สืบค้นงานวิจัย
การติดตามประเมินผล โครงการจัดตั้งและพัฒนาศูนย์เรียนรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฎิรูปที่ดิน จังหวัดน่าน ปี 2555
สุพจน์ แตงอ่อน - สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ชื่อเรื่อง: การติดตามประเมินผล โครงการจัดตั้งและพัฒนาศูนย์เรียนรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฎิรูปที่ดิน จังหวัดน่าน ปี 2555
ชื่อเรื่อง (EN): Monitoring and Evaluation Project Establishment and development of learning centers to optimize the use of land in Nan Province land reform area: 2012
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุพจน์ แตงอ่อน
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การติดตามประเมินผลโครงการจัดตั้งและพัฒนาศูนย์เรียนรู้การเพิ่ม ประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดน่าน ปี 2555 ใช้แนวคิด การประเมินผลแบบ Tyler's Goal Attainment mode! ใช้วิธีการศึกษาโดย การศึกษาเชิงคุณภาพใช้เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์เชิงลึกและ แบบประเด็นสนทนากลุ่มย่อยแบบมีโครงสร้าง เกษตรกรกลุ่มตัวอย่างเป็นเจ้าของ แปลงศูนย์เรียนรู้ๆ 7 ราย คัดเลือกเกษตรกรผู้ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์เรียนรู้ฯ เพื่อสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group) แสดงความเห็นต่อศูนย์เรียนรู้ฯ ศูนย์ละ 9 ราย รวม 63 ร้ายและกาศึกษาเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง เก็บรวบรวมข้อมูลจากเกษตรกรผู้ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์เรียนรู้ฯ เกษตรกร เป้าหมาย 7 ศูนย์ๆ ละ 80 ราย รวม 560 ราย กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดย ใช้เกณฑ์ของ Newman ได้เกษตรกรเป็นกลุ่มตัวอย่าง ศูนย์ละ 24 ราย ใช้วิธีการ สุ่มแบบง่ย (Simple Random Sampling) รวม 7 ศูนย์ จำนวนตัวอย่าง 168 ราย สรุปผลการติดตามและประเมินผลได้ ดังนี้ 1. ผลการประเมินเชิงคุณภาพ การประเมินเชิงคุณภาพ สรุปผลการเก็บรวบรวมข้อมูลเจ้าของแปลง ศูนย์เรียนรู้ฯ 7 ศูนย์ ผู้ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์เรียนรู้ฯ ศูนย์ละ 9 ราย รวม 63 ราย สรุปผลตามประเด็น ดังนี้ นายสม สิทธิ อยู่บ้านเลขที่ 288 หมู่ 4 ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน เดิมมีอาชีพทำนาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 ทำไร่ข้าวโพด ปลูกถั่วลิสง หลังปลูกข้าวโพด หลังฤดูทำนาและเก็บเมล็ดพันธุ์พืชผักเอาไว้ใช้เอง ปัจจุบัน ปลูกผักสวนครัว ปลูกผักพื้นบ้าน ปลูกพืชหลังนา เช่น ถั่วต่างๆ นอกจากนั้น ในครอบครัวมีการเสริมรายได้ ลดค่าใช้จ่าย ได้แก่ การทอผ้า ทำน้ำยาล้างจาน ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ฯ ในอนาคต คิดว่าอยากปรับปรุงด้านสถานที่ให้มีความสะดวก กับผู้เข้ามาเยี่ยมชม เข้ามาเรียนรู้ ปรับปรุงระบบน้ำให้ดียิ่งขึ้น นายนิมิตร พันธวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 1 ตำบลเมืองจัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เดิมมีอาชีพทำนาและปลูกพืชหลังนา เช่น ข้าวโพด ถั่วเขียว ต่อมาหันมาปลูกส้มเขียวหวาน โดยใช้สารเคมีมากขึ้นส่งผลให้เกิดผลเสียต่อ สภาพแวดล้อม ปัจจุบันปลูกมะม่วง ลำไยและข้าวไว้บริโภคในครัวเรือน ปัจจุบันสนใจ การทำการเกษตรแบบอินทรีย์ เช่น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ สมุนไพร ไล่แมลง เป็นต้น โดยนำความรู้มาปฏิบัติดูแลมะม่วงจนเกิดความรู้ความชำนาญ และได้รับการยอมรับจากเกษตรกรในชุมชน มีความสามารถพิเศษเป็นวิทยากร ถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกร มีแนวคิดการพัฒนาการเรียนรู้ของเกษตรกร ในชุมชนว่า "เกษตรกรต้องสละเวลาเพื่อการเรียนรู้มากขึ้นรู้จักแสวงหาความรู้ และฝึกฝนตนเอง รวมกลุ่มกันเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ต้องทำตัวเป็น คนอยากรู้อยู่เสมอๆ" นายเคลื่อน จันทร์บูรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ 2 ตำบลจอมจันทร์ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน การผลิตเดิมทำการเกษตรแบบผสมผสาน คือ ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ ปลูกไม้ผล ปลูกพืชผักไว้กินในครัวเรือน ปัจจุบันปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ปรับปรุงแหล่งน้ำ พัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ปรับปรุงบำรุงดิน้ำ ศึกษาการทำปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ทำปุ๋ยพืชสด เลี้ยงโค นำมูลโคมาทำปุ๋ยหมัก ปลูกพืช ตระกูลถั่วหมุนเวียน ทำให้สภาพดินดีขึ้น แนวคิดในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ฯ ในอนาคต คือ "จะปรับปรุงดินโดยใช้อินทรียวัตถุ น้ำหมักชีวภาพ การทำปุ้ยพืชสด การปรับปรุงระบบน้ำ แหล่งน้ำ สถานที่ในศูนย์เรียนรู้ฯ ให้แต่ละกิจกรรมเห็นเด่นชัด ผู้ที่เรียนรู้สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้" นายผ่าน นันติ อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 4 ตำบลน้ำแก่น อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เดิมปลูกพืชไร่ ได้แก่ ข้าวโพด ถั่วเหลือง ต่อมาปลูกไม้ผล ได้แก่ มะม่วง ลำไย แต่ประสบปัญหาผลผลิตน้อยและราคาตกต่ำ ปัจจุบันปลูกยางพารา เริ่มตั้งแต่ปี 2537 ควบคู่ไปกับการปลูกข้าว การเลี้ยงไก่ การปลูกพืชสมุนไพรและปลูกไม้สัก ปี 2547 เริ่มกรีดยางฝึกฝนทำยางแผ่น ได้ผลผลิตเป็นที่พอใจแนวคิด ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ฯ ในอนาคต คือ "ปรับปรุงบำรุงสวนยางให้ดีขึ้น พัฒนา ตอบแทนเลี้ยงครอบครัวและแบ่งปันให้เพื่อนบ้าน" การกรีดยางและการทำยางแผ่นให้มีคุณภาพ ปรับปรุงกิจกรรมอื่นๆ ให้มีผลผลิต นางพิมทอง พรหมานนท์ เริ่มต้นจากสามีรับราชการตำรวจและ ได้ลาออกมาค้าขาย ต่อมาประสบปัญหาขาดทุนจึงกลับมาทำไร่ข้าวโพด ประสบ ปัญหาด้านต้นทุนสูง ปัจจุบันหันมาปลูกยางพาราควบคู่ไปกับการทำการเกษตร แบบผสมผสาน ได้แก่ ปลูกพืชผักสวนครัวและเพาะกล้าพันธุ์ยาง แนวคิดในการ พัฒนาศูนย์เรียนรู้ฯ ในอนาคต คือ "อยากพัฒนาสวนยางพาราให้มีประสิทธิภาพ มากขึ้นและมีแนวคิดที่จะปลูกยางพาราเพิ่มเติมในพื้นที่ที่เหลืออยู่" นางอภัย บุญเทพ อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 8 ตำบลบ้านฟ้า อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน เดิมมีอาชีพทำนา ทำไร่ ต่อมาปลูกส้มเขียวหวานได้ผลผลิตดีระยะแรก และต่อมาได้มีการบุกรุกป่าเพิ่มมากขึ้นทำให้อากาศและสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป โรคและแมลงสะสม เริ่มระบาดรุนแรงขึ้น จึงหันมาปลูกมะขามหวานควบคู่ไปกับการทำการเกษตรแบบผสมผสาน ได้แก่ การทำนา ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงสุกร เลี้ยงไก่และเลี้ยงปลา ทำให้มีกินมีใช้และแบ่งปันให้เพื่อนบ้าน แนวคิดการ พัฒนาการเรียนรู้ของเกษตรกรในชุมชน คือ "เกษตรกรต้องรู้จักหาความรู้เพื่อ ปรับเปลี่ยนแนวคิดในการผลิตแบบเชิงเดี่ยวที่มีโอกาสเสี่ยงมากมาศึกษาการทำ เกษตรแบบผสมผสานเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ต้องรู้จักสละเวลาในการหาโอกาส เข้าเรียนรู้ในชุมชน" นายประพันธ์ มีคำ อยู่บ้านเลขที่ 75/ 1 หมู่ 2 ตำบลแม่สาคร อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เดิมทำพืชไร่ ปลูกข้าวโพดและข้าวไร่ ต่อมาประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำ ต้นทุนสูง มีการใช้สารเคมีเป็นจำนวนมาก ในปี 2547 จึงมาศึกษาเรียนรู้เรื่อง ยางพารา ปัจจุบันได้ผลผลิตยางพาราควบคู่ไปกับการทำการเกษตรแบบผสมผสาน ได้แก่ ปลูกลำไย ลิ้นจี่ มะขาม มะม่วง ไม้ผล ไม้ยืนต้นอื่นๆ พืชสมุนไพร พืชผัก มีไม้ยืนต้นและสมุนไพรมากกว่า 60 ชนิด เลี้ยงสุกร เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา แนวคิด ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ฯ ในอนาคต คือ "อยากปรับปรุงสวนยางให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ปรับปรุงกิจกรรมต่างๆ ให้ดีขึ้นเกษตรกรที่เข้ามาเรียนรู้จะดูเป็นตัวอย่างและ สามารถเรียนรู้ฝึกฝนด้วยตนเองได้" โดยภาพรวมของโครงการถือว่าประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของ โครงการตามสภาพพื้นที่ของพื้นที่ เขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดน่าน โดยประเมินจาก การจัดกิจกรรมอย่างหลากหลายในแปลงศูนย์เรียนรู้ฯ ซึ่งเป็นแบบอย่าง ต้นแบบ การใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ ศักยภาพของเจ้าของแปลงศูนย์เรียนรู้ ฯ มีคุณลักษณะ คือ เป็นคนขยันขันแข็ง ขวนขวายหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ แนวคิดพัฒนาศูนย์เรียนรู้ๆ ในอนาคตโดยรวม คือ อยากปรับปรุงเกี่ยวกับสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ กิจกรรมในศูนย์เรียนรู้ฯ ให้มีความหลากหลายเด่นชัด ทันสมัย ตรงตามความต้องการของชุมชน ในส่วนการถ่ายทอดองค์ความรู้ เจ้าของ แปลงศูนย์เรียนรู้ฯ มักจะคอยให้คำแนะนำกระตุ้น ขยายผลองค์ความรู้ประสบการณ์ ของตนเองสู่ชุมชน ผลการประเมินเชิงปริมาณ การประเมินเชิงปริมาณ สรุปผลการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเกษตรกร ผู้ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์เรียนรู้ฯ 7 ศูนย์ๆ ละ 24 ราย รวม 168 ราย สรุปผล ตามประเด็น ดังนี้ ข้อมูลทั่วไป พบว่าโดยเฉลี่ยเกษตรกรมีอายุประมาณ 54 ปี มีการศึกษา ในระดับประถศึกษา คิดเป็นร้อยละ 76.8 ของเกษตรกรทั้งหมด การถือครองที่ดิน ที่ได้รับเอกสารสิทธิ เกษตรกรส่วนใหญ่ถือครองที่ดินไม่เกิน 5 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 33.3 และเกษตรกรที่ถือครองที่ดินมากกว่า 20 ไร่ขึ้นไป มีเพียงร้อยละ 7.7 2) การติดตามประเมินผลการจัดตั้งและการพัฒนาศูนย์เรียนรู้การ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน พบว่าเกษตรกร มีความเห็นว่าเหมาะสมมากเป็นลำดับสูงสุดในเรื่อง แหล่งน้ำ การคมนาคมและ สถานที่ในการจัดตั้ง คะแนนเฉลี่ย 4.3, 3.5 และ 3.2 ตามลำดับ ด้านการวางแผน การผลิตของแปลงศูนย์เรียนรู้ฯ พบว่าเกษตรกร ร้อยละ 72.1 มีความเห็นว่าแปลงศูนย์เรียนรู้ฯ มีการวางแผนการผลิตไว้ล่วงหน้าและเกษตรกร ร้อยละ 66.6 มีความเห็นว่ากิจกรรมในแปลงศูนย์เรียนรู้ฯ เป็นกิจกรรมทำให้เพิ่มรายได้และ ลดรายจ่ายได้ด้วยกิจกรรมและองค์ความรู้ของแปลงศูนย์เรียนรู้ฯ มีความเหมาะสม ในระดับมาก โดยเฉพาะเรื่อง ความน่าสนใจของกิจกรรมเป็นระดับคะแนนเฉลี่ย 3.9 3) การติดตามประเมินผลเจ้าของแปลงศูนย์เรียนรู้ฯ พบว่าเกษตรกร มีความเห็นคุณลักษณะการเป็นแบบอย่างที่ดีของเจ้าของแปลงศูนย์เรียนรู้ๆ มีความเหมาะสมในระดับมาก โดยเฉพาะด้านความขยันขันแข็งและความสามารถ มีคะแนนเฉลี่ย 4.1 และ 3.6 ตามลำดับ สำหรับองค์ความรู้และการถ่ายทอด ความรู้ของเจ้าของแปลงศูนย์เรียนรู้ฯ มีความเหมาะสมในระดับมาก โดยเฉพาะ มีความรู้สามารถเรียนรู้นำไปใช้ได้จริง คะแนนเฉลี่ย 3.5 4) การติดตามประเมินผลการขยายผลองค์ความรู้ ด้านการนำความรู้ ไปปรับใช้ของเกษตรกร พบว่าเกษตรกรได้นำความรู้ที่ได้เรียนรู้จากศูนย์เรียนรู้ฯ ไปปรับใช้ ร้อยละ 38.7 ทำให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 53.9 และมีรายจ่ายลดลง คิดเป็นร้อยละ 44.6 ของจำนวนเกษตรกรที่นำความรู้ ไปปรับใช้ 5) การติดตามประเมินผลการดำเนินงานของโครงการฯ ถึงประโยชน์ ที่เกษตรกรได้รับ สภาพปัญหา ข้อจำกัดและความพึงพอใจของเกษตรกรต่อ โครงการฯ พบว่าเกษตรกรให้ความเห็นว่าได้รับประโยชน์จากศูนย์เรียนรู้ฯ คิดเป็นร้อยละ 96.5 สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจากการขยายผลองค์ความรู้ คือ เกษตรกรได้รับประยชน์ในระดับมาก โดยเฉพาะการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีการแก้ไขปัญหาของตนเองและการรู้จักทำงานเป็นกลุ่มมีระดับคะแนนเฉลี่ย 3.8, 3.5 และ 3.4 ตามลำดับ ส่วนสภาพปัญหาในการดำเนินงานจัดตั้งและพัฒนา โครงการศูนย์เรียนรู้ฯ อยู่ในระดับน้อย ส่วนความพึงพอใจของเกษตรกรต่อโครงการ จัดตั้งและพัฒนาศูนย์เรียนรู้ ฯ โดยรวมเกษตรกรมีความพึงพอใจในระดับมาก โดยเฉพาะต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและเจ้าของแปลงศูนย์เรียนรู้ฯ ระดับคะแนน เฉลี่ย 4.0 และ 3.9 ตามลำดับ 3. ข้อเสนอแนะจากการติดตามประเมินผล 1) การคัดเลือกแปลงศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดน่าน เกษตรกรเห็นว่าด้านการดำเนินกิจกรรมใน ศูนย์เรียนรู้ฯ และจำนวนกิจกรรม มีความเหมาะสมในระดับน้อย (คะแนนเฉลี่ย 2.5 และ 1.7 ตามลำดับ) จึงเห็นสมควรมีการปรับปรุงการดำเนินกิจกรรมและ ปรับจำนวนกิจกรรมในศูนย์เรียนรู้ฯ ให้หลากหลายมีความสอดคล้องเกื้อหนุนกัน และเป็นไปตามความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่มากยิ่งขึ้น 2) จากผลการติดตามเจ้าของแปลงศูนย์เรียนรู้ฯ ในเรื่อง ความรู้และ การถ่ายทอดองค์ความรู้ เกษตรกรให้ความเห็นว่าเทคนิคการถ่ายทอดความรู้ อยู่ในระดับน้อย (คะแนนเฉลี่ย 2.5) จึงเห็นสมควรสนับสนุนให้เจ้าของแปลง ศูนย์เรียนรู้ๆ ในกลุ่มเป้าหมายได้รับการพัฒนาเทคนิคการถ่ายทอดความรู้ให้มากยิ่งขึ้น 3) การติดตามเกษตรกรที่ผ่านการเรียนรู้จากศูนย์เรียนรู้ฯ แล้วนำความรู้ ไปปรับใช้ พบว่าเกษตรกรมีรายจ่ายลดลง คิดเป็นร้อยละ 44.6 จึงเห็นสมควร ให้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรมีกิจกรรมสนับสนุนให้มีการ์ลดรายจ่ายมากขึ้น มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่เป็นประจำต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรได้เรียนรู้ และนำความรู้ไปปรับใช้ในแปลงการผลิตของตนเอง 4. การติดตามสภาพปัญหาการดำเนินงานของโครงการจัดตั้งและ พัฒนาศูนย์เรียนรู้ฯ พบว่าระดับสภาพปัญหารุนแรง คือ งบประมาณ การคัดเลือก ศูนย์เรียนรู้ฯ และการจัดกิจกรรมในศูนย์เรียนรู้ฯ (คะแนนเฉลี่ย 4.0, 3.4 และ 3.1 ตามลำดับ) ดังนั้น เห็นสมควรสนับสนุนงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ ให้เหมาะสม เพื่อให้ศูนย์เรียนรู้ฯ มีการพัฒนาการจัดกิจกรรมและองค์ความรู้ใน ศูนย์เรียนรู้ฯ อยู่เสมอๆ อย่างต่อเนื่อง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.alro.go.th/research_plan/ewt_dl_link.php?nid=379
เผยแพร่โดย: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
คำสำคัญ: น่าน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การติดตามประเมินผล โครงการจัดตั้งและพัฒนาศูนย์เรียนรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฎิรูปที่ดิน จังหวัดน่าน ปี 2555
สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
2556
โครงการจัดทำฐานข้อมูลอันตรกิริยาระหว่างสมุนไพรกับยาแผนปัจจุบัน เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ของไทย การติดตาม ประเมินผล และการใช้ประโยชน์โครงการวิจัยด้านยางพารา ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร การศึกษาชนิดและการใช้ประโยชน์จากกุ้งน้ำจืดอย่างยั่งยืน จังหวัดน่าน การติดตาม ประเมินผลโครงการวิจัยยางพาราปี 2560 และการผลักดันการใช้ประโยชน์ การวิเคราะห์ดินนาเพื่อประเมินค่าฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ สถานภาพด้านแร่ธาตุของโคซึ่งเลี้ยงในพื้นที่ดินพรุและดินทรายในเขตศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง เรื่องเล่าจากเกษตรกร โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการเติมน้ำ เติมชีวิต) การติดตามประเมินผลโครงการเกษตรประณีตเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดน่าน ภายใต้โครงการเทเลฟู้ด การติดตามประเมินผลวิสาหกิจชุมชนในเขตปฏิรูปที่ดิน ปี พ.ศ. 2554
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก