สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ระบบตลาดและการจัดตั้งเครือข่ายการตลาดของเกษตรกรรายย่อยปลูกยางพาราในภาคเหนือตอนบน
บังอร เมฆะ - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ระบบตลาดและการจัดตั้งเครือข่ายการตลาดของเกษตรกรรายย่อยปลูกยางพาราในภาคเหนือตอนบน
ชื่อเรื่อง (EN): The Efficiency Development of Smallholder Rubber Farms in Northern, Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: บังอร เมฆะ
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการวิเคราะห์ระบบตลาดและการจัดตั้งเครือข่ายการตลาดของเกษตรกรรายย่อยปลูกยางพาราในภาคเหนือตอนบน กลุ่มตัวอย่างเป็นเกษตรกรรายย่อยปลูกยางพาราทั้งสิ้นจำนวน 120 ราย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูนและแม่ฮ่องสอนที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานกองทุนสงเคราะห์สวนยางจังหวัดเชียงใหม่ ผลการศึกษา พบว่า การผลิตยางก้อนถ้วยของเกษตรกรมีต้นทุนเฉลี่ยกิโลกรัมละ 32.10 บาท และขายผลผลิตได้กิโลกรัมละ 37.47 บาท กำไรสุทธิเท่ากับ 5.37 บาท ส่วนการผลิตยางแผ่นดิบมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.30 บาท และขายผลผลิตได้ในราคากิโลกรัมละ 53.83 บาท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 17.53 บาท เกษตรกรร้อยละ 80 ขายผลผลิตในรูปแบบยางก้อนถ้วย ส่วนที่เหลือร้อยละ 20 ขายเป็นยางแผ่นดิบ โดยยางก้อนถ้วยเกษตรกรให้กับพ่อค้าเร่ (ร้อยละ 15) และเกษตรกรรวมกลุ่มขายนัดหมายให้พ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อ (ร้อยละ 65) ส่วนยางแผ่นดิบเป็นการรวมกลุ่มขายด้วยระบบการประมูลของพ่อค้าคนกลางในท้องถิ่นแข่งขันกันเสนอราคาผู้ที่ให้ราคาสูงสุดเป็นผู้ชนะการประมูล ผลผลิตทั้งหมดพ่อค้าผู้รวบรวมส่งขายตลาดกลางจังหวัดระยอง พ่อค้าเร่มีส่วนเหลื่อมการตลาดกิโลกรัมละ 7.49 บาท เป็นทุนการตลาดและกำไรเท่ากับ 2.75 และ 4.74 บาท พ่อค้าท้องถิ่นรับซื้อยางก้อนจากเกษตรกรรวมกลุ่มขายมีส่วนเหลื่อมการตลาดเท่ากับกิโลกรัมละ 2.75 บาท เป็นต้นทุนการตลาดและกำไรของพ่อค้ากิโลกรัมละ 2 และ 0.75 บาท พ่อค้ารับซื้อยางแผ่นดิบมีส่วนเหลื่อมการตลาดกิโลกรัมละ 2.13 บาท ค่าใช้จ่ายทางการตลาดและไรของพ่อค้าเท่ากับ 1.50 และ 0.63 บาท ในปี 2556 พื้นที่ศึกษาจะมีผลผลิตยางพาราทั้งยางก้อนถ้วยและยางแผ่นดิบทั้งสิ้น 869.83 ตัน มีมูลค่าส่วนเหลื่อมเท่ากับ 2,990,938.90 บาท ซึ่งเป็นต้นทุนรวมทางการตลาดและกำไรของพ่อค้าเท่ากับ 1,788,032.50 และ 1,202,906.40 บาท ตามลำดับ ผลการศึกษาดังกล่าวข้างต้นนำเสนอต่อตัวแทนเกษตรกรและระดมความคิดเห็นเพื่อจัดตั้งเครือข่ายการตลาด ในการศึกษานี้ดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายใน 2 ขั้นตอนแรก คือ ระยะเตรียมการ/ก่อเกิด และระยะก่อตั้ง ส่วนระยะที่เหลือไม่ได้ดำเนินการในการศึกษานี้ โดยเครือข่ายสามารถจัดตั้งขึ้นได้เป็นเครือข่ายการตลาดแบบหลวมๆ สามารถสื่อสารได้ทั้งในระดับแนวราบและแนวตั้ง คือ ในระดับแนวราบเกษตรกรภายในกลุ่มสามารถแจ้งข่าวสารการตลาดได้แบบปากต่อปาก หรือใช้โทรศัพท์มือถือ ส่วนการสื่อสารในระดับแนวตั้งเป็นการสื่อสารระหว่างสมาชิกกลุ่มหรือหัวหน้ากลุ่มในระดับชุมชน สามารถสื่อสารการตลาดได้โดยตรงกับหัวหน้ากลุ่มระดับตำบล หรือระดับอำเภอ โดยกลุ่มคนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่รู้จักคุ้นเคยกันเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้สมาชิกในเครือข่ายแต่ละระดับสามารถสื่อสารการตลาดได้โดยตรงกับสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดเชียงใหม่ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและพัฒนายางพารา ขณะเดียวกันหน่วยงานเหล่านี้ยังสามารถสื่อสารระหว่างกันเพื่อพัฒนาการผลิตและตลาดยางพาราร่วมกัน คำสำคัญ: ระบบตลาดยางพารา ส่วนเหลื่อมการตลาด เกษตรกรรายย่อย และเครือข่าย Abstract
บทคัดย่อ (EN): The main objective of this study were an analysis marketing system and network markets of smallholder rubber farms in northern, Thailand. The data was collected covering 120 households in Chinag Mai, Lomphun, Lumphang and Mae Hong Son provinces. The farms were membership Office of the Rubber Replanting Aid Fund Ching Mai province. The result found that an average cost cup lump of rubber and price for sale of 32.10 and 37.47 baht per kilogram. The farmer was benefited from cup lump of rubber as 5.37 baht per kilogram. For the unsmoked rubber sheet had an average cost and price for sale of 36.30 and 53.83 baht per kilogram. They were benefited in the unsmoked rubber sheet as baht per kilogram. The smallholder rubber farms were a 80 percent sale in form cup lump of rubber and unsmoked rubber sheet of 20 percent. The cup lump of rubber, the farmer sale to travelers’ merchant at the village level of 15 percent and the farmer group was engaged with the middleman come to purchasing in the group or village of 65 percent. For the unsmoked rubber sheet, the farmer group was auction by the middleman which was given high price as the winner. The local assembler /district assembler or wholesaler was collected total yield of rubber yield and there were sale central market in Rayong province. The cup lump of rubber, the travelers’ merchant was marketing margin of 7.49 baht. This was cost of marketing and benefit of 2.75 and 4.74 baht respective. Meanwhile, the middleman was marketing margin of 2.75 baht which was cost of marketing and benefit of 2 and 0.75 baht. For the unsmoked rubber sheet was marketing margin of 2.13 baht, the middleman was marketing cost and benefit of 1.50 and 0.63 baht. The results that mention above were presented to leader of sample groups for brainstorming in establishing the marketing network of the smallholder rubber farm. In this study establishing in two first stapes of preparation period and established. For the other period was not appeared in this study. The marketing network that established had loose which communicated both vertical and horizontal. In the horizontal, the farmers would be communicated marking report between the membership by months and telephone for report news. For the vertical would be communicated between the member and the leadership of groups, village level, sub districts or districts and al so all of this level could be communicated directory to the Office of the Rubber Replanting Aid Fund Ching Mai province, education institute and all the office in Ministry of Agriculture and Cooperatives with relevant to the rubber farm. However, this offices could be communicated each other for development rubber production and marketing together.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://webpac.library.mju.ac.th:8080/mm/fulltext/research/2559/nakarate_rungkawat_2558_2/fulltext.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: เครือข่าย
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

บังอร เมฆะ. "การวิเคราะห์ระบบตลาดและการจัดตั้งเครือข่ายการตลาดของเกษตรกรรายย่อยปลูกยางพาราในภาคเหนือตอนบนThe Efficiency Development of Smallholder Rubber Farms in Northern, Thailand". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2557

บังอร เมฆะ. "การวิเคราะห์ระบบตลาดและการจัดตั้งเครือข่ายการตลาดของเกษตรกรรายย่อยปลูกยางพาราในภาคเหนือตอนบนThe Efficiency Development of Smallholder Rubber Farms in Northern, Thailand". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2557. Print.



TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ระบบตลาดและการจัดตั้งเครือข่ายการตลาดของเกษตรกรรายย่อยปลูกยางพาราในภาคเหนือตอนบน
บังอร เมฆะ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2557
การวิเคราะห์ระบบตลาดและการจัดตั้งเครือข่ายการตลาดของเกษตรกรรายย่อยปลูกยางพาราในภาคเหนือตอนบน แนวทางการพัฒนาการสื่อสารทางการตลาดของเกษตรกรรายย่อยปลูกยางพาราในภาคเหนือตอนบน การวิเคราะห์ระบบตลาดผักที่ผ่านมาตรฐานการรับรองตามระบบปฏิบัติการเกษตรที่ดี (GAP) สู่เกษตรอินทรีย์ในภาคเหนือตอนบน การศึกษาระบบการผลิตและความยั่งยืนของเกษตรอินทรีย์ในเขตภาคเหนือตอนบน การวิเคราะห์ประสิทธิภาพและปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพของสหกรณ์การเกษตรในภาคเหนือตอนบน : รายงานผลการวิจัย ระบบตลาดสินค้าเกษตรจังหวัดเพชรบุรี ศึกษากรณี ต้นทุนการผลิตและอัตราผลตอบแทนตลาดกล้วยหอมทองอำเภอบ้านลาด กระบวนการผลิตพืชพลังงานทดแทนต้นมะเยาหินในระบบเศรษฐกิจวัฒนธรรมชุมชน พื้นที่ภาคเหนือตอนบน การสกัดและวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมีของน้ำมันจากเมล็ดพืชบางชนิด ในภาคเหนือตอนล่าง การวิเคราะห์ที่ตั้งอุตสาหกรรมยางพาราในภาคตะวันออกของประเทศไทย การควบคุมไมยราบยักษ์ Mimosa pigra L. โดยชีววิธีในภาคเหนือตอนบน ของประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair