สืบค้นงานวิจัย
การปรับปรุงศักยภาพการขยายพันธุ์แก่นตะวัน (เยรูซาเล็ม อาร์ติโชค) จากลำต้นใต้ดินเก็บอาหารและการวิเคราะห์โมเลกุลตัวบ่งชี้
สุพร นุชดำรงค์ - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การปรับปรุงศักยภาพการขยายพันธุ์แก่นตะวัน (เยรูซาเล็ม อาร์ติโชค) จากลำต้นใต้ดินเก็บอาหารและการวิเคราะห์โมเลกุลตัวบ่งชี้
ชื่อเรื่อง (EN): Improvement for efficient propagation from Kaentawan (Jerusalem artichoke) tubers and analyses of molecular markers
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุพร นุชดำรงค์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Suporn Nuchadomrong
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ในการวิจัยใช้หัวแก่นตะวันพันธุ์ CN 52867 กำหนดระยะการเจริญของตาข้างที่หัวพันธุ์จากลักษณะสัณฐานวิทยาภายนอกได้เป็น 5 ระยะ แล้วเจริญเป็นยอดในระยะที่ 6 ทดลองกระตุ้นการออกจากภาวะพักตัวของตาด้วย 3 วิธีการ ดังนี้ วิธีที่ 1 การบ่มหัวในบรรยากาศปกติหรือบรรยากาศของ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 5% ในที่ร่มและช่วงแสงธรรมชาติ วิธีที่ 2 การบ่มหัวที่ตัดเป็นชิ้นแช่ผิวน้ำ และวิธีที่ 3 การบ่มหัวที่ตัดเป็นชิ้นแช่ใต้น้ำหรือร่วมกับการกระทบเย็น ตามวิธีที่ 1 ในช่วงขณะบ่มหัวทั้งสองเงื่อนไข สีเนื้อเยื่อพาเรนไคมารอบตาและภายในหัวแก่นตะวันเปลี่ยนเป็นสีเขียว หลังจากบ่ม 72 ชั่วโมง ตาข้างเปลี่ยนจากระยะที่ 1 ไปเป็นระยะอื่นๆ ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่าจะมีความแตกต่างชัดเจนระหว่างการบ่มด้วย 2 เงื่อนไข สรุปไม่ได้ว่าการบ่มในบรรยากาศของก๊าซช่วยกระตุ้นให้ตาออกจากภาวะพักตัวเร็วขึ้น เมื่อศึกษาสัณฐานวิทยาระดับโครงสร้างเนื้อเยื่อของตาในช่วงพัฒนาการ 6, 24, 48 และ 60 ชั่วโมง ทั้งแบบตัดเนื้อเยื่อตามขวางและตามยาว พบว่า มีการเจริญเปลี่ยนแปลงลักษณะคล้ายกันของเนื้อเยื่อบริเวณปลายยอดในตาที่บ่มด้วยสองเงื่อนไข แต่ในกลุ่มทดลองด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เกิดการชักนำให้เกิดการเจริญมาก กว่า สอดคล้องกับผลการงอกที่พบว่าการบ่มหัวพันธุ์ในก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทำให้เกิดการงอกยอดมากกว่า 1 ยอดจาก 1 ตา ด้วยจำนวนมากกว่า ส่วนวิธีที่ 2 ต้องบ่มจนตาพัฒนาถึงอย่างน้อยระยะที่ 4 (ใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน) จึงจะเจริญต่อได้เร็วเมื่อเพาะชำต่อและมีเปอร์เซ็นต์การเกิดเป็นต้นกล้าสมบูรณ์สูง โดยถ้าบ่มถึงตาระยะที่ 6 จะได้ผลดีที่สุด การบ่มกระทบเย็นด้วยวิธีที่ 3 นั้นการกระทบเย็นเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง กระตุ้นให้เกิดการงอกของตาข้างดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งการกระทบเย็น 48 ชั่วโมงยังมีผลให้ส่วนยอดเจริญเติบโตเร็วด้วย จากการใช้ SDS-PAGE พบแถบโปรตีน 18 kDa และ 18.5 kDa สัมพันธ์กับการออกจากภาวะพักตัวของตาข้างหัวแก่นตะวัน โดยปรากฏในตาระยะที่ 1 แล้วลดลงจนหายไปในระยะที่ 2-4แต่มีแนวโน้มกลับมาปรากฏอีกครั้งในระยะที่ 5 เมื่อแยกตัดแถบโปรตีน 18.5 kDa วิเคราะห์ด้วย LC/MS/MS สรุปได้ว่าเป็นโปรตีน lectin HE17 (หรือในชื่อ lectin 2 และ tuber agglutinin) ของหัวแก่นตะวัน
บทคัดย่อ (EN): Tubers of Kaentawan CN 52867 were the target of this research work. We defined five tuber bud stages on the morphological basis before entering the sixth stage or the emergence stage. Three methods were assigned for breaking bud dormancy. Firstly, incubation of Kaentawan tubers was made in ambient atmosphere or 5% CO2 atmosphere, in a shaded area exposing the circadian rhythm of natural light. Secondly, tuber cubes were imbibed in water. Thirdly, the cubes was soaked under water, normal or cold condition. Using the first method, the color of parenchymal tissue around the lateral bud and throughout the tuber turned green under both conditions of incubation. After 72-h aging, the bud outgrew from the first bud stage to other stages, which showed breaking dormancy, though not significantly different between conditions. The results did not indicate the dormancy breaking effect of the carbon dioxide atmosphere. Bud morphology showing tissue development within 6, 24, 48 and 60 h, was revealed similar by cross-section and longitudinal sections of the apical meristem of buds from carbon dioxide treated or untreated experiment. However, more growth zones were observable in the treated group which corresponded to the germination results thereafter with a larger number of buds having more than one shootings/bud. For the second method, the bud required aging to at least the fourth stage (minimally 3-day aging time) or best if the sixth stage to accomplish rapid growth and high percentage of complete seedlings. Appreciable outcome was from the third method of breaking bud dormancy by cold treatment for 24-48 h. The induction effect thereof was clearly shown. Also, higher growth rate of shoots was reported in the 48-h cold treated group. Regarding to SDS-PAGE analysis, two protein bands of 18 kDa and 18.5 kDa were found correlated with the bud dormancy breaking. These proteins existed in the bud stage 1, and declined until not visible in the bud stage 2-4. The proteins trended to reappear in the bud stage 5. Identification of the 18.5-kDa protein band by LC/MS/MS concluded it to be the Kaentawan lectin HaE17 (or in the name of lectin 2 and tuber agglutinin).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://tnrr.nriis.go.th/#/services/research-report/detail/260806
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: โมเลกุลตัวบ่งชี้
คำสำคัญ (EN): molecular markers
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การปรับปรุงศักยภาพการขยายพันธุ์แก่นตะวัน (เยรูซาเล็ม อาร์ติโชค) จากลำต้นใต้ดินเก็บอาหารและการวิเคราะห์โมเลกุลตัวบ่งชี้
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
30 กันยายน 2554
การปรับปรุงศักยภาพการขยายพันธุ์แก่นตะวัน (เยรูซาเล็ม อาร์ติโชค)จากลำต้นใต้ดินเก็บอาหารและการวิเคราะห์โมเลกุลตัวบ่งชี้ อาหารบำรุงสมอง อนาคตของอาหารโลกอยู่ในมือของคุณ การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การศึกษาการเพาะเลี้ยงและการขยายพันธุ์กล้วยไม้หวายแดงจันทบูร ( Renanthera coccinea ) Lour. ระบบอิมัลชันในอาหารและความคงตัว อาหารที่เหมาะสมในการอนุบาลลูกปลาจาด การอนุบาลลูกปลากดแก้วในกระชังด้วยอาหารต่างชนิด น้ำแก่นตะวันผงชงละลายเพื่อสุขภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมปังที่มีอินนูลินสูงโดยใช้แก่นตะวัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก