สืบค้นงานวิจัย
พันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงไหมอีรี่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทวิชย์ แสงทะมาตย์ - ไม่ระบุหน่วยงาน
ชื่อเรื่อง: พันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงไหมอีรี่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชื่อเรื่อง (EN): The appropriate varieties of cassava for Eri silkworm rearing in the northeast
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ทวิชย์ แสงทะมาตย์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Tawit Sangtamat
บทคัดย่อ: การทดลองเพาะเลี้ยงไหมอีรี่โดยใช้ใบมันสำปะหลัง 9 พันธุ์ ซึ่งได้แก่ มันสำปะหลังพันธุ์ ระยอง 2, 3, 5. 60, 72, CMR 14, 129, 5 นาที และ KU 50 เปรียบเทียบกับการเพาะเลี้ยงด้วยใบละหุ่ง ภายใต้สภาพอุณหภูมิ ห้องปกติ โดยทดลองใน 3 ฤดู (ฤดูร้อน, ฝน และหนาว มีอุณหภูมิ 31.1+2.5, 29.0+1.0 และ 26.6+2.0 องศา เซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 59.4+8.1, 71.6+7.2 และ 60.5+6.8 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ) พบว่า ไหมอีรี่ที่เลี้ยง ด้วยใบพืชอาหารทุกชนิดที่นำมาทดสอบมีวงจรชีวิตใกล้เคียงกันทั้ง3 ฤดู ซึ่งในช่วงฤดูหนาวมีวงจรชีวิตนานกว่าในฤดูร้อน และฤดูฝน โดยการเลี้ยงด้วยใบละหุ่งมีวงจรชีวิตสั้นที่สุดเท่ากับ 54.67 วัน ในฤดูร้อน และ 54.33 วัน ในฤดูฝน และมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 2 ให้วงจรชีวิตยาวที่สุดเท่ากับ 56.00 วัน ในทั้งฤดูร้อนและฤดูฝน แต่เฉพาะในฤดูฝน เท่านั้นที่มันลำปะหลังพันธุ์ CMR 14 ให้วงจรชีวิตที่ยาวนานที่สุดเท่ากับระยอง 2 นอกจากนั้น พืชอาหารที่มีผลให้ ไหมมีวงจรชีวิตยาวนานที่สุดในช่วงฤดูหนาว คือ มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 2 (59.34 วัน) และสั้นที่สุดคือพันธุ์ระยอง 72 (57.33 วัน) เมื่อพิจารณาด้านผลผลิตต่างๆ ในช่วงฤดูร้อนการเลี้ยงด้วยใบละหุ่งมีความเหมาะสมที่สุด ส่วน มันสำปะหลังที่มีความเหมาะสมที่สุด คือ พันธุระยอง 72 โดยให้ค่าเฉลี่ยของน้ำหนักเปลือกรังรวมและจำนวน ไข่ฟักทั้งหมดเท่ากับ 9.75 กรัม และ 3,659.50 ฟอง ตามลำดับ สำหรับในฤดูฝน การเลี้ยงด้วยละหุ่งมีความ เหมาะสมคล้ายกับในฤดูร้อน และมันสำปะหลังพันธุระยอง 72 และ 5 นาที ยังมีความเหมาะสมในฤดูฝนในการเลี้ยง สูงที่สุด คือให้ค่าเฉลี่ยของน้ำหนักเปลือกรังรวมเท่ากับ 11.58 และ 11.51 กรัม จำนวนไข่ฟักรวมเฉลี่ย 4,429.07 และ 3,376.67 ฟอง ตามลำดับ แต่ในฤดูหนาวมันสำปะหลังพันธุ์ 5 นาที ยังมีความเหมาะสมในฤดูฝนในการเลี้ยง สูงสุด โดยให้ค่าเฉลี่ยของการอยู่รอด น้ำหนักเปลือกรังรวม และจำนวนไข่ฟักทั้งหมดเท่ากับ 95.56%, 9.38 กรัม และ 4,015.51 ฟอง ตามลำดับ ซึ่งพันธุ์ระยอง 2 มีความเหมาะสมน้อยที่สุดทั้ง 3 ฤดู เมื่อนำเปลือกรังที่ได้จาก การเลี้ยงด้วยพืชอาหารชนิดต่างๆไปผลิตเส้นไหมด้วยการสาวมือและไนปั่นด้าย พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (P > 0.05) ทั้ง เวลาในการผลิต น้ำหนักและความยาวของเส้นไหม
บทคัดย่อ (EN): Eri silkworm rearing experiment was undertaken at room temperature in 3 seasons (summer 31.1+2.5 o C, 59.4+8.1% RH; rainy 29.0+1.0 o C, 71.6+7.2% RH; cool 26.6+2.0 o C, 60.5+6.8% RH) using leaves of 9 cassava varieties, compared to castor. These cassava varieties were Rayong 2, 3, 5, 60, 72, CMR 14, 129, 5 Minute and KU 50. It revealed that the life cycles of silkworm fed with all tested host plants were similar in 3 seasons. The life cycle in cool season was longer than in summer – and rainy season. In summer – and rainy season, the shortest life cycle was obtained when fed with castor leaves of 54.67 and 54.33 days, respectively. Cassava Rayong 2 variety caused the longest life cycle of 56 days for both seasons but only in rainy season CMR 14 gave also the longest life cycle as Rayong 2. In cool season, Rayong 2 valued the longest life cycle of eri silkworm (59.34 days) and the Rayong 72 gave the shortest life cycle (57.33 days). On the consideration of yield components, castor was the best in summer. Cassava Rayong 72 was the best among cassava varieties. The average of total cocoon shell weights and total hatching eggs obtained from feeding of Rayong 72 were 9.75 g and 3,659.50 eggs, respectively. In rainy season, castor was a suitable host plant similar to summer. Among cassava varieties, the Rayong 72 and 5 Minute varieties were the most proper to feed in rainy giving average total cocoon shell weights 11.58 g and 11.51 g, and total hatching eggs of 4,429.07 and 3,376.67 eggs, respectively. In cool season, the cassava 5 Minute was the most suitable as host plant, expressed average of survival percentage, total cocoon shell weight and total hatching eggs as 95.56%, 9.38 g and 4,015.51 eggs, respectively. Rayong 2 was the least proper host plant in 3 seasons. The cocoon shells obtained from feeding with different host plants were produced for yarn by hand reeling and spinning using traditional spinning wheel. The result shows that there is no significance in time producing, yarn weight and length (P>0.05).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 12
เอกสารแนบ: https://ag2.kku.ac.th/kaj/PDF.cfm?filename=203-208.pdf&id=198&keeptrack=5
คำสำคัญ: ไหมอีรี่
คำสำคัญ (EN): Rearing
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
พันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงไหมอีรี่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ไม่ระบุผู้เผยแพร่
2550
พระเจ้าร้อยท่า (Heteropanaxfragrans) พืชอาหารชนิดใหม่ เพื่อการเพาะเลี้ยงไหมอีรี่ในประเทศไทย ศักยภาพในการเลี้ยงแพะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พันธุ์แอสเตอร์ที่เหมาะสมในการผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อการค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การสำรวจเพื่อหาดัชนีการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมของมันสำปะหลังที่ปลูกในเขตภาคเหนือตอนล่างโดยการวิเคราะห์ลักษณะทางคุณภาพร่วมกับข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ สภาวะที่เหมาะสมในการเพาะเลี้ยงสาหร่าย Spirulina spp. เพื่ออุตสาหกรรม การปรับปรุงสภาวะที่เหมาะสมต่อการผลิตเอทานอล การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการจัดการธาตุอาหารลำไยอินทรีย์ วิธีการที่เหมาะสมในการผลิตโคนมเพศผู้เป็นโคขุน: I ชนิดของอาหารหยาบและระดับโปรตีนในอาหารข้นที่เหมาะสมในการเลี้ยงโคนมเพศผู้เป็นโคขุนส่งตลาด การศึกษาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการผลิตเมล็ดพันธุ์คะน้า รูปแบบการตลาดที่เหมาะสมในการจำแนกปุ๋ยหมักของชุมชน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก