สืบค้นงานวิจัย
การกรีดร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางบางระยะ
พิชิต สพโชค - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: การกรีดร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางบางระยะ
ชื่อเรื่อง (EN): Periodic Tapping and Stimulation
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิชิต สพโชค
บทคัดย่อ: ศึกษาการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางในบางระยะร่วมกับการกรีดระบบ ½S d/2 เพื่อเพิ่มผลผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง ดำเนินการทดลองสถานีทดลองยางคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ กับต้นยางพันธุ์ GT 1 อายุ 19 ปี จำนวน 30 ต้นต่อplot วางแผนการทดลองแบบ RCB ทาสารเคมีเร่งน้ำยาง 10, 8, 6, 4, 3, 2 ครั้ง และไม่ใช้ ผลจากการทดลองตั้งแต่ มกราคม 2540 – ธันวาคม 2543 พบว่า ระบบกรีด ½S d/2 ใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 8 ครั้งต่อปี ให้ผลผลิตสะสมและผลผลิตเฉลี่ยสูงคือ 21.84 กิโลกรัมต่อต้นและ 40.52 กรัมต่อต้นต่อครั้งกรีด มากกว่า control 53 เปอร์เซ็นต์ โดยการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 4 – 10 ครั้งให้ผลผลิตไม่แตกต่างกันทางสถิติ แต่มีความแตกต่างทางสถิติมากกว่าการไม่ใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง การใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 10 ครั้งต่อปี มีแนวโน้มการเพิ่มของผลผลิตลดลง ส่วนการศึกษาการกรีดเป็นช่วงระยะเวลา (periodic tapping) โดยกรีดระบบ ½S d/2 กรีด 3 เดือนหยุด 1 เดือน และกรีด 9 เดือนหยุด 3 เดือน ร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางความเข้มข้น 2.5 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางและแรงงานกรีด โดยลดจำนวนวันกรีดลงแต่ไม่ลดผลผลิตรวม ดำเนินการทดลองที่สถานีทดลองยางคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ กับต้นยาง พันธุ์ GT 1 จำนวน 30 ต้นต่อplot วางแผนการทดลองแบบ RCB จำนวน 4 ซ้ำ วิธีการทดลอง 9 วิธีการ ซึ่งมีการกรีดร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง โดยแต่ละวิธี การหยุดกรีดเดือนที่แตกต่างกันรวม 3 เดือนต่อปี เทียบกับการกรีดตลอดโดยไม่ใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง จากผลการทดลองตั้งแต่ เดือนมกราคม 2540 – ธันวาคม 2543 พบว่าการกรีดร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง โดยหยุดกรีดเดือน กุมภาพันธ์ มิถุนายน และตุลาคม มีจำนวนครั้งกรีด 416 ครั้ง น้อยกว่าการกรีดตลอดโดยไม่ใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง (control) 120 ครั้ง ให้ผลผลิตสะสมสูงคือ 20.60 กิโลกรัมต่อต้น มากกว่า control 25 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผลผลิตเฉลี่ย พบว่าการกรีดร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง โดยหยุดกรีดเดือนมกราคม – มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงผลัดใบ ให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงคือ 51.65 กรัมต่อต้นต่อครั้งกรีด มากกว่า control 68 เปอร์เซ็นต์ ผลผลิตสะสม 19.06 กิโลกรัมต่อต้นมากกว่า control 16 เปอร์เซ็นต์ วันกรีดน้อยกว่าการกรีดตลอด 167 ครั้ง เมื่อจัดกลุ่มการกรีด 3 เดือนหยุด 1 เดือน และ การกรีด 9 เดือนหยุด 3 เดือน พบว่าเฉลี่ยผลผลิตแต่ละกลุ่มใกล้เคียงกันมาก โดยผลผลิตเฉลี่ยแต่ละครั้งกรีดมากกว่า control 59 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากนำระบบนี้มาจัดการกรีดในสวนยางขนาดใหญ่จะลดแรงงานลง 25 เปอร์เซ็นต์ และลดความสิ้นเปลืองเปลือกลง 25 เปอร์เซ็นต์ การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางต่อเนื่องในระยะยางทำให้ต้นยางทรุดโทรม ผลผลิตลดลง จึงมีการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางในรอบปีให้น้อยครั้งลง และพิจารณาร่วมกับการพักกรีดเพื่อให้ต้นยางมีโอกาสพักตัว
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.nattakae.20fr.com/3_2P_11.html
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: เพิ่มผลผลิตยาง
คำสำคัญ (EN): Rubber
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การกรีดร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางบางระยะ
พิชิต สพโชค
การยางแห่งประเทศไทย
2542
การเพิ่มผลผลิตยางพาราและการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การใช้ระบบกรีดร่วมกับสารเคมีเร่งน้ำยาง เพื่อเพิ่มผลผลิตยางพันธุ์ GT 1 ในระยะเริ่มเปิดกรีด การใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับสารเคมีเร่งน้ำยางเพื่อเพิ่มผลผลิตยางพันธุ์ RRIM 600 ในระยะกรีด เปลือกงอกใหม่ ที่ปลูกในชุดดินพังงา การเพิ่มผลผลิตยางหลังการผลัดใบโดยการหยุดพักกรีดและใช้สารเคมีเร่งน้ำยางเมื่อเปิดกรีด การใช้ตัวเจือจางสารเคมีเร่งน้ำยางที่เหมาะสมในท้องถิ่น เปรียบเทียบคุณสมบัติของไม้ยางพาราที่ได้จากการกรีด และวิธีเจาะร่วมกับการใช้แก๊สเร่งน้ำยาง การวิจัยการใช้สารเคมีที่เหมาะสมในการผลิตยาง การใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับสารเคมีเร่งน้ำยาง เพื่อเพิ่มผลผลิตยางพันธุ์ GT 1 หน้ากรีดแรกที่ปลูกในชุดดินสัตหีบ เปรียบเทียบผลผลิตของยางพาราในการกรีดยางหน้าสูงด้วยวิธีการกรีดขึ้นกับ วิธีการกรีดลงโดยใช้มีดเจบง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก