สืบค้นงานวิจัย
ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตข้าวบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 3 การศึกษาวิจัยปริมาณก๊าซมีเทนในระบบข้าวนาน้ำน้อย
บุญลือ คะเชนทร์ชาติ - สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตข้าวบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 3 การศึกษาวิจัยปริมาณก๊าซมีเทนในระบบข้าวนาน้ำน้อย
ชื่อเรื่อง (EN): Methane emission from rice production system with water-saving irrigation
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: บุญลือ คะเชนทร์ชาติ
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจวัดปริมาณก๊าซมีเทนที่ปลดปล่อยจากนาข้าวและปริมาณการใช้น้ำในการปลูกข้าวบนพื้นที่สูง โดยการเปรียบเทียบวิธีการจัดการน้ำ 2 รูปแบบ คือ ระบบข้าวนาน้ำขัง ปลูกข้าวตามวิธีที่เกษตรกรปฏิบัติ และ ระบบข้าวนาน้ำน้อย แกล้งข้าว 2 ครั้ง ในระยะแตกกอ ดำเนินการวิจัยในฤดูนาปี ระหว่างเดือน มิถุนายน ถึง พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ในสภาพไร่นา 2 แห่ง คือ ที่บ้านผาแตก โครงการขยายผลโครงการหลวงผาแตก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ปลูกข้าวพันธุ์ลิกา และบ้านแม่สายนาเลา โครงการขยายผลโครงการหลวงโหล่งขอด อ. พร้าว จ.เชียงใหม่ ปลูกข้าวพันธุ์ สันป่าตอง 1 ผลการศึกษาพบว่า นาข้าวบนพื้นที่สูง ที่บ้านผาแตกกับบ้านแม่สายนาเลา ที่ปลูกด้วยระบบข้าวนาน้ำน้อยและระบบข้าวนาน้ำขัง ปลดปล่อยมีเทนสะสม 473.12 กับ 12.20 kg CH4 ha-1 และ 515.13 กับ 50.41 kg CH4 ha-1 ตามลำดับ โดยระบบข้าวนาน้ำน้อยมีประสิทธิภาพลดการปลดปล่อยมีเทนได้ร้อยละ 8.16 และ 75.80 เมื่อเปรียบเทียบกับระบบนาน้ำขัง ส่วนการปลดปล่อยไนตรัสออกไซด์สะสม จากนาข้าว บ้านผาแตก ระบบข้าวนาน้ำน้อยและระบบข้าวนาน้ำขัง มีค่า 4.51 กับ 3.16 kg N2O ha-1 ส่วนบ้านแม่สายนาเลา ระบบข้าวนาน้ำน้อยและระบบข้าวนาน้ำขัง มีค่า 2.69 และ 3.13 kg N2O ha-1 ตามลำดับ โดยระบบข้าวนาน้ำน้อยมีประสิทธิภาพลดการปลดปล่อยไนตรัสออกไซด์ได้ร้อยละ 14.11 เมื่อเปรียบเทียบกับระบบนาน้ำขัง ทั้งนี้ระบบข้าวนาน้ำน้อยมีประสิทธิภาพการลดศักยภาพการทำให้โลกร้อนรวม ร้อยละ 4.05 และ 46.32 เมื่อเปรียบเทียบกับระบบนาน้ำขัง สำหรับนาข้าวบ้านผาแตกและแม่สายนาเลา ตามลำดับ ร้อยละของปริมาณการส่งน้ำรวมตลอดฤดูเพาะปลูก นาข้าว บ้านแม่สายนาเลา ระบบข้าวนาน้ำน้อย มีค่าน้อยกว่าระบบข้าวนาน้ำขังร้อยละ 55.95 ส่วนที่นาข้าวบ้านผาแตก มีอัตราการรั่วซึมด้านข้างสูงมาก ระบบข้าวนาน้ำน้อยจึงมีค่าการส่งน้ำสูงกว่าระบบข้าวนาน้ำขัง ร้อยละ 212.96 ผลผลิตข้าวแปลงนาบ้านผาแตกและบ้านแม่สายนาเลา พบว่า ระบบข้าวนาน้ำน้อย (924.45 และ737.93 กิโลกรัม/ไร่ ) ให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงกว่าระบบข้าวนาน้ำขัง (849.18 และ 663.49 กิโลกรัม/ไร่ โดยการทำนาระบบข้าวนาน้ำน้อยให้ผลผลิตสูงกว่าระบบนาน้ำขังเป็นร้อยละ 8.85 และ 11.22 นอกจากนี้ อิทธิพลของการแกล้งข้าว ส่งผลให้อัตราการสะสมมวลชีวภาพสุทธิสูงขึ้น โดยระบบข้าวนาน้ำน้อย (13.18 และ11.89 กรัม/ตร.ซม./วัน ตามลำดับ) มีค่าสูงกว่าระบบข้าวนาน้ำขัง (10.32 และ 8.32 กรัม/ตร.ซม./วัน ตามลำดับ) จากผลการศึกษาบ่งชี้ว่า ระบบข้าวนาน้ำน้อยและการแกล้งข้าว ให้ผลประโยชน์ร่วมในการลดการปล่อยมีเทนจากการทำนาขั้นบันได เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ และเพิ่มผลผลิตข้าว ไปพร้อมกัน
บทคัดย่อ (EN): This research aimed to monitor methane emission from paddy field and water usage during rice production on highland area. Two water management systems were compared, which were continuous flooding system using farmer’s method and water-saving system with 2 cycles of alternate wetting and drying during tillering stage. The research was carried out during in-season planting of June-November 2015 at two field places including Pha Taak village, Pha Taak royal project extention area, Mae Rim district, Chiang Mai Province that grown Li Ka rice cultivar and Mae Sai Na Rao village, Long Kort royal project extention area, Phrao, Chiang Mai Province that grown San-pah-tawng 1 rice cultivar. The results showed that highland paddy fields at Pha Taak village and Mae Sai Na Rao village which used water-saving and continuous flooding systems had cumulative methane emission at 473.12 and 12.20 kg CH4 ha-1; and 515.13 and 50.41 kg CH4 ha-1, respectively. Thus, the water-saving system effectively reduced methane emission by 8.16 and 75.80% when compared with the continuous flooding systems. For cumulative nitrous oxide emission, the amounts from water-saving and continuous flooding systems of Pha Taak paddy fields were 4.51 and 3.16 kg N2O ha-1, while from water-saving and continuous flooding systems of Mae Sai Na Rao paddy fields were 2.69 และ 3.13 kg N2O ha-1, respectively. Thus, the water-saving system effectively reduced nitrous oxide emission by 14.11% when compared with the continuous flooding systems. In total, the water-saving system had global warming reduction potential efficiency of 4.05 and 46.32 % when compared with continuous flooding system for Pha Taak and Mae Sai Na Rao paddy fields, respectively. The irrigated water volume throughout growing season of the water-saving system at Pha Taak paddy fields was lower than the continuous flooding system by 55.95%. However, there were very high seepage rate at Pha Taak paddy fields thus the irrigated water volume of the water-saving system was higher than the continuous flooding system by 212.96%. Rice yields from Pha Taak and Mae Sai Na Rao paddy fields showed that the water-saving system (924.45 and 737.93 Kg/rai ) had averaged higher yields than the continuous flooding system (849.18 and 663.49 Kg/rai). Thus, the water-saving system gave higher yields than the continuous flooding system by 8.85 and 11.22%, respectively. In addition, the influent of alternate wetting and drying cycle led to the increasing of net biomass assimilation rate, which the values from water-saving system (13.18 and 111.89 g/cm2/day, respectively were higher than from continuous flooding system (10.32 and 8.32 g/cm2/day, respectively). The results indicated that the water-saving system and alternate wetting and drying cycle had co-benefit effects in reducing methane emission from rice terraces as well as increasing water usage efficiency and rice yields.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: ความต้องการใช้น้ำชลประทาน
คำสำคัญ (EN): Irrigation water requirement
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตข้าวบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 3 การศึกษาวิจัยปริมาณก๊าซมีเทนในระบบข้าวนาน้ำน้อย
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
30 กันยายน 2558
การจัดการความรู้สำหรับโครงการวิจัยเชิงบูรณาการ แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน การวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดของเสาวรสหวาน บนพื้นที่สูง ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของพืชไร่บนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 1 โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของพืชไร่บนพื้นที่สูง โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตกาแฟอราบิก้าในพื้นที่โครงการหลวงและขยายผลโครงการหลวง โครงการศึกษาวิจัยการเพิ่มผลผลิตข้าวบนพื้นที่สูง ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดของกาแฟอราบิก้าบนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 2 การประเมินและเฝ้าระวังการระบาดของโรคและแมลงศัตรูกาแฟอราบิก้าในพื้นที่การส่งเสริมการปล การวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดขององุ่นบนพื้นที่สูง การบริหารจัดการนาแปลงใหญ่เพื่อลดต้นทุนการผลิตข้าว จังหวัดสุรินทร์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก