สืบค้นงานวิจัย
การสำรวจประชากรเพลี้ยไฟมังคุดเพื่อทำนายการระบาดและการจัดการอย่างเหมาะสม
จรัญ ทองเจือ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ชื่อเรื่อง: การสำรวจประชากรเพลี้ยไฟมังคุดเพื่อทำนายการระบาดและการจัดการอย่างเหมาะสม
ชื่อเรื่อง (EN): TheSurveying ofMangosteeenThripsforOutbreak PredictionandAppropriate Management
บทคัดย่อ: การสำรวจประชากรเพลี้ยไฟมังคุดเพื่อทำนายการระบาดและการจัดการอย่างเหมาะสม บทคัดย่อ การสำรวจประชากรของเพลี้ยไฟมังคุดระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2550 ถึงกรกฏาคม 2553 ในอำเภอจุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ และทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช พบเพลี้ยไฟที่สำคัญ 2 ชนิด คือ Scirtothrips dorsalis Hoods. และ Scirtothrips oligochaetus Karny โดยจะพบปริมาณมากในช่วงที่มังคุดอยู่ในระยะแตกใบอ่อนและการพัฒนาของใบหรือระยะออกดอกและการพัฒนาของผลอ่อน และจะไม่พบหรือพบในปริมาณที่น้อยมากในระยะใบแก่และเก็บเกี่ยวผลผลิต ความเสียหายของมังคุดในระยะใบอ่อนพบสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2551โดยมีค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์ความเสียหายของใบเฉลี่ย 6.67 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีค่าเฉลี่ยประชากรสูง 0.87 ตัว/ยอด และเปอร์เซ็นต์ความเสียหายของมังคุดในระยะออกดอกและผลอ่อน พบว่า มีความสัมพันธ์กับประชากรเพลี้ยไฟในเชิงบวกเช่นกันโดยมีเปอร์เซ็นต์ความเสียหายของผลในช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 2553 ตั้งแต่ 0.24-28.38 เปอร์เซ็นต์ การสำรวจความเสียหายของผลผลิตมังคุดโดยวิธีสุ่มตัวอย่างจากสวนในระยะเก็บเกี่ยวต้นฤดู กลางฤดู และปลายฤดู ระหว่างเดือนมิถุนายน 2552 ถึง เดือน สิงหาคม 2552 (รอบปีที่ 2) พบว่า พื้นที่อำเภอจุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ และทุ่งสง พบเปอร์เซ็นต์พื้นที่ผิวผลลายเฉลี่ยตั้งแต่ 13.87- 14.69 , 13.43 -15.59 และ 13.78- 14.94 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ พบผลที่มีรอยขีดบนกลีบเลี้ยง 100 เปอร์เซ็นต์ทุกอำเภอ และเปอร์เซ็นต์จำนวนผลยางไหลในสามอำเภอเฉลี่ยตั้งแต่ 3.15- 5.91 , 4.60 -7.88 และ15.30- 30.79 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ และระหว่างเดือนมิถุนายน 2553 ถึง เดือน สิงหาคม 2553 (รอบปีที่3) พื้นที่อำเภอจุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ และทุ่งสง พบเปอร์เซ็นต์พื้นที่ผิวผลลายเฉลี่ยในระยะเก็บเกี่ยวช่วงต้นฤดู กลางฤดู และปลายฤดูตั้งแต่ 24.12-28.72 , 23.70-25.82 และ25.48-25.82 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ จำนวนผลที่มีรอยขีดบนกลีบเลี้ยง 100 เปอร์เซ็นต์ในทุกอำเภอ และพบเปอร์เซ็นต์จำนวนผลยางไหลเฉลี่ยตั้งแต่ 8.44-10.10 , 9.72-10.36 และ23.70-25.82 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ความสัมพันธ์ของประชากรเพลี้ยไฟมังคุดกับปัจจัยแวดล้อมพบว่า มีความสัมพันธ์กับความชื้น สัมพัทธ์ในอำภอทุ่งสง(P<0.01) เมื่อหาความสัมพันธ์กันระหว่างประชากรเพลี้ยไฟมังคุดกับวัฎจักรของการเจริญเติบโตของมังคุด พบว่า ประชากรเพลี้ยไฟมังคุดในท้องที่อำเภอจุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์และทุ่งสงมีความสัมพันธ์กันโดยตรงกับระยะการเจริญเติบโตของมังคุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(P<0.01)โดยมีค่าสหสัมพันธ์ (R) เท่ากับ 0.58 (P= 0.002**) , 0.52 (P = 0.002**) และ 0.57 (P = 0.0001**) ตามลำดับ การสำรวจศัตรูธรรมชาติในสวนมังคุดพบมีประมาณ 15 ชนิด โดยจัดเป็นแมลงในอันดับ Neuroptera จำนวน 1 ชนิด อันดับ Diptera จำนวน 2 ชนิด อันดับ Coleoptera จำนวน 2 ชนิด อันดับ Hemiptera จำนวน 1 ชนิด อันดับ Odonata จำนวน 5 ชนิดและแมงมุม จำนวน 4 ชนิด การศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดจากพืช สารชีวภัณฑ์ สารน้ำมัน และสารฆ่าแมลงในการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟมังคุดจำนวน 13 กรรมวิธีเปรียบเทียบกับชุดควบคุม(ไม่ใช้สาร) ในสภาพห้อง ปฏิบัติการหลังการฉีดพ่น 72 ชั่วโมง พบว่ากรรมวิธีที่ใช้สารทุกชนิดมีประสิทธิภาพสูง 100 เปอร์เซ็นต์เปรียบเทียบกับชุดควบคุม(ไม่ใช้สาร) ยกเว้นการใช้น้ำจะมีประสิทธิภาพต่ำสุด คือ 53.28 เปอร์เซ็นต์ และในสภาพสวนสาธิต ทำการฉีดพ่นสารรวม 4 ครั้ง พบว่า หลังการฉีดพ่นสารครั้งสุดท้าย (ครั้งที่4) กรรมวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เรียงตามลำดับ คือ คาร์โบซัลเฟน 20 %EC , ไฟโปรนิล 5% SC, อิมิดาโคลปิด 10% SL , ปิโตรเลียมออยล์83.9% EC +สารสกัดจากสะเดาไทย aza 0.5% ปิโตรเลียมออยล์ 83.9% EC +ยาสูบ 3% ,ปิโตรเลียมออยล์ 83.9% EC+หางไหล 1% และ ยาสูบ 3% สำหรับกรรมวิธีที่สามารถลดความเสียหายจากผิวผลลายในระยะการเก็บเกี่ยวได้ดี คือ กรรมวิธีในกลุ่มสารฆ่าแมลง ได้แก่ คาร์โบซัลเฟน 20 %EC,ไฟโปรนิล5%SC, อิมิดาโคลปิด 10% SL และกรรมวิธีในกลุ่มสารน้ำมันและสารสกัดจากพืชได้แก่ ปิโตรเลียมออยล์ +ยาสูบ 3%และยาสูบ 3% ให้ผลไม่แตกต่างกันทางสถิติ การผสมผสานกรรมวิธีที่เหมาะสมในการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ ในสภาพสวนสาธิต พบว่า ก่อนฉีดพ่นสารทุกกรรมวิธีพบจำนวนเพลี้ยไฟไม่แตกต่างกันทางสถิติ และหลังฉีดพ่นสารตั้งแต่ครั้งที่ 1 ถึงครั้งที่ 4 พบว่า ทุกกรรมวิธีของการใช้สารพบจำนวนเพลี้ยไฟแตกต่างกันทางสถิติจากชุดควบคุม (ไม่ใช้สาร) และมีประสิทธิภาพเปรียบเทียบกับชุดควบคุม(ไม่ใช้สาร)เรียงตามลำดับดังนี้ กรรมวิธีที่ 4 คาร์โบซัลเฟน 20% EC อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร+อิมิดาโคลปิด 10% SL (I)+ไฟโปรนิล 5% SL(P)+อิมิดาโคลปิด 10% SL(I) กรรมวิธีที่ 1 คาร์โบซัลเฟน 20% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร+I+P+I กรรมวิธีที่ 2 ไฟโปรนิล 5% SL อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร +I+P+I กรรมวิธีที่ 3 อิมิดาโคลปิด 10% SL10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร+I+P+I และ กรรมวิธีที่ 5 คาร์โบซัลเฟน 20% EC อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร(C2)+C2 + C2 + C2 โดยมีประสิทธิภาพ 85.90, 80.10, 79.99, 78.44 และ 77.25 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ เปอร์เซ็นต์ความเสียหายของผลอ่อนมังคุดที่เกิดจากการเข้าทำลายของเพลี้ยไฟหลังการฉีดพ่นสารในสัปดาห์ที่ 8 พบว่า ทุกกรรมวิธีที่ใช้สารพบความเสียหายของผลไม่แตกต่างกันทางสถิติโดยมีความเสียหายอยู่ระหว่าง 3.80-5.60 เปอร์เซ็นต์ แต่จะแตกต่างจากชุดควบคุม(ไม่ใช้สาร)ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ความเสียหายของผล 26.70 เปอร์เซ็นต์ เปอร์เซ็นต์พื้นที่ผิวผลลายของผลผลิตมังคุดในระยะเก็บเกี่ยวช่วงต้นฤดู กลางฤดู และปลายฤดู พบว่า ทุกกรรมวิธีที่มีการใช้สารมีเปอร์เซ็นต์พื้นที่ผิวผลลายอยู่ระหว่าง 5.10 – 7.80 แตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่งจากชุดควบคุม (ไม่ใช้สาร)ซึ่งพบเปอร์เซ็นต์ผิวผลลาย 19.44 เปอร์เซ็นต์
บทคัดย่อ (EN): The Surveying of Mangosteeen Thrips for Outbreak Prediction and Appropriate Management The population of mangosteen thrips were survey on 10 farmers’fields in Chulaporn, Ronphiboon and Thungsong district, Nakhon Si Thammarat province from November 2007 to July 2010. Two dominant species of mangosteens thrips; Scirtothrips dorsalis Hoods and Scirtothrips oligochaetus Karny, were found at the high population in young leaves stage, development leaves stage or flowering stage and young fruits stage and were not found or at less population in the leaf stage and harvested stage. The highest damage to young leaves stage was in February 2008 with the damage average 6.67 %, which high population 0.87 thrips per shoot, The damage at the flowering and young fruits stage was positive related to fruits damage were between 0.24-28.38 %. The surveying of fruits damage by sampling from farmers’ fields in Chulaporn, Ronphiboon and Thungsong district, at the early-harvest, mid-harvest and late–harvest season in March to June 2010 (second year–round production), the rough scars average were between 13.87- 14.69 , 13.43 -15.59 and 13.78- 14.94 % respectively, rough scars on calyxs average were 100 percentage of all districts and fruits gamboges were between 3.15- 5.91 , 4.60 -7.88 and 15.30- 30.79 %, respectively. During June to August 2010 (third year–round production), the rough scars average average were between 24.12-28.72 , 23.70-25.82 and 25.48-25.82 %, respectively, rough scars on calyxs were 100 percentage of all districts and fruits gamboges were between 8.44-10.10 , 9.72-10.36 and 23.70-25.82 %, respectively. The relationship between thrips population and environmental factors were related to relative humidity in Thungsong district (p<0.01). Thrips population in Chulaporn, Ronphiboon and Thungsong district were directly related to the cycle of growth of mangosteen ,significant difference (P <0.01), The correlation coefficient (R) was 0.58 (P = 0.002 **), 0.52 (P = 0.002 **) and 0.57 (P = 0.0001 **), respectively. The 15 species important natural enemies of thrips were found, 1 species of Neuroptera, 2 species of Diptera, 2 species of Coleoptera, 1 species of Hemiptera , 5 species of Odonata and 4 species of spiders. The efficacies of plant exstracts , bio-insecticides, oil and insecticides for controlling thrips, thirtheen methods were compared with control(no substance), tested in laboratory condition and in demonstration field . The results found that tested in laboratory condition (72 hour after spraying) showed that all methods were high efficacies (100 %), compared with control and the efficacy of water was 53.28 %. In demonstration field with 4-time spraying, after 4 th time spraying methods more than 90 % effectiveness were carbosulfan 20 % EC, fipronil 5% SC, imidacloprid 10% SL , petroleum oil 83.9% EC + Thai neem aza. 0.5% , petroleum oil 83.9% EC + tobacco 3% , petroleum oil 83.9% EC+derris 1% and tobacco 3% , the method decleased rough scars fruits at harvesting were group of insecticide; carbosulfan 20 % EC, fipronil 5% SC and imidacloprid 10% SL, oil and plant extract ; petroleum oil 83.9% EC + tobacco 3% all methods were not significant difference. The integrated appropriated management for controlling thrips in demonstration field, before spraying showed that all methods were not significantly different from control. After 1-4 time spraying showned that all used substance methods were significantly different from control . The effectiveness compared with control were followed by 4th method (carbosulfan 20 %EC 40 ml/ 20 l. of water + imidacloprid 10% SL (I)+ fipronil 5% SL(P)+ imidacloprid 10% SL(I) ) ,1st method (carbosulfan 20% EC40 ml/l +I+P+I), 2nd method (fipronil 5% SL 10 ml/ 20 l. of water +I+P+I, 3rd method (imidacloprid 10% SL10 ml/ 20 l. of water +I+P+I ) and 5th method( carbosulfan 20% EC 40 ml/ 20 l. of water (C2)+C2 + C2 + C2) were 85.90, 80.10, 79.99, 78.44 and 77.25 %, respectively. The percentage damage of young fruits stage in 8-Week after spraying substance showned that all used substance methods were not significantly different, fruits damage average were between 3.80-5.60 %,significantly different from control(26.70%), the percentage rough scars at the early-harvest mid-harvest and late–harvest season showned that all of used substance methods were between 5.10-7.80 % ,significantly different from control (19.44%).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
คำสำคัญ: เพลี้ยไฟมังคุด
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การสำรวจประชากรเพลี้ยไฟมังคุดเพื่อทำนายการระบาดและการจัดการอย่างเหมาะสม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
30 กันยายน 2553
การจัดการเพลี้ยแป้งในมังคุด ระยะปลูกที่เหมาะสมของมังคุดในสวนยางอ่อน ผลิตภัณฑ์น้ำมังคุด 100% น้ำมังคุดพร้อมดื่มและแยมมังคุด การทดสอบระบบให้น้ำพร้อมปุ๋ยที่เหมาะสมสำหรับสวนมังคุด สภาพการผลิตมังคุดเพื่อการส่งออกของกลุ่มปรับปรุงคุณภาพมังคุด สภาพการผลิตมังคุดของสมาชิกกลุ่มปรับปรุงคุณภาพมังคุดในภาคตะวันออก การพัฒนาเครื่องดื่มน้ำมังคุดผสมเปลือกมังคุด การผลิตมังคุดเพื่อการส่งออกของสมาชิกกลุ่มปรับปรุงคุณภาพมังคุด จังหวัดจันทบุรี โครงการวิจัยเพื่อหาวิธีการเพิ่มปริมาณมังคุดคุณภาพโดยการจัดการเขตกรรมแบบผสมผสาน การพัฒนาการผลิตไอศกรีมเพื่อสุขภาพจากมังคุด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก