สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนา ดีเอ็นเอ-เบส วัคซีน (DNA – based vaccine) และโปรตีน-เบสวัคซีน (Protein-based vaccine) เพื่อใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับชนิด Fasciola gigantica ในสัตว์ทดลองและสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจ
ฮานส์ รูดี กรามส์ - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การพัฒนา ดีเอ็นเอ-เบส วัคซีน (DNA – based vaccine) และโปรตีน-เบสวัคซีน (Protein-based vaccine) เพื่อใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับชนิด Fasciola gigantica ในสัตว์ทดลองและสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจ
ชื่อเรื่อง (EN): Development of DNA-based vaccine and protein-based vaccine for protectionofliver fluke (Fasciola gigantica) infection in experimental and economically important domestic animals.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ฮานส์ รูดี กรามส์
บทคัดย่อ: แผนการวิจัยนี้ประกอบด้วย 2 โครงการวิจัยหลัก คือ (1) การศึกษาประสิทธิภาพของดีเอ็น เอ-เบส และ โปรตีน-เบส วัคซีน ในการป้องกันการติดเชื้อพยาธิไบไม้ตับ (Fasciola gigantica) ในสัตว์เศรษฐกิจ และ (2) การวิเคราะห์ตัวบ่งขี้ทางชีวภาพ (biomarker) ของมะเร็งท่อน้ำดี และ การศึกษาประสิทธิภาพทางสมุนไพรไทยในการยับยั้งมะเร็งท่อน้ำดีที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิ ใบไม้ตับ (Opisthorchis viverrini) การศึกษาด้วยวัคซีนป้องกันการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับในสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจ เบื้องต้นได้ ดำเนินการสำรวจเพื่อหาแหล่งที่หอยน้ำจืดตระกูล Radix ซึ่งเป็นโฮสต์ตัวกลางของพยาธิอาศัย และมีการติดเชื้อพยาธิอยู่ เพื่อศึกษาว่าหอยมีการติดเชื้อพยาธิในธรรมชาติมากน้อยเท่าใด และ เพื่อนำหอยมาเพาะเลี้ยงเพื่อการติดเชื้อพยาธิ สำหรับนำตัวอ่อนพยาธิจากหอยที่ติดเชื้อมาใช้ใน การทดลองและได้มีการพัฒนาวิธีทางอณูชีววิทยาในการจำแนกหอยที่ติดเชื้อพยาธิและหอยชนิดที่ ปลอดจากเชื้อพยาธิ เพื่อนำไปใช้ในการสำรวจต่อไป สำหรับการศึกษาด้านวัคนเพื่อวิเคราะห์หา วัคซีนตัวเลือก (candidate vaccine) ที่เหมาะ ผู้วิจัยได้ทำการโคลนยีนของพยาธิที่คาดว่ามี ศักยภาพ 10 ยีน คือ AsparaginyI endopeptidase, Glutathione S-transferase, Vitelline protein, Fatty acid binding protein, Type 1 cystatin, Water channel proteins, Leucine, aminopeptidase, Cathepsin B, Cathepsin L และ Saponin like protein จากยืนเหล่านี้เพื่อ นำมาใช้ในการทดลองต่อไปการวิจัยเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของโปรตีน-เบส และดีเอ็นเอ-เบสวัคซีนในสัตว์ทดลอง ดำเนินการโดยนำโปรตีนรีคอมมิแนนท์ ที่ผลิตจากยีน cathepsin B และ cathepsin L ที่โคลนได้ จากพยาธิ นำมาใช้เป็นวัคซีนฉีดเข้าหนูทดลอง (Sprague Dawiey) พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ สูงสุดถึง 83% เมื่อใช้โปรตีน cathepsin B และ cathepsin L ร่วมกัน สำหรับการศึกษา ประสิทธิภาพของ ดีเอนเอ-เบสวัคซีนโตยใช้ยีน cathepsin L ฉีดเข้ากับสัตว์ทดลองโดยใช้ gold particle method ฉีดด้วย gene gun พบว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นให้สัตว์ทดลองสร้างแอนติบอดี ชนิด IgG,, 19G. และ IgG. จำเพาะต่อ cathepsin L แสดงว่าวิธีนี้มีการกระตุ้นได้ทั้ง Th, และ Th., ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการทดลองเพื่อขยายผลต่อไป การศึกษาเพื่อวิเคราะห์หาตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (Biomarker) ของโรคมะเร็งท่อน้ำดี โดยนำ พลาสมาของผู้ป่วยมาวิเคราะห์ทั้งปริมาณและชนิดของโปรตีน ที่มีการสร้างเพิ่มขึ้น หรือลดลงเมื่อ เปรียบเทียบกับคนปกติด้วยวิธี two dimensional gel electrophoresis (2-DE) และ Mass spectrometry (MALDI-TOF)พบว่ามีโปรตีนอย่างน้อย 5 ชนิด ที่มีการสร้างในปริมาณที่สูงขึ้นการวิจัยเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของโปรตีน-เบส และดีเอ็นเอ-เบสวัคซีนในสัตว์ทดลอง ดำเนินการโดยนำโปรตีนรีคอมมิแนนท์ ที่ผลิตจากยีน cathepsin B และ cathepsin L ที่โคลนได้ จากพยาธิ นำมาใช้เป็นวัคซีนฉีดเข้าหนูทดลอง (Sprague Dawiey) พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ สูงสุดถึง 83% เมื่อใช้โปรตีน cathepsin B และ cathepsin L ร่วมกัน สำหรับการศึกษา ประสิทธิภาพของ ดีเอนเอ-เบสวัคซีนโตยใช้ยีน cathepsin L ฉีดเข้ากับสัตว์ทดลองโดยใช้ gold particle method ฉีดด้วย gene gun พบว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นให้สัตว์ทดลองสร้างแอนติบอดี ชนิด IgG,, 19G. และ IgG. จำเพาะต่อ cathepsin L แสดงว่าวิธีนี้มีการกระตุ้นได้ทั้ง Th, และ Th., ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการทดลองเพื่อขยายผลต่อไป การศึกษาเพื่อวิเคราะห์หาตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (Biomarker) ของโรคมะเร็งท่อน้ำดี โดยนำ พลาสมาของผู้ป่วยมาวิเคราะห์ทั้งปริมาณและชนิดของโปรตีน ที่มีการสร้างเพิ่มขึ้น หรือลดลงเมื่อ เปรียบเทียบกับคนปกติด้วยวิธี two dimensional gel electrophoresis (2-DE) และ Mass spectrometry (MALDI-TOF)พบว่ามีโปรตีนอย่างน้อย 5 ชนิด ที่มีการสร้างในปริมาณที่สูงขึ้น(up-regulated) ได้แก่ Brutons tyrosine kinase (ID 1368), hp 2-2 (ID 1512), Chain A (ID 1524) และ 21 (1-antitrypsin (API) AID 1375) สำหรับโปรตีนอีก 1 ชนิดคือ ID 1427 ยังไม่ สามารถวิเคราะห์ชนิดได้ ในส่วนของโปรตีนทั้ง 5 ชนิด API เป็นโปรตีนที่มีพบในพลาสมาของ ผู้ป่วยในปริมาณที่สูงอย่างชัดเจนและเมื่อนำมาวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้ binany logistic regression analysis ร่วมกับตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของมะเร็งตับ 2 ชนิดคือ CA-199 และ AFP และ เอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับโรคตับ ได้แก่ ALP, AST และ ALT พบว่ามีอัตราความคาดหมายบ่งชี้การ เป็นมะเร็งท่อน้ำดีสูงถึง 80-100% ดังนั้น AP! จึงเป็นตัวบ่งขี้ทางชีวภาพของโรคมะเร็งท่อน้ำดีที่ สำคัญ ควรจะมีการศึกษาเพิ่มเติมในวงกว้างต่อไป การทดสอบฤทธิ์ของสมุนไพรไทยในการยับยั้งมะเร็งท่อน้ำดีในห้องทดลอง ดำเนินการวิจัยโดยใช้สารสกัดหยาบของสมุนไพรไทย 34 ชนิดกับเชลล์มะเร็งท่อน้ำดี 3 ชนิด คือ เชลล์มะเร็งท่อน้ำดี (CL-6) เชลล์มะเร็งตับ (Hep-G2) และ เซลล์มะเร็งหลอดเสียง (Hep-2) พบว่า มีสมุนไพรไทยอย่างน้อย 7 ชนิดที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งท่อน้ำดีให้ลดลงต่ำ กว่า 50% ผลจากการทดลองโดยละเอียดต่อมาพบว่าโกฐเขมาเป็นสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ยับยั้งการ เจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งท่อน้ำดีได้ดีที่สุด (IC.. , = 24.09)สำหรับการทดลองในสัตว์ทดลองโดยใช้หนูแฮมสเตอร์ที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับและกระตุ้น ด้วยสารก่อมะเร็งให้เกิดเป็นมะเร็งท่อน้ำดีพบว่ามีสมุนไพรไทย 1 ชนิด ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งมะเร็งท่อ น้ำดีได้ดีที่สุด โดยมีอัตราการรอด (surival rate) 100% และระยะเวลาการอยู่รอด (survivai time) นานกว่า 29 สัปดาห์ การที่ยา 5-FU มีอัตราการรอดเพียง 10% และสัตว์ทดลองจะเริ่มตาย ในสัปดาห์ที่ 8 หลังการกระตุ้นให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดี จากที่เคยมีรายงานว่า เอ็นไซม์ glutathione S-transferase (GST) อาจนำมาใช้ในการ ตรวจวินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับได้ ผู้วินิจฉัยได้โคลนยืน GST ของพยาธิ แล้วนำมาผลิตโปรตีนรี คอมบิแนนท์ (OV28GST) และทดสอบประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยด้วยวิธี ELISA แต่ผลการ ทดลองทั้งในผู้ป่วยและสัตว์ทดลองพบว่า OV28GST ไม่เหมาะสมในการที่จะนำมาใช้ในการ วินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับ
บทคัดย่อ (EN): The main objective of this research program divided into two parts (1) to study the efficiency of DNA-based vaccine and protein-based vaccine for protection of liver fluke (Fasciola gigantica) infection and (2) to identify the important biomarker for cholangiocarcinoma and to study the efficacy of Thai medicinal plants for treatment of cholangiocarcinoma. In order to obtain the parasite larvae for vaccine study, we have made a survey of the snail hosts of Fasciola gigantica in all parts of the country. During the study we have also developed a molecular technique for identification of infected snails in the field. For vaccine development, we have cloned 10 genes of Fasciola gigantica namely, Asparaginyl endopeptidase, Glutathione S-transferase Vitelline protein, Fatty acid binding protein, Type 1 cystatin, Water channel proteins, Leucine aminopeptidase, Cathepsin B, Cathepsin L and Saposin like protein. These genes have been reported to be the qood candidate vaccine. The recombinant protein was produced from these genes for used in protein-based vaccine. We have selected cathepsin gene and its recombinant proteins for used in the vaccine study. The result for protein-based study indicated that up to 83% protection was obtained, while the DNA-based study showed that it canstimulate high immune response (IgG, IgG,, และ IgGa) in the experimental animals.For the study on choiangiocarcionomna, we have used the techniques of two dimensional gel electrophoresis (2DE) and mass spectrometry (MALDI-TOF) to identify both type and quantity of protein that found in the plasma of the cholangiocarcionoma patients. The result clearly indicated at least 5 proteins were found to be up-regulate and released into the patients plasma. Four of the five proteins were identified as Brutons tyrosine kinase (ID1368), hp2-2 (FD 1512), Chain A protein (ID1524) and 0.1- antitrypsin (AP1, ID1375) but one of them (ID1427) still can not be identified. Since AP1 has been found to be very prominent in the plasma of the patients therefore, we have selected to use in the study. Statistical analysis using binary logistic regression analysisin combination with 2 liver cancer biomarkers, CA-19-9 and AFP and 3 liver enzymes, ALP, AST and ALT indicated that up to 100% predictability can be obtained. For the study on the efficacy of Thai medicinal plant against cholangiocarcinoma, the first experiment we have tested 34 crude extracted of Thai medicinal plants with human cholangiocarcinoma (CL-6), human laryngeal (Hep-2) and human hepatocarcinoma (Hep-G2) cell lines in vitro. It was found that extracted from 7 plant species exhibited promising activity against CL-6 cell line with survival rate of less than 50%. Among those 7 extracts, Atractylodes lancea has been found to be the most potent and most selective against CL-6 (ICs, = 24.09). For the in vivo study using hamster as the experimental animals, the results indicate that Zingiber officinale was the most effective Thai medicinal plant for controlling of the cholangiocarcinoma. Survival rate of the cholangiocarcinoma animals has been found to be 100% and the survival time was longer than 29 weeks. While the experimental animals treated with 5-FU have the survival rate about 10% and the survival time about 8 weeks.For studying of the immunodiagnosis of opisthorchiasis, based on the previous reported which indicate that glutathione S-transferase(GST)may be used for immunodiagnosis of opisthorchiasis, we have cloned O. viverrini GST gene for used in this study. The recombinant protein was produced from the parasite GST gene and used for development of an ELISA and immunoblot technigue for detecting the parasite antibody in the patient sera and in the experimental animal sera. The result of the experiments still inconclusive since the technique fail to demonstrate significant different between the patients and control group.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คำสำคัญ: สัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจ
คำสำคัญ (EN): leucine aminopeptidase (LAP)
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนา ดีเอ็นเอ-เบส วัคซีน (DNA – based vaccine) และโปรตีน-เบสวัคซีน (Protein-based vaccine) เพื่อใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับชนิด Fasciola gigantica ในสัตว์ทดลองและสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
30 กันยายน 2552
อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน การพัฒนา recombinant 3ABC-based ELISA เพื่อวินิจฉัยสัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสโรคปากและเท้าเปื่อยออกจากสัตว์ที่ได้รับวัคซีน การพัฒนา recombinant 3ABC-based ELISA เพื่อวินิจฉัยสัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสโรคปากและเท้าเปื่อยออกจากสัตว์ที่ได้รับวัคซีน การพัฒนาวิธีตรวจสภาพติดเชื้อ วัคซีน และยาเพื่อป้องกันและรักษาโรคพยาธิใบไม้ตับสัตว์ Fasciola gigantica การพัฒนาวัคซีนต้านโรคพยาธิใบไม้ตับสัตว์โดยใช้เอ็นไซม์ที่ย่อยสลายโปรตีนจำเพาะในพยาธิตัวอ่อน การพัฒนาชุดตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อตรวจวินิจฉัยพยาธิใบไม้ในกระเพาะวัว (ต่อยอดจากปี 2556) ความชุกของแอนติบอดีต่อการติดเชื้อ Neospora caninum ในสุนัขทางภาคกลางของประเทศไทย การพัฒนาคอลัมน์แยกโปรตีนโดยใช้เซลลูโลสที่มีรูพรุนรูปทรงกลมจากซังข้าวโพด การพัฒนาและประยุกต์ใช้วิธีวินิจฉัยการติดเชื้อกับวัคซีนจากแอนติเจนในกลุ่มเอนไซม์ต่อต้านอนุมูลอิสระสำหรับโรคพยาธิใบไม้ตับสัตว์ การศึกษาเปรียบเทียบผลการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยชนิดโมโนวาเลนท์และชนิดไตรวาเลนท์ในสุกร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก