สืบค้นงานวิจัย
ทดสอบสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์กรมพัฒนาที่ดินเพิ่มศักยภาพการผลิตของดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก(ข้าว หอมแดง และพริก) ในพื้นที่โครงการเมืองเกษตรสีเขียวจังหวัดศรีสะเกษ
กัญญาพร สังข์แก้ว - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ทดสอบสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์กรมพัฒนาที่ดินเพิ่มศักยภาพการผลิตของดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก(ข้าว หอมแดง และพริก) ในพื้นที่โครงการเมืองเกษตรสีเขียวจังหวัดศรีสะเกษ
ชื่อเรื่อง (EN): Demonstration Plot of Land Development Department Product forIncreasing Efficiency The Main Crops (Rice Shallot and Chilli) in Green Agriculture City Project Si-Sa-Ketprovince.
บทคัดย่อ: การศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์กรมพัฒนาที่ดินเพิ่มศักยภาพการผลิตของดินเพื่อปลูกข้าวหอมมะลิ 105 หอมแดง และพริก ดำเนินการในพื้นที่โครงการเมืองเกษตรสีเขียวจังหวัดศรีสะเกษ ระหว่างเดือน ตุลาคม 2557 ถึงเดือนธันวาคม 2559 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพและสาธิตการใช้เทคโนโลยีกรมพัฒนาที่ดินชนิดต่าง ๆ เช่น ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.12 ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชเศรษฐกิจหลักในพื้นที่โครงการเมืองเกษตรสีเขียว ได้แก่ ข้าว หอมแดง และพริก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบประสิทธิภาพและสาธิตการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.12 ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชเศรษฐกิจหลักในพื้นที่โครงการเมืองเกษตรสีเขียว และเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน ตลอดจนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจภายหลังการใช้เทคโนโลยีกรมพัฒนาที่ดิน วางแผนการทดลองแบบ randomized complete block design (RCBD) จำนวน 4 ซ้ำ 4 วิธีการ ประกอบด้วย 1) วิธีเกษตรกร(ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-81 อัตรา 50 กก./ไร่ 2)ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลงของกรมพัฒนาที่ดิน 3) ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงอัตรา 100 กก./ไร่ และ 4) ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 อัตรา 200 กก.ไร่+ปุ๋ยเคมีอัตรา 1/2 ตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลงของกรมพัฒนาที่ดิน ผลการศึกษาพบว่า สมบัติทางเคมีของดินก่อนการทดลองพบว่า ดินเป็นกรดจัด ปริมาณอินทรียวัตถุต่ำ และปริมาณธาตุอาหารพืชอยู่ในระดับต่ำ -ปานกลาง ส่วนความเค็มของดินอยู่ในระดับปกติ โดยในแปลงวิจัยข้าว มีค่า pH ระหว่าง4.3- 4.8 อินทรียวัตถุมีค่าระหว่าง 0.45-0.61% ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์มีค่าระหว่าง 3.75-17.66 mg/kg โพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ในแปลงวิจัยข้าวมีค่าระหว่าง12.5- 52.3 mg/kg แต่ในแปลงวิจัยหอมแดง และพริกมีค่าระหว่าง61.0- 91.0 mg/kg ส่วนหลังการทดลองทั้งในแปลงวิจัยข้าว หอมแดง และพริก พบว่าในตำรับที่มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง และปุ๋ยหมัก พด.12 สมบัติของดินมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่า pH และอินทรียวัตถุในดิน โดยในแปลงวิจัยหอมแดง มีค่าเพิ่มขึ้นจาก 4.8 เป็นระหว่าง 5.4- 5.5 แปลงวิจัยพริก pHมีค่าเพิ่มขึ้นจาก 5.2 เป็นระหว่าง 5.4- 5.5 แปลงวิจัยข้าว pHมีค่าเพิ่มขึ้นจากระหว่าง 4.3-4.8 เป็นระหว่าง 5.0- 5.3 และอินทรียวัตถุในดิน แปลงวิจัยหอมแดง มีค่าเพิ่มขึ้นจาก 0.50% เป็นระหว่าง 0.51- 0.52% แปลงวิจัยพริก OM มีค่าเพิ่มขึ้นจาก 0.52% เป็น 0.55% แปลงวิจัยข้าว OM มีค่าเพิ่มขึ้นจากระหว่าง 0.45-0.61% เป็นระหว่าง 0.51- 0.75% ผลผลิตพืชที่ทำการวิจัย พบว่าหอมแดง พบว่า ตำรับที่มีการใช้เทคโนโลยีของกรมพัฒนาที่ดิน ได้แก่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ปุ๋ยหมัก พด.12 และใช้ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ได้ผลผลิตระหว่าง 3,004-3,113 กก./ไร่ ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับวิธีของเกษตรกร ซึ่งได้ผลผลิต 2,824 กก./ไร่ สำหรับ พริก ก็ให้ผลผลิตไปในทิศทางเดียวกัน คือ ตำรับที่มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ปุ๋ยหมัก พด.12 และใช้ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ได้ผลผลิตพริกแห้งระหว่าง 390-413 กก./ไร่ ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับวิธีของเกษตรกร ซึ่งได้ผลผลิตพริกแห้ง 368 กก./ไร่ ส่วนตำรับที่ใส่ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลงได้ผลผลิตพริกแห้ง 362 กก./ไร่ สำหรับข้าวหอมมะลิ105 ปี 2557 ตำรับที่มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง และปุ๋ยหมัก พด.12 และใช้ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลงได้ผลผลิตระหว่าง 422-488 กก./ไร่ ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับวิธีของเกษตรกร ซึ่งได้ผลผลิตข้าวระหว่าง 390-436 กก./ไร่ แต่ปี 2558 และ 2559 ตำรับที่มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง และปุ๋ยหมัก พด.12 ได้ผลผลิตข้าวระหว่าง 404-471 และ395-454 กก./ไร่ ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับวิธีของเกษตรกร แต่การใส่ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลงให้ผลผลิตข้าวไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับวิธีของเกษตรกร ด้านผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ โดยพิจารณาจากกำไรสุทธิ ซึ่งคำนวณจากรายได้ทั้งหมดและต้นทุนผันแปร หอมแดง พบว่า ตำรับที่ใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงอัตรา 100กก./ไร่ ได้กำไรสุทธิสูงที่สุด คือ 19,380 บาท/ไร่ รองลงมาคือตำรับที่ใส่ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ได้กำไรสุทธิสูงที่สุด คือ 18,440 บาท/ไร่ ตำรับที่ใส่ปุ๋ยเคมี13-13-21 อัตรา 80 กก./ไร่ (วิธีเกษตรกร) กำไรสุทธิต่ำสุด 11,910 บาท/ไร่ แต่มีต้นทุนสูงที่สุดคือ 16,330 บาท/ไร่ และพริก พบว่า ตำรับที่ใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงอัตรา 100กก./ไร่ ได้กำไรสุทธิสูงที่สุด คือ 12,680 บาท/ไร่ รองลงมาคือตำรับที่ใส่ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ได้กำไรสุทธิสูงที่สุด คือ 9,770 บาท/ไร่ ตำรับที่ใส่ปุ๋ยเคมี13-13-21 อัตรา 80 กก./ไร่ (วิธีเกษตรกร) ได้กำไรสุทธิต่ำสุด 5,400 บาท/ไร่ ในขณะที่มีต้นทุนสูงที่สุดคือ 16,680 บาท/ไร่ ื สำหรับข้าวหอมมะลิ 105 พบว่า ตำรับที่ใส่ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ได้กำไรสุทธิสูงที่สุด คือ 1,840 บาท/ไร่ รองลงมาคือตำรับที่ใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงอัตรา 100กก./ไร่ ได้กำไรสุทธิ 1,540 บาท/ไร่ ตำรับที่ใส่ปุ๋ยเคมี16-16-8 อัตรา 50 กก./ไร่ (วิธีเกษตรกร) ได้กำไรสุทธิ 1,290 บาท/ไร่ ส่วนตำรับที่ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.12 อัตรา 200กก./ไร่ +ปุ๋ยเคมีอัตรา 1/2ของคำแนะนำตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ได้กำไรสุทธิต่ำสุด คือ 655 บาท/ไร่ ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Demonstration plots of Land Development Department products for increasing efficiency of the main crops (rice, shallot and chili) productivity were conducted in Sisaket province under Green Agriculture City Project during October 2014 to December 2016. The objectives were to 1) test and demonstrate the efficiency of high quality organic fertilizer, PorDor12 bio-compost applied with recommended chemical fertilizers affecting the three economic main crops (rice , shallot and chili), 2) study the changes of soil chemical properties, 3) the economic return after using LDD products. The design was randomized complete block with 4 replications and 4 treatments which were 1) farmer’s method (16-16-8 formula chemical fertilizer at 50 kg/rai) 2) recommended fertilizer rate by LDD , 3) high quality organic fertilizer at 100 kg/rai , and 4) PorDor12 bio fertilizer at 200 kg/rai with half of recommended rate by LDD. The results were found that the soil chemical properties before test were low pH, low organic matter content, low to moderate plant nutrients and normal level in soil salinity. In rice plot, soil pH was 4.3-4.8. Soil organic matter content was 0.45-0.61 %. Soil available phosphorus was 3.75-17.66 mg/kg. Soil exchangeable potassium was 12.5-52.3 mg/kg but 61.0-91.0 kg/kg in shallot plot. After the test in three kinds of crops, it was found that soil pH and soil organic matter in treatment applied high quality organic fertilizer with PorDor12 compost plots intended to increase. In shallot plot, soil pH was increased from 4.8 to 5.4-5.5. In chili plot, soil pH was increased from 5.2 to 5.4-5.5. In rice plot, soil pH was increased from 4.3-4.8 to 5.0-5.3. The soil organic matter content in shallot plot , in chili plot and in rice plot were increased from 0.5 % to 0.51-0.52 % , from 0.52 to 0.55 % and from 0.45-0.61 % to 0.51-0.75 % , respectively. In shallot plot, the treatments which LDD products applied could produce yield range from 3,004 to 3,111 kg/rai which was significantly different to farmer’s method yield (2,824 kg/rai). The yield in chili plot had the same trend which LDD product applied plot gave the yield at 390-413 kg/rai while farmer’s method plot gave the yield only 368 kg/rai. In rice plot at the year of 2014, the treatment applied with high quality organic fertilizer PorDor12 compost and recommended fertilizer produced yield at 422-488 kg/rai which was significantly different from farmer’s method (390-436 kg/rai). However, in 2015 and 2016, the treatment applied with high quality organic fertilizer PorDor12 compost produced 404-471 and 395-454 kg/rai, respectively which was significantly different to farmer’s method. On the economic return aspect, it was found that in shallot plot the treatment of high quality organic fertilizer at 100 kg/rai earned highest profit at 19,380 bath/rai while farmer’s method plot earned lowest profit only 11,910 bath/rai. In chili plot, the treatment of high quality organic fertilizer at 100 kg/rai earned highest profit at 12,680 bath/rai while farmer’s method plot earned lowest profit only 5,400 bath/rai. In rice plot, the treatment of recommended fertilizer earned highest profit at 1,840 bath/rai while farmer’s method plot earned lowest profit only 1,290 bath/rai.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: หอมแดง
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ทดสอบสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์กรมพัฒนาที่ดินเพิ่มศักยภาพการผลิตของดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก(ข้าว หอมแดง และพริก) ในพื้นที่โครงการเมืองเกษตรสีเขียวจังหวัดศรีสะเกษ
กรมพัฒนาที่ดิน
1 ธันวาคม 2559
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ซอสหอมแดง การใช้เชื้อ Ectomycorrhiza ในการเพิ่มผลผลิตพืชเศรษฐกิจเขตภาคอีสานตอนบนของประเทศไทย ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การพัฒนาหอมแดงเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์เวชสำอางและผลิตภัณฑ์สปา การทดสอบเทคโนโลยีการปรับปรุงบำรุงดินร่วนเหนียว ในพื้นที่ปลูกพริกจังหวัดนครราชสีมา การใช้ค่าวิเคราะห์ดิน ผลผลิตที่คาดหวัง และธาตุอาหารหลักในผลผลิตเพื่อกำหนดอัตราการใส่ปุ๋ยสำหรับข้าว ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก การใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกเพื่อเพิ่มคุณภาพของผลผลิตทุเรียนในจังหวัดระยอง ศึกษาการผลิตและการตลาดพริก การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในรูปแบบเครือข่ายคุณภาพของเกษตรกรผลิตหอมแดง จังหวัดศรีสะเกษ การเพิ่มศักยภาพการผลิตมวนเพชฌฆาต Sycanus collaris F. (Hemiptera: Reduviidae) ด้วยการใช้มอดรำข้าวสาลี Tenebrio molitor L. (Coleoptera: Tenebrionidae) ระยะต่างกัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก