำรง สังคมศิลป์ - มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ชื่อเรื่อง: แผนการผลิตพืชเศรษฐกิจทางการเกษตรที่เหมาะสมของชุมชนในเขตจัดรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี เพื่อการพึ่งตนเอง (ระยะที่ 2)
ชื่อเรื่อง (EN): Optimal Agricultural Planning of community in land readjustment Saraburi Province for self reliance (phase 2)
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคมของเกษตรกร และการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินทางการเกษตรจากโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดสระบุรี วิเคราะห์ต้นทุน และผลตอบแทนจากการผลิตพืชเศรษฐกิจทางการเกษตรของชุมชนในเขตจัดรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี วิเคราะห์หาแผนการผลิตพืชเศรษฐกิจทางการเกษตรที่เหมาะสมให้กับชุมชน ส่งเสริมและพัฒนาการผลิตพืชเศรษฐกิจทางการเกษตรที่เหมาะสมให้กับชุมชนในจังหวัดสระบุรี ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้จำนวน 378 คน เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ และแบบจำลองโปรแกรมเชิงเส้น Linear programming (LP) สถิติที่ใช้ คือ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย ผลการวิจัยมีดังนี้ สภาพสิ่งแวดล้อมทางด้านกายภาพจากการศึกษากลุ่มชุดดินในพื้นที่ 3 ตำบล ในอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี มีลักษณะแตกต่างกันบางพื้นที่ ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นกลุ่มดินที่มีเนื้อดินเป็นพวกดินเหนียว ดินมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติปานกลาง ค่าความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 6.0-7.0 ส่วนสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ พบว่า ภาวะการผลิตพืชของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลนาโฉง ตำบลดาวเรือง และตำบลผึ้งรวง เกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่ทำการผลิตพืชเหมือนกัน คือ ผลิตข้าวนาปี และข้าวนาปรัง ส่วนลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินของเกษตรกรในปีการผลิต 2556 พบว่า การใช้ประโยชน์ที่ดินของเกษตรกรใน 3 ตำบล ส่วนใหญ่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรเพิ่มขึ้น สำหรับการศึกษาต้นทุนในการผลิตพืชของ 3 ตำบล พบว่า เกษตรกรใช้ต้นทุนเฉลี่ยในการผลิตข้าวนาปีมากกว่าข้าวนาปรัง และการศึกษาผลตอบแทนในการผลิตพืช พบว่า เกษตรกรได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยจากการผลิตข้าวนาปีมากกว่าข้าวนาปรัง สำหรับการวิเคราะห์แผนการผลิตพืชที่เหมาะสมของชุมชน โดยใช้แบบจำลองการโปรแกรมเชิงเส้น Linear programming (LP) พบว่า แผนการผลิตที่เหมาะสมของตำบลนาโฉง ดาวเรือง และผึ้งรวง คือ เกษตรกรควรเน้นการผลิตข้าวนาปีมากกว่าข้าวนาปรัง เนื่องจากจะทำให้ได้รับผลตอบแทนที่สูง ซึ่งหากเกษตรกรตำบลนาโฉงสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวนาปีจากเดิม 501.13 กิโลกรัม/ไร่ ให้ได้เท่ากับ 1,193 กิโลกรัม/ไร่ เกษตรกรจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยสูงที่สุดได้ถึง 13,123 บาท/ไร่ ส่วนตำบลดาวเรืองหากเกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตจากเดิม 695.06 กิโลกรัม/ไร่ ให้ได้เท่ากับ 1,048 กิโลกรัม/ไร่ เกษตรกรจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยสูงที่สุดถึง 11,528 บาท/ไร่ ส่วนตำบลผึ้งรวงหากเกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตจากเดิม 786.61 กิโลกรัม/ไร่ ให้ได้เท่ากับ 1,321.67 กิโลกรัม/ไร่ เกษตรกรจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยสูงที่สุดได้ถึง 14.538.33 บาท/ไร่ โดยที่ใช้แรงงานในการผลิตเท่าเดิม และไม่ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น
บทคัดย่อ (EN): The research aims to study the environment, economic, social of famers and land use change form land readjustment project in Saraburi Province, analysis of cost-Benefit of plant in community land readjustment in Saraburi Province, analysis of optimal crop planning in community, promotion and development of agricultural crops appropriate to the community in Saraburi Province. The sample consisted of 392 people, research tools in the interviews and Linear programming (LP). The statistics used frequency, percentage and average. The findings are as follows, physical environment of soil in the 3th sub-district, district, Saraburi Province. There are different area, most soil are clay texture, the soil has median natural fertility, pH 6.0-7.0. The social and economic conditions found, the crop production of agricultural area in the 3th sub-district, Farmers use the average cost of producing in-season rice than rice off-season rice and study yields in crop production found that farmers received an average return of in-season rice than rice off-season rice. For study of optimal agricultural planning of community use modeling with Linear programming (LP), found that optimal agricultural planning of Na Chong sub-district, Dao Rueang sub-district and Phueng Ruang sub-district, the farmers should focus on the production of in-season rice over off-season rice because of the high returns, If farmers in Na Chaong sub-district increase yield of in-season rice form 501.13 Kg./rai to 1,193 Kg./rai, farmers will get the highest average yield of 13,123 Baht/rai. The farmers of Dao Rueang sub-district if increase yield of in-season rice form 695.06 Kg./rai to 1,048 Kg./rai, farmers will get the highest average yield of 11,528 Baht/rai. The farmers of Phueng Ruang sub-district if increase yield of in-season rice form 786.61 Kg./rai to 1,321.67 Kg./rai, farmers will get the highest average yield of 14.538.33 Baht/rai by using labor to produce the same and do not make the production cost increases.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
คำสำคัญ: การพึ่งตนเอง
คำสำคัญ (EN): Self - Reliance
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
แผนการผลิตพืชเศรษฐกิจทางการเกษตรที่เหมาะสมของชุมชนในเขตจัดรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี เพื่อการพึ่งตนเอง (ระยะที่ 2)
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
30 กันยายน 2556
การใช้เชื้อ Ectomycorrhiza ในการเพิ่มผลผลิตพืชเศรษฐกิจเขตภาคอีสานตอนบนของประเทศไทย การติดตามประเมินผลการใช้ประโยชน์ที่ดินและการพึ่งตนเองได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ปีการเพาะปลูก พ.ศ.2553 การวิจัยเพื่อการพัฒนาระบบการเกษตรชานเมืองอย่างยั่งยืนเพื่อการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจของเกษตรกรในเขตฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร (ระยะที่ 2) การวิจัยเพื่อการพัฒนาระบบการเกษตรชานเมืองอย่างยั่งยืนเพื่อการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจของเกษตรกรในเขตฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร (ระยะที่ 1) การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การวิจัยและพัฒนาศักยภาพการพึ่งตนเองของชุมชนด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ จังหวัดกาฬสินธุ์ การผลิตถ่านไม้และพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำส้มไม้ในชุมชนเพื่อการพึ่งตนเองตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กลยุทธ์การพึ่งตนเอง การพัฒนาเครือข่ายการเลี้ยงโคนมแบบพึ่งตนเองในฟาร์มเพื่อการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ไปสู่การพึ่งตนเองของชุมชนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน การประเมินผลโครงการวิจัยการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจในชนบท
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก