สืบค้นงานวิจัย
รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสภาวะทีเหมาะสมในการสกัดเจลาตินจากหนังปลานิล
พเยาว์ พวงพั้ว - มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
ชื่อเรื่อง: รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสภาวะทีเหมาะสมในการสกัดเจลาตินจากหนังปลานิล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พเยาว์ พวงพั้ว
บทคัดย่อ: การศึกษาเพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมในการสกัดเจลาตินจากหนังปลานิล โดยศึกษาความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่เหมาะสมในการแช่หนังปลา โดยนำหนังปลานิลแช่ในสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ความเข้มข้นร้อยละ 0.2 0.4 0.6 0.8 และ 1.0 เมื่อพิจารณาจากลักษณะการพองตัวของหนังปลานิลที่ผ่านการแช่เป็นเวลา 3 ชั่วโมง พบว่าความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ร้อยละ 0.4 มีความเหมาะสมที่สุด จากนั้นแช่หนังปลาในสารละลายกรดความเข้มข้นร้อยละ 0.4 ในสารละลายกรด 3 ชนิด ได้แก่ กรดไฮโดรคลอริก กรดซัลฟูริก และกรดฟอสฟอริก จากการพิจารณาการพองตัวของหนังปลา พบว่า กรดไฮโดรคลอริกมีความเหมาะสมที่สุด ต่อมาศึกษาอุณหภูมิและระยะเวลาที่เหมาะสมในการต้ม โดยใช้อัตราส่วนน้ำต่อหนังปลา เท่ากับ 2:1 อุณหภูมิที่ใช้คือ 60 70 และ 80 องศาเซลเซียส เวลา 1.0 1.5 และ 2.0 ชั่วโมง เมื่อวิเคราะห์ค่าความแข็งแรงของเจล พบว่า เจลที่ได้จากการต้มที่อุณหภูมิที่ 70 องศาเซลเซียส เวลา 1.5 ชั่วโมง สามารถทนแรงเจาะทะลุได้มากที่สุด นำเจลาตินมาทำให้แห้งด้วยเครื่องอบลมร้อนและบดเป็นผง หลังจากนั้นนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเยลลี่เปรียบเยกกับเจลาตินทางการค้าพบว่า ผู้ทดสอบให้การยอมรับผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิด ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=3&RecId=245&obj_id=2160
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
คำสำคัญ: เยลลี่
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
รายละเอียด: การศึกษาเพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมในการสกัดเจลาตินจากหนังปลานิล โดยศึกษาความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่เหมาะสมในการแช่หนังปลา โดยนำหนังปลานิลแช่ในสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ความเข้มข้นร้อยละ 0.2 0.4 0.6 0.8 และ 1.0 เมื่อพิจารณาจากลักษณะการพองตัวของหนังปลานิลที่ผ่านการแช่เป็นเวลา 3 ชั่วโมง พบว่าความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ร้อยละ 0.4 มีความเหมาะสมที่สุด จากนั้นแช่หนังปลาในสารละลายกรดความเข้มข้นร้อยละ 0.4 ในสารละลายกรด 3 ชนิด ได้แก่ กรดไฮโดรคลอริก กรดซัลฟูริก และกรดฟอสฟอริก จากการพิจารณาการพองตัวของหนังปลา พบว่า กรดไฮโดรคลอริกมีความเหมาะสมที่สุด ต่อมาศึกษาอุณหภูมิและระยะเวลาที่เหมาะสมในการต้ม โดยใช้อัตราส่วนน้ำต่อหนังปลา เท่ากับ 2:1 อุณหภูมิที่ใช้คือ 60 70 และ 80 องศาเซลเซียส เวลา 1.0 1.5 และ 2.0 ชั่วโมง เมื่อวิเคราะห์ค่าความแข็งแรงของเจล พบว่า เจลที่ได้จากการต้มที่อุณหภูมิที่ 70 องศาเซลเซียส เวลา 1.5 ชั่วโมง สามารถทนแรงเจาะทะลุได้มากที่สุด นำเจลาตินมาทำให้แห้งด้วยเครื่องอบลมร้อนและบดเป็นผง หลังจากนั้นนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเยลลี่เปรียบเยกกับเจลาตินทางการค้าพบว่า ผู้ทดสอบให้การยอมรับผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิด ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

พเยาว์ พวงพั้ว. "รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสภาวะทีเหมาะสมในการสกัดเจลาตินจากหนังปลานิล". มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. 2550

พเยาว์ พวงพั้ว. "รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสภาวะทีเหมาะสมในการสกัดเจลาตินจากหนังปลานิล". มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. 2550. Print.



TARR Wordcloud:
รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสภาวะทีเหมาะสมในการสกัดเจลาตินจากหนังปลานิล
พเยาว์ พวงพั้ว
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
22 กันยายน 2550
รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาปัจจัยที่เหมาะสมต่อคุณภาพของซูริมิจากปลานิล รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการสกัดแอนโทไซยานินจากกะหล่ำปลีม่วง ในการสกัดแคลเซียมจากกระดูกปลานิล รายงานการวิจัย การศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันสัตว์ รายงานการวิจัยเรื่องฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดจากบัวที่นิยมปลูกเป็นการค้า รายงานการวิจัยเรื่องวิทยาการระบาดของ metacercaria ในปลาน้ำจืดบางชนิดในแม่น้ำมูล รายงานผลการวิจัยเรื่อง สภาวะและวิธีการที่เหมาะสมในการขยายพันธุ์พืชสมุนไพรขมิ้นชัน รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดจากพืชสมุนไพรที่มีผลยับยั้งการเจริยของเชื้อรา Pythium aphanidermatumและphytopthora palmivoraในมะละกอ การศึกษาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการทอดปลานิลโดยใช้เครื่องทอดสุญญากาศ รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาการทำน้ำหอมจากดอกไม้หอม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair