สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง โครงการย่อยที่ 1 การศึกษาโอกาสทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชน ของสินค้าเกษตรในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง
กมลทิพย์ เรารัตน์ - สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง โครงการย่อยที่ 1 การศึกษาโอกาสทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชน ของสินค้าเกษตรในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง
ชื่อเรื่อง (EN): Sub Project 1 Marketing opportunities of agricultural products for inside and outside communities a case study at the extension area of the Mae Salong Royal Project.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กมลทิพย์ เรารัตน์
บทคัดย่อ: การศึกษาโอกาสทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชนของสินค้าเกษตรในพื้นที่ ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง (Sub Project 1 Marketing opportunities of agricultural products for inside and outside communities a case study at the extension area of the Mae Salong Royal Project) ภายใต้ชุดโครงการการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการสินค้าเกษตรของชุมชนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง พร้อมกับศึกษาโอกาสทางการตลาดของสินค้าเกษตรทั้งภายในและภายนอกชุมชนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและสนับสนุนด้วยการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ในพื้นที่เป้าหมาย 11 หมู่บ้านของตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย และตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย อาศัยการสอบถามและการ Focus group กับกลุ่มตัวอย่าง 4 กลุ่ม ได้แก่ เกษตรกรผู้ผลิต พ่อค้าคนกลาง ผู้บริโภค และร้านค้า/ผู้ประกอบการทั้งในและนอกชุมชน จากนั้นนำมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติอย่างง่าย คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์เชิงคุณภาพ โดยใช้แนวคิดการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและทฤษฎีส่วนประสมการตลาดของ Kotler (1997) การวิเคราะห์โอกาส (SWOT Analysis) และการวิเคราะห์ศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ โดยใช้ Diamond’s Model ของ Michael E. Porter (1990) เพื่อแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชนของสินค้าเกษตรในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง ผลการวิจัยพบว่า สินค้าเกษตรที่ควรศึกษามี จำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มพืชผัก 2) กลุ่มไม้ผลและไม้ยืนต้น 3) กลุ่มกาแฟและเครื่องดื่ม 4) กลุ่มข้าวและพืชไร่ และ 5) กลุ่มสัตว์ พบว่าในปี พ.ศ. 2557 ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าเกษตรในปริมาณมาก บ่งบอกถึงศักยภาพ ในการทำการตลาดในแต่ละกลุ่มสินค้าเหล่านี้ คือ 1) กลุ่มพืชผัก ได้แก่ มะเขือเทศท้อ(9,232 กิโลกรัม) พริกขี้หนู (8,117 กิโลกรัม) กะหล่ำปลี (7,749 กิโลกรัม) ผักกาดขาวปลี (6,357 กิโลกรัม) เบบี้ฮ่องเต้ (6,169 กิโลกรัม) และยอดมะระหวาน (5,241 กิโลกรัม) 2) กลุ่มไม้ผลและไม้ยืนต้น ได้แก่ พลัม/เชอรี่ (90,058 กิโลกรัม) พลับ (5,038 กิโลกรัม) สตรอเบอรี่ (150 กิโลกรัม) และเสาวรสหวาน (17 กิโลกรัม) 3) กลุ่มกาแฟและเครื่องดื่ม ได้แก่ กาแฟอราบิก้า (กะลา) (21,060 กิโลกรัม) 4) กลุ่มข้าวและพืชไร่ ได้แก่ ข้าวไร่ (31,635 กิโลกรัม) และขิง (3,180 กิโลกรัม) และ 5) กลุ่มสัตว์ ได้แก่ ไก่ดำ (5,467.5 กิโลกรัม) และหมูดำ (182,000 กิโลกรัม) ทั้งนี้ตลาดของสินค้าเกษตรที่ผลิตภายนอกชุมชนที่จำหน่ายหลักในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลองที่เป็นคู่แข่ง ได้แก่ ตลาดเทอดไท ตลาดป่าซาง ตลาดแม่สาย ตลาดแม่จัน และตลาดบ้านเด่น ส่วนตลาดนอกชุมชนที่สามารถผลิตร่วมกันกับเกษตรกรในพื้นที่ คือ ตลาดโครงการหลวง ได้แก่ เบบี้คอส ฟิลเลย์ และเบบี้ฮ่องเต้นอกจากนี้ยังมีตลาดข้าว ทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวดอยในอำเภอฝางและอำเภอแม่อาย ผลการศึกษาศักยภาพการผลิตของสินค้าเกษตร พบว่า สินค้าเกษตรทั้ง 5 กลุ่ม มีศักยภาพที่แตกต่างกัน โดยพบว่าในปี พ.ศ. 2557 กลุ่มพืชผักที่มีศักยภาพในการผลิตสูงสุดคือ เบบี้คอส รองลงมาคือ เบบี้ฮ่องเต้ ฟิลเลย์ ผักเลิน มะเขือเทศเนื้อ คะน้า ยอดมะระหวาน มะเขือเทศท้อ ส่วนพริกขี้หนู กะหล่ำปลีและผักกาดขาวปลี ทำการผลิตเพียงเล็กน้อย กลุ่มไม้ผลและไม้ยืนต้นมีศักยภาพการผลิตสูงสุด คือ พลัม/เชอรี่ พลับ ลิ้นจี่ สตรอเบอรี่ ท้อ ส่วนเสาวรสหวานผลิตได้เพียงเล็กน้อย กลุ่มกาแฟและเครื่องดื่มที่มีศักยภาพ ในการผลิตสูงสุดคือ กาแฟอราบิก้า กลุ่มข้าวและพืชไร่มีศักยภาพการผลิตสูงสุดคือ ข้าวไร่และขิง ส่วนกลุ่มสัตว์มีศักยภาพการผลิตสูงสุดคือ หมูดำและไก่ดำ ผลการศึกษาโอกาสทางการตลาดของสินค้าเกษตรทั้งภายในและภายนอกชุมชนพบว่า สินค้าเกษตรทั้ง 5 กลุ่ม มีช่องทางการตลาด 8 ช่องทาง ได้แก่ 1) ผู้บริโภคในชุมชน 2) ผู้บริโภคนอกชุมชน 3) พ่อค้าคนกลาง 4) ร้านค้าในชุมชน 5) ร้านอาหาร/โรงแรมในชุมชน 6) ร้านค้านอกชุมชน 7) รถเร่ และ 8) โครงการหลวง โดยสินค้าเกษตรในแต่ละกลุ่มมีช่องทางการตลาดที่แตกต่างกันตามกลุ่มผู้บริโภค เพื่อกำหนดแนวทางในการสร้างโอกาสทางการตลาด และช่องทางการจัดจำหน่ายของสินค้าเกษตรในพื้นที่โครงการขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง ดังนี้ 1) กลุ่มพืชผัก พบว่า มะเขือเทศท้อ เบบี้ฮ่องเต้ กะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลีและยอดมะระหวาน มีโอกาสทางการตลาดสูงในการจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการโรงแรมและร้านอาหาร ทั้งในและนอกชุมชน เพื่อทดแทนการนำเข้าจากนอกชุมชนสูงถึง 80%, 79%, 76%, 60% ตามลำดับ ส่วนพริกขี้หนู มีโอกาสในการตลาดที่สูงมากในการผลิตในชุมชนและเกือบทั้งหมดนำเข้าจากนอกชุมชน 2) กลุ่มผลไม้และไม้ยืนต้น พบว่า พลัม/เชอรี่ มีโอกาสทางการตลาดในการจำหน่ายให้กับพ่อค้าคนกลางทั้งในและนอกชุมชนได้มาก เพราะกำลังการผลิตในปัจจุบันพบได้เพียง 6% ของผลผลิตของชุมชน ส่วนสตรอเบอรี่มีโอกาสทางการตลาดที่สูงในการจำหน่ายให้กับ ผู้บริโภคในชุมชน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ส่วนพลับสามารถทำการตลาดผ่านพ่อค้าคนกลางได้สูงสุดถึง 99% 3) กลุ่มกาแฟและเครื่องดื่ม พบว่ากาแฟอราบิก้ามีศักยภาพสูงสุดในการจำหน่ายให้กับพ่อค้าคนกลางทั้งในและนอกชุมชนสูงถึง 50 % 4) กลุ่มข้าวและพืชไร่ พบว่า ข้าวไร่มีศักยภาพสูงสุดในการจำหน่ายให้กับผู้บริโภคนอกชุมชนสูงถึง 90 % ส่วนข้าวหอมมะลิควรสร้างโอกาสให้กับสินค้าที่ผลิตร่วมกับตลาดในอำเภอฝางและอำเภอแม่อาย ส่วนขิงสามารถทำการผลิตให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรมได้สูงสุด 50 % สามารถทดแทนขิงจากนอกชุมชนได้อีกเท่าตัว และ 5) กลุ่มสัตว์ พบว่า ไก่ดำมีศักยภาพสูงสุดในการจำหน่ายให้กับพ่อค้าคนกลาง สูงถึง 90 % และสามารถทดแทนไก่จากนอกชุมชนได้อีกเท่าตัว
บทคัดย่อ (EN): This research aims to study the needs and wants of the agricultural products of communities at the extension area of the Mae Salong Royal Project and also study the marketing opportunity of these products both inside and outside communities. It is the qualitative research and supported by the quantitative research. The 11 target areas of study consisted of Tumbon Maesalong and Tumbon Pathueng , Maejan district, Chiang Rai province. Interviewing and focus group with 4 sample groups such as agriculturists, middlemen, consumers and entrepreneurs both inside and outside communities are used in this study. Descriptive analysis such as mean, percentage and standard deviation as well as qualitative analysis were used to analyze the data. Concerning the concept of study, analysis consumer behavior and marketing mix of Kotler (1997), SWOT analysis and diamond’s model of Michael E.Porter (1991) were also used in this study. The result showed that there are 5 groups of agricultural products for study; 1) vegetables; 2) fruits and perennial plant; 3) coffee and beverage; 4) rice and field crop and 5) livestock. Consumers’ wants for agricultural products were highly increase in 2014. It indicated the potentiality of marketing for each product such as 1) vegetable is tomato (9,232 kg); chili (8,117); cabbage (7,749 kg); Chinese cabbage (6,357 kg); baby hongte (6,169 kg); sweet chayote (5,241 kg) 2) fruits and perennial plants consisted of plum / cherry (90,058 kg) peach (5,038 kg) ; strawberry (150 kg) and passion fruit (17 kg) 3) coffee and beverage such as Arabica (21,060 kg) 4) rice and field crop such hill tribe rice, ginger (3,180 kg) and 5)livestock such as black chicken (5,467.5 kg) and black pig (182,000 kg). The competitors of the extension areas of Maesalong Royal Project were Thaladthai, Pasang, Maesai, Maejan and Banden markets. The markets outside the community that can produce together with agriculturists consisted of baby corn, filley and baby hongte including jasmine rice and hill tribe rice at Fang and Maeaye districts. The study also found that all of these 5 groups of agricultural products have a different potentiality in producing. Baby corn has the highest potentiality in producing. Baby hongte, filley, potatoes, Chinese brococoli, chayote and tomato peach have the second potentiality in producing. Chili, cabbage and Chinese cabbage have a little in producing. Plum/cherry/peach/lynchee, strawberry, peach have the highest in producing. Passion fruit however could be a little bit of producing, Arabica, rice and filed crop which have the highest potentiality for producing are hill tribe rice and ginger. Black pig, black chicken, deep bed pig have the highest potentiality in producing. There are 8 channels for marketing opportunity both inside and outside communities; 1) consumer in community; 2) consumer outside community; 3) middlemen; 4) store in community; 5)food store/hotels in the communities; 6) store outside communities ; 7) peddle cars and Royal project. Each group of these products have a different of channel of distribution; 1) group of vegetable; tomatoes, peaches, baby hongte, cabbage and Chinese cabbage as well as chayote have the high potentiality of marketing in selling for hotels and food stores to substitute for importing of tomato peach from outside communities 80%, 79%, 76%, 60% respectively. Chili have the highest potentiality to produce in the communities but most of them were imported from outside communities. 2) orchard group and perennial plants; plum/cherry have the marketing opportunity for selling to the middlemen. The capacity of producing is 6% of the productivity of communities. Strawberry have the high marketing opportunity to sell for tourists. Persimmon could be sold to middlemen for 99% 3) 50% of arabica could be sold to middlemen both inside and outside communities. 4) rice and field crop, hill tribe rice the 90% highest of potentiality to sell for consumers outside the community. Jusmin rice can create the marketing opportunity for markets in Fang and Maeaye districts. Ginger could be produced for entrepreneurs of hotels and villas 50% and could be added for one time substituted for ginger outside communities and 5) black chicken have the 90% of potentiality in sailing for the middlemen and could be added by one time of substitute for chicken outside community
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: แม่สลอง
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

กมลทิพย์ เรารัตน์. "โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง โครงการย่อยที่ 1 การศึกษาโอกาสทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชน ของสินค้าเกษตรในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลองSub Project 1 Marketing opportunities of agricultural products for inside and outside communities a case study at the extension area of the Mae Salong Royal Project.". สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน). 2558

กมลทิพย์ เรารัตน์. "โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง โครงการย่อยที่ 1 การศึกษาโอกาสทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชน ของสินค้าเกษตรในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลองSub Project 1 Marketing opportunities of agricultural products for inside and outside communities a case study at the extension area of the Mae Salong Royal Project.". สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน). 2558. Print.



TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง โครงการย่อยที่ 1 การศึกษาโอกาสทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชน ของสินค้าเกษตรในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง
กมลทิพย์ เรารัตน์
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
30 กันยายน 2558
โครงการศึกษาโอกาสทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชนของสินค้าเกษตรในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง โครงการวิจัยการศึกษาเศรษฐกิจการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรโครงการหลวง การผลิตอาหารสัตว์จากขยะอินทรีย์ของชุมชน การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์เปรี้ยวแดง (Begonia alicida C. B. Clarke) อย่างยั่งยืน โครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการพัฒนาชุมชนต้นแบบโครงการหลวงเพื่อให้คนอยู่อาศัยร่วมกับป่าไม้และสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน การส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตข้าว เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โครงการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพผลผลิตไม้ผลในพื้นที่โครงการหลวงและพื้นที่ขยายผลโครงการหลวง โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง โครงการ พัฒนาเยาวชนบนพื้นที่สูง การพัฒนากระบวนการผลิตและการตลาดผลิตภัณฑ์แปรรูปน้ำพริกแกง ชุมชนบ้านทอน – อม อำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair