สืบค้นงานวิจัย
การประยุกต์ใช้ถ่านกัมมันต์จากกากน้ำตาลอ้อยในการกำจัดสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
เอกราชันย์ ไชยชนะ - มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
ชื่อเรื่อง: การประยุกต์ใช้ถ่านกัมมันต์จากกากน้ำตาลอ้อยในการกำจัดสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
ชื่อเรื่อง (EN): The application of activated carbon prepared from sugarcane molasse for VOCs removal
บทคัดย่อ: การศึกษานี้เป็นการประยุกต์ใช้กากน้ำตาล ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมน้ำตาล เพื่อนำมาผลิตเป็นถ่านกัมมันต์สำหรับใช้ในการดูดซับสารอินทรีย์ระเหยง่าย (volatile organic compounds, VOCs) โดยเฉพาะเบนซีนซึ่งมีความเป็นพิษสูง การเตรียมถ่านกัมมันต์เริ่มด้วยการเผากากน้ำตาลภายใต้บรรยากาศไนโตรเจน ใช้อุณหภูมิในการเผา 400 ?C จะได้ถ่านผงละเอียดสีดำมีพื้นที่ผิว 11.80 m2/g จากนั้นนำถ่านที่ได้ไปปรับปรุงสมบัติหรือกระตุ้นโดยใช้สารเคมี ได้แก่ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (KOH)และกรดซัลฟิวริก (H2SO4) และทำการเผาอีกครั้งที่อุณหภูมิ 800 ?C ผลการทดลองพบว่าถ่านที่ผ่านการกระตุ้นมีพื้นที่ผิวสูงขึ้น โดยถ่านที่กระตุ้นด้วย H2SO4 มีพื้นที่ผิวสูงที่สุด (664.22 m2/g) สภาวะที่ดีที่สุดในการเตรียมถ่านกัมมันต์หาโดยการเปลี่ยนแปลงเวลาและอุณหภูมิในการกระตุ้น และความเข้มข้นของสารเคมีที่ใช้ จากการทดลองพบว่าสภาวะที่ดีที่สุดได้แก่ การใช้อัตราส่วนของสารเคมีต่อถ่านเท่ากับ 1:1 เวลาในการทำปฏิกิริยา 24 ชั่วโมง และ อุณหภูมิในการเผา 800 ?C เมื่อนำถ่านกัมมันต์ที่ผ่านการกระตุ้นแล้วไปทำการดูดซับเบนซีน พบว่าถ่านกัมมันต์ที่เตรียมจากกากน้ำตาลในการศึกษานี้มีความสามารถในการดูดซับเบนซีนได้อยู่ระหว่าง 59.13 – 81.66 % และความสามารถในการดูดซับโทลูอีนอยู่ระหว่างอยู่ระหว่าง 52.97 – 90.90 % โดยถ่านกัมมันต์ ML_H2SO4 (กระตุ้นด้วย H2SO4 ในสภาวะที่ดีที่สุด) มีค่าการดูดซับเบนซีนสูงที่สุดเนื่องจากมีพื้นที่ผิวสูงที่สุด และ มีลักษณะความไม่ชอบน้ำมากที่สุดสังเกตจากผลการทดสอบโดยเทคนิค thermal gravimetric analysis (TGA) ที่มีปริมาณน้ำในโครงสร้างน้อยที่สุด นอกจากนี้ผลทดสอบโดยเครื่อง IR ยังพบว่าการกระตุ้นด้วย H2SO4 ช่วยลดปริมาณสารประกอบกลุ่มคาร์บอนิลในถ่านกัมมันต์ลง ซึ่งสารดังกล่าวนี้มีความเป็นขั้วหรือมีลักษณะชอบน้ำสูง การลดลงของสารประกอบกลุ่มคาร์บอนิลจึงทำให้ถ่านกัมมันต์มีความเป็นขั้วต่ำลงหรือมีลักษณะไม่ชอบน้ำสูง จึงมีความเหมาะสมในการดูดซับเบนซีนซึ่งเป็นสารไม่ชอบน้ำได้ดียิ่งขึ้น
บทคัดย่อ (EN): This study is to apply molasses, a residue from sugar industries, for producing of activated carbon used in adsorption of volatile organic compound (VOCs) especially benzene which is highly toxic. The preparation of activated carbons began with carbonizing the molasses under nitrogen atmosphere at 400 ?C to obtain the black powder-like char having the surface area of 11.80 m2/g. The char was then improved or activated with chemicals i.e. sodium hydroxide (NaOH), potassium hydroxide (KOH) and sulfuric acid (H2SO4) and pyrolyzed at 800 ?C. It was found that the activated carbon improved with H2SO4 had the highest surface area (664.22 m2/g). The activation conditions were optimized with respect to the activation times and temperatures, and the chemical concentrations. It was found that the optimized condition was at the ratio of chemical and char equaling to 1:1, the reaction time of 24 hrs and the activation temperature of 800 ?C. The obtained activated carbons were then determined for the adsorption capacity of benzene. The results showed that the activated carbons in this study had the benzene adsorption capacities ranging from 59.13 to 81.66 % and the benzene adsorption capacities ranging from 52.97 – 90.90 %. Sample ML_H2SO4 (activated by H2SO4 at optimized condition) exhibited the highest benzene adsorption capacity due to having the highest surface area and the highest hydrophobicity observed from a thermal gravimetric analysis (TGA) that contained the lowest amount of adsorbed water. In addition, from the result of infrared spectroscopy (IR), it was found that the activation with H2SO4 could reduce the amount of carbonyl compounds, which is a non-polar or hydrophobic compound, in the activated carbon. The reduction of the carbonyl compounds decreased polarity and hydrophilicity of the activated carbons, and thus being suitable for the benzene (hydrophobic chemical) adsorption.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
คำสำคัญ: กากน้ำตาล
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

เอกราชันย์ ไชยชนะ. "การประยุกต์ใช้ถ่านกัมมันต์จากกากน้ำตาลอ้อยในการกำจัดสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)The application of activated carbon prepared from sugarcane molasse for VOCs removal". มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. 2558

เอกราชันย์ ไชยชนะ. "การประยุกต์ใช้ถ่านกัมมันต์จากกากน้ำตาลอ้อยในการกำจัดสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)The application of activated carbon prepared from sugarcane molasse for VOCs removal". มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. 2558. Print.



TARR Wordcloud:
การประยุกต์ใช้ถ่านกัมมันต์จากกากน้ำตาลอ้อยในการกำจัดสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
เอกราชันย์ ไชยชนะ
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
30 กันยายน 2558
คุณสมบัติการดูดซับสารอินทรีย์ระเหยง่ายด้วยถ่านกัมมันต์ที่ผลิตจากขี้เลื่อยไม้ยางพารา เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การกำจัดสารอินทรีย์ระเหยง่ายจากอากาศเสียโดยใช้ถ่านกัมมันต์ ที่ผลิตจากขี้เลื่อยไม้ยางพาราในหอดูดซับแบบเบดนิ่ง การผลิตถ่านกัมมันต์จากเหง้ามันสัมปะหลัง การใช้ผงคาร์บอนและถ่านกัมมันต์จากกากน้ำตาลเป็นสารตัวเติมในยางธรรมชาติ การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การพัฒนาถ่านกัมมันต์จากชานอ้อยเพื่อดูดซับโลหะหนัก การเพาะไรแดงโดยใช้กากน้ำตาล นํ้าตาลและบทบาทสำคัญของสารให้ความหวาน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair