สืบค้นงานวิจัย
รายงานการศึกษาความชุกและการพัฒนาการตรวจวิเคราะห์เชื้อก่อโรคในผู้ป่วยโรคท้องร่วงเฉียบพลันที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ศิริพร จันทน์โรจน์ - 1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นนทบุรี 11000 2 ศูนย์ความร่วมมือการวิจัยโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น (RCC-ERI) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นนทบุรี 11000 3 โรงพยาบาลแม่สอด ตาก 63110 4 สถาบันบำราศนราดูร นนทบุรี 11000 5 โรงพยาบาลระนอง ระนอง 85000 6 โรงพยาบาลชุมแพ ขอนแก่น 40130
ชื่อเรื่อง: รายงานการศึกษาความชุกและการพัฒนาการตรวจวิเคราะห์เชื้อก่อโรคในผู้ป่วยโรคท้องร่วงเฉียบพลันที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศิริพร จันทน์โรจน์
บทคัดย่อ: สาระสำคัญ: รายงานการวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยเรื่องการตรวจหาและจำแนกเชื้อสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในประเทศไทยโดยวิธีทางอณูชีววิทยา/จีโนมิกส์และการพัฒนาวิธีตรวจวินิจฉัยโรคชนิดใหม่ ภายใต้โครงการศูนย์ความร่วมมือการวิจัยโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ระยะการดำเนินงาน 5 ปี (พ.ศ. 2559-2563) ผ่านการอนุมัติในแง่จริยธรรมจากคณะกรรมการพิจารณาการศึกษาวิจัยในคน กระทรวงสาธารณสุข รหัสโครงการ เลขที่ 44/2558 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกของเชื้อสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงเฉียบพลันในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและบุคคลสุขภาพดี (กลุ่มเปรียบเทียบ) ประเมินประสิทธิภาพของวิธีทางอณูชีววิทยาที่ใช้ตรวจหาเชื้อสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงเฉียบพลันในกลุ่มตัวอย่างข้างต้นเปรียบเทียบกับวิธีเพาะเลี้ยงเชื้อมาตรฐานจะช่วยให้ทราบถึงกลุ่มประชากรของจุลินทรีย์ที่พบในตัวอย่างนั้นๆ และอาจทำให้ค้นพบเชื้อสาเหตุชนิดใหม่ที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงได้ และจัดจำแนกเชื้อสาเหตุที่แยกได้จากสิ่งส่งตรวจอุจจาระ โดยอาศัยหลักการทางจีโนไทป์และฟีโนไทป์ เบื้องต้นกลุ่มตัวอย่างและสถานที่เก็บตัวอย่างที่ศึกษา แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยโรคท้องร่วงเฉียบพลัน และอาสาสมัครสุขภาพดี ซึ่งใช้เป็นกลุ่มควบคุม ที่มีคุณคุณสมบัติตามเกณฑ์การคัดเลือกอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยเก็บตัวอย่างจากโรงพยาบาลและพื้นที่ใกล้เคียงโรงพยาบาล (กรณีอาสาสมัครสุขภาพดี) จำนวน 4 แห่งคือ สถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี โรงพยาบาลระนอง จังหวัดระนอง โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก และ โรงพยาบาลชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เก็บตัวอย่างอุจจาระผู้ป่วยและอาสาสมัครสุขภาพดี ปริมาตร 5 - 15 มิลลิลิตร จำนวนตัวอย่าง ณ วันที่ 25 เมษายน - 30 กันยายน 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 92 ตัวอย่าง โดยแบ่งเป็นผู้ป่วย 48 ราย และกลุ่มควบคุม 44 ราย ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเชื้อ วิธี Taq-Man real-time PCR วิธี Conventional multiplex PCR และตรวจหาความไวต่อยาต้านจุลชีพของเชื้อที่ตรวจพบ พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 87 ตรวจพบเชื้อก่อโรคเป้าหมาย โดยแยกเป็นผู้ป่วย ร้อยละ 85.4 (41/48) และกลุ่มควบคุม ร้อยละ 88.6 (39/44) ตัวอย่างผู้ป่วยร้อยละ 14.6 (7/48) ตรวจไม่พบเชื้อเป้าหมายซึ่งตัวอย่างเหล่านี้อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลผู้ป่วยเพื่อคัดเลือกตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์โดยวิธีเมตาจีโนมิกส์ต่อไป ภาพรวมความชุกของเชื้อที่พบในทั้งสองกลุ่มตัวอย่าง พบว่าเป็น เชื้อแบคทีเรีย (ร้อยละ 82.6) เชื้อไวรัส (ร้อยละ 21.2) และโปรโตซัว (ร้อยละ 3.3) ตามลำดับ เมื่อแยกพิจารณาเป็นรายกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ผู้ป่วยมีความชุกในการตรวจพบเชื้อไวรัสสูงกว่ากลุ่มควบคุม คือ ร้อยละ 37.5 (18/48) และ 15.9 (7/44) ตามลำดับ ในขณะที่ความชุกของเชื้อแบคทีเรีย (ร้อยละ 79.2 และ 86.4) และโปรโตซัว (ร้อยละ 4.2 และ 2.3) พบมีจำนวนใกล้เคียงกัน ตามลำดับ ความชุกและการกระจายตัวของเชื้อก่อโรค แสดงดังรูปที่ 1 เชื้อที่ตรวจพบเฉพาะในตัวอย่างผู้ป่วย ได้แก่ Rotavirus (ร้อยละ 14.6; 7/48) Norovirus Gr.II (ร้อยละ 4.2; 2/48) Cryptococcus spp. (ร้อยละ 2.1; 1/48) และ Yersinia spp. (ร้อยละ 4.2; 2/48) ขณะที่เชื้อ Enteropathogenic E. coli (EPEC) และ Enteroaggregative E. coli (EAEC) พบมากในทั้งสองกลุ่มตัวอย่าง (รูปที่ 1) นอกจากนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 45.8 (22/48) พบการติดเชื้อก่อโรคร่วมกัน (mixed infection) 2 – 3 ชนิด และร้อยละ 18.8 (9/48) ตรวจพบเชื้อร่วมกัน 5 – 7 ชนิด ในขณะที่กลุ่มควบคุมส่วนใหญ่ร้อยละ 61.4 (27/44) พบการติดเชื้อก่อโรคร่วมกันในจำนวนน้อยกว่า คือ 1 – 2 ชนิด และร้อยละ 27.3 (12/48) ตรวจพบเชื้อร่วมกัน 3 – 4 ชนิด (รูปที่ 2) ผลการเพาะเลี้ยงเชื้อโดยวิธีมาตรฐานจากตัวอย่างทั้งสิ้น 92 ตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างกลุ่มผู้ป่วยโรคท้องร่วงเฉียบพลัน ร้อยละ 54.2 (26/48) และกลุ่มควบคุม ร้อยละ 47.7 (21/44) ตรวจพบเชื้อก่อโรคชนิด Diarrheagenic E. coli, Salmonella, Shigella, Morganella morganii, Providencia rettgeri, Citrobacter fruendii โดยเชื้อที่แยกได้ทั้งหมดนี้มีการบ่งชี้ระดับสปีชีส์โดยการทดสอบทางชีวเคมี ซีโรโลยี และการตรวจยีนที่จำเพาะต่อระดับสปีชีส์ของเชื้อแต่ละกลุ่ม โดยวิธี Multiplex PCR เมื่อนำเชื้อดังกล่าวมาทดสอบการดื้อของยาต่อยาต้านจุลชีพ 18 ชนิด พบว่า เชื้อ Diarrheagenic E. coli ,M. morganii , Shigella spp. และ Salmonella spp. มีการดื้อต่อยาหลายชนิด คือ 15,12, 7 และ 6 ชนิด ตามลำดับ โดยเชื้อ Diarrheagenic E. coli, Shigella spp. และ Salmonella spp. ดื้อต่อยาแต่ละขนาดในระดับใกล้เคียงกัน ในขณะที่เชื้อ M. morganii ร้อยละ 100 ดื้อต่อยา amoxicillin/clavulanic acid, tigecycline และ colistin ส่วนเชื้ออื่นๆ ได้แก่ P. rettgeri และ C. fruendii ดื้อต่อยาทดสอบ 2 ชนิด จากผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยโรคท้องร่วงเฉียบพลันร้อยละ 87 สามารถตรวจพบเชื้อก่อโรคเป้าหมาย ซึ่งเป็นเชื้อสาเหตุหลักของโรคอุจจาระร่วงแต่เชื้อที่ตรวจพบในบางตัวอย่างมีปริมาณไม่สูงมาก ซึ่งคาดว่าอาจจะไม่ใช่เชื้อสาเหตุของผู้ป่วยรายนั้น อีกทั้งตัวอย่างร้อยละ 14.6 ตรวจไม่พบเชื้อเป้าหมาย ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาทั้งในและต่างประเทศที่พบว่า มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งตรวจไม่พบเชื้อสาเหตุเนื่องจากเชื้อบางชนิดไม่สามารถตรวจวินิจฉัยหรือระบุเชื้อได้ในห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลทั่วไป ทำให้ไม่ทราบสาเหตุของโรคที่แท้จริง (1-4) ในผู้ป่วยหนึ่งราย พบมีการติดเชื้อร่วมกันสูงสุดถึง 7 ชนิด (Mixed infection) ที่พบส่วนใหญ่จะเป็นการติดเชื้อ 2-3 ชนิดร่วมกัน ขณะที่อาสาสมัครสุขภาพดีตรวจพบเชื้อร่วมกันสูงสุด 4 ชนิด ทั้งนี้พบว่า รูปแบบการพบเชื้อนี้ขึ้นกับพื้นที่หรือแหล่งที่เก็บตัวอย่าง และประเภทของเชื้อก่อโรคที่พบร่วมกันในทั้งสองกลุ่มตัวอย่าง คือ แบคทีเรีย-แบคทีเรีย แบคทีเรีย-ไวรัส และไวรัส-ไวรัส ตามลำดับ และกลุ่มอาสาสมัครสุขภาพดี จำนวนมาก (ร้อยละ 88.6) จัดเป็นกลุ่มไม่มีอาการของโรค (asymptomatic person) แต่อาจเป็นพาหะนาโรคอย่างน้อยหนึ่งชนิดได้ทำให้ทราบแนวโน้มความชุกและการกระจายตัวของเชื้อในแต่ละพื้นที่ ซึ่งช่วยให้การวิเคราะห์ผลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การตรวจพบเชื้อในกลุ่มควบคุมจำนวนใกล้เคียงกับผู้ป่วยนี้ ถึงแม้จะมีปริมาณเชื้อที่ตรวจน้อยกว่า แต่สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดได้ว่า ในแต่ละพื้นที่มีกลุ่มไม่มีอาการของโรคอยู่จำนวนหนึ่งและสามารถเป็นพาหะของเชื้อก่อโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยาต้านจุลชีพหลายชนิดได้ จึงควรมีการเฝ้าระวังและเฝ้าติดตามการแพร่กระจายของเชื้ออย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายสิ่งแวดล้อมหรือชุมชนได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://nih.dmsc.moph.go.th/research/showimgdetil.php?id=654
เผยแพร่โดย: 1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นนทบุรี 11000 2 ศูนย์ความร่วมมือการวิจัยโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น (RCC-ERI) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นนทบุรี 11000 3 โรงพยาบาลแม่สอด ตาก 63110 4 สถาบันบำราศนราดูร นนทบุรี 11000 5 โรงพยาบาลระนอง ระนอง 85000 6 โรงพยาบาลชุมแพ ขอนแก่น 40130
คำสำคัญ: โรคท้องร่วงเฉียบพลัน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานการศึกษาความชุกและการพัฒนาการตรวจวิเคราะห์เชื้อก่อโรคในผู้ป่วยโรคท้องร่วงเฉียบพลันที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นนทบุรี 11000 2 ศูนย์ความร่วมมือการวิจัยโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น (RCC-ERI) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นนทบุรี 11000 3 โรงพยาบาลแม่สอด ตาก 63110 4 สถาบันบำราศนราดูร นนทบุรี 11000 5 โรงพยาบาลระนอง ระนอง 85000 6 โรงพยาบาลชุมแพ ขอนแก่น 40130
2561
1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นนทบุรี 11000 2 ศูนย์ความร่วมมือการวิจัยโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น (RCC-ERI) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นนทบุรี 11000 3 โรงพยาบาลแม่สอด ตาก 63110 4 สถาบันบำราศนราดูร นนทบุรี 11000 5 โรงพยาบาลระนอง ระนอง 85000 6 โรงพยาบาลชุมแพ ขอนแก่น 40130
การตรวจวิเคราะห์แบคทีเรียก่อโรคในอาหารโดยเทคนิคพีซีอาร์ โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาโรคใบขาวของอ้อย การศึกษาและพัฒนาแนวทางการป้องกันและกำจัดโรคขิงเน่าที่เกิดจากเชื้อบักเตรีโดยวิธีผสมผสาน การพัฒนาการทำนาข้าวนาเปียกสลับแห้ง การสำรวจหาความชุกของ Salmonella และ Campylobacter ในฟาร์มลูกเป็ดไข่ การศึกษาสภาวะโรคข้อและสมองอักเสบในแพะ การสำรวจเชื้อก่อโรคเต้านมอักเสบในโคนมและความไวต่อยาปฏิชีวนะ ในจังหวัดสระแก้ว การตรวจวิเคราะห์ชนิดและปริมาณของวัตถุมีพิษในดักแด้ การศึกษาวิเคราะห์แนวทางพัฒนาหน่อไม้ฝรั่งเพื่อการส่งออก พัฒนาการของลูกปลากดเกราะวัยอ่อน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก