สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาต้นทุนการผลิตมะเขือเทศพันธุ์สีดาที่ปลูกโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือ 3 ชนิดในฤดูฝน
ถวัลย์ บุญตันทา - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ชื่อเรื่อง: การศึกษาต้นทุนการผลิตมะเขือเทศพันธุ์สีดาที่ปลูกโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือ 3 ชนิดในฤดูฝน
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Production Cost and Return of Tomato (Lycopersicon Esculentum Mill) Sida Variety Grafting on 3 types of Egg-plant Rootstock in Raing Season.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ถวัลย์ บุญตันทา
บทคัดย่อ: การศึกษาต้นทุนการผลิตมะเขือเทศพันธุ์สีดำที่ปลูกโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือ 3 ชนิด เปรียบเทียบกับการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดาในฤดูฝนปี 2532 และ 2533 โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD ทำ 4 ซ้ำ พบว่าต้นทุนการผลิตต่อไร่รวมทั้งหมดของการปลูกมะเขือเทศ โดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือเทศชนิดต่างๆ เท่ากับ 7,120.55 บาท แยกเป็นต้นทุนผันแปร 7,004.22 บาท ต้นทุนคงที่ 116.33 บาท สำหรับการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดา ต้นทุนการผลิตต่อไร่ รวมทั้งหมด เท่ากับ 6,341.25 บาท แยกเป็นต้นทุนผันแปร 6,224.92 บาท ต้นทุนคงที่ 116.33 บาท (Table 2) ทางด้านผลผลิตที่ได้รับมีความแตกต่างกันระหว่างการปลูกโดยเสียบยอดบนต้นตอมะเขือเทศชนิดต่างๆ กับการปลูกแบบธรรมดา คือ ถ้าปลูกมะเขือเทศโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือพวงจะได้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุดถึง 1882.60 กก.ต่อไร่ รองลงมา คือ ใช้ต้นตอมะเขือเปราะและมะเขือยาวซึ่งได้ผลผลิต 1622.31 และ 1568.74 กก.ต่อไร่ ตามลำดับ ส่วนการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดาจะได้ ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ำสุดคือได้ 1088.55 กก. เท่านั้น สำหรับราคาผลิตผลที่จำหน่ายได้จะอยู่ในช่วงต่ำสุด 4 บาทต่อกก. และสูงสุด 10 บาทต่อกก. ถ้าคิดราคาตลอดฤดูการผลิต (เฉพาะฤดูฝน) แค่ 5 บาทต่อกก. ก็จะขายได้ต่อไร่ถึง 9413, 8111.55, 7843.7 และ 5442.75 บาท ในการปลูกมะเขือเทศ โดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือพวง มะเขือเปราะ มะเขือยาว และปลูกแบบธรรมดาตามลำดับ แต่เมื่อหักต้นทุนการผลิตออกหมดแล้ว พบว่า การปลูกมะเขือเทศ โดยใช้ต้นตอมะเขือพวง มะเขือเปราะ และมะเขือยาว จะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 2292.45, 991 และ 723.15 บาทต่อไร่ ส่วนการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดา จะขาดทุน 898.50 บาทต่อไร่ ส่วนระยะเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่มีความสำคัญต่อผลผลิตที่เพิ่มขึ้นนั้น ก็พบว่า ถ้าปลูกมะเขือเทศโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือเทศชนิดต่างๆ จะทำให้ช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวนานขึ้นถึง 3 ครั้ง จะเก็บเกี่ยวได้ตลอดฤดูการผลิตเฉลี่ย 15 ครั้ง ถ้าปลูกแบบธรรมดาจะเก็บเกี่ยวได้นานเฉลี่ยแค่ 12.5 ครั้ง ซึ่งนั่นหมายความว่า ยิ่งเวลาการเก็บเกี่ยวนานขึ้น ผลผลิตที่ได้ย่อมมีมากกว่า ผลที่ได้จากการลงทุนก็จะเพิ่มขึ้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=44&RecId=352&obj_id=1062
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
คำสำคัญ: มะเขือเทศ
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
รายละเอียด: การศึกษาต้นทุนการผลิตมะเขือเทศพันธุ์สีดำที่ปลูกโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือ 3 ชนิด เปรียบเทียบกับการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดาในฤดูฝนปี 2532 และ 2533 โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD ทำ 4 ซ้ำ พบว่าต้นทุนการผลิตต่อไร่รวมทั้งหมดของการปลูกมะเขือเทศ โดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือเทศชนิดต่างๆ เท่ากับ 7,120.55 บาท แยกเป็นต้นทุนผันแปร 7,004.22 บาท ต้นทุนคงที่ 116.33 บาท สำหรับการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดา ต้นทุนการผลิตต่อไร่ รวมทั้งหมด เท่ากับ 6,341.25 บาท แยกเป็นต้นทุนผันแปร 6,224.92 บาท ต้นทุนคงที่ 116.33 บาท (Table 2) ทางด้านผลผลิตที่ได้รับมีความแตกต่างกันระหว่างการปลูกโดยเสียบยอดบนต้นตอมะเขือเทศชนิดต่างๆ กับการปลูกแบบธรรมดา คือ ถ้าปลูกมะเขือเทศโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือพวงจะได้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุดถึง 1882.60 กก.ต่อไร่ รองลงมา คือ ใช้ต้นตอมะเขือเปราะและมะเขือยาวซึ่งได้ผลผลิต 1622.31 และ 1568.74 กก.ต่อไร่ ตามลำดับ ส่วนการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดาจะได้ ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ำสุดคือได้ 1088.55 กก. เท่านั้น สำหรับราคาผลิตผลที่จำหน่ายได้จะอยู่ในช่วงต่ำสุด 4 บาทต่อกก. และสูงสุด 10 บาทต่อกก. ถ้าคิดราคาตลอดฤดูการผลิต (เฉพาะฤดูฝน) แค่ 5 บาทต่อกก. ก็จะขายได้ต่อไร่ถึง 9413, 8111.55, 7843.7 และ 5442.75 บาท ในการปลูกมะเขือเทศ โดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือพวง มะเขือเปราะ มะเขือยาว และปลูกแบบธรรมดาตามลำดับ แต่เมื่อหักต้นทุนการผลิตออกหมดแล้ว พบว่า การปลูกมะเขือเทศ โดยใช้ต้นตอมะเขือพวง มะเขือเปราะ และมะเขือยาว จะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 2292.45, 991 และ 723.15 บาทต่อไร่ ส่วนการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดา จะขาดทุน 898.50 บาทต่อไร่ ส่วนระยะเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่มีความสำคัญต่อผลผลิตที่เพิ่มขึ้นนั้น ก็พบว่า ถ้าปลูกมะเขือเทศโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือเทศชนิดต่างๆ จะทำให้ช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวนานขึ้นถึง 3 ครั้ง จะเก็บเกี่ยวได้ตลอดฤดูการผลิตเฉลี่ย 15 ครั้ง ถ้าปลูกแบบธรรมดาจะเก็บเกี่ยวได้นานเฉลี่ยแค่ 12.5 ครั้ง ซึ่งนั่นหมายความว่า ยิ่งเวลาการเก็บเกี่ยวนานขึ้น ผลผลิตที่ได้ย่อมมีมากกว่า ผลที่ได้จากการลงทุนก็จะเพิ่มขึ้น
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาต้นทุนการผลิตมะเขือเทศพันธุ์สีดาที่ปลูกโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือ 3 ชนิดในฤดูฝน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2533
การทดสอบพันธุ์มะเขือเทศ 25 พันธุ์ในฤดูฝน การเปรียบเทียบปุ๋ยทางใบ 3 ชนิดกับมะเขือเทศพันธุ์ SVRDC-4 ในฤดูฝนปี 2527 การทดลองอัตราการใช้ปุ๋ยกับมะเขือเทศที่ปลูกในฤดูฝน ศึกษาระยะปลูกและวิธีการตัดแต่งสำหรับการผลิตเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศพันธุ์ลูกผสม การทดลองปุ๋ยสูตร 20-20-10 ต่อมะเขือเทศพันธุ์ L22 ในฤดูฝนปี 2527 การเปรียบเทียบพันธุ์มะเขือเทศรับประทานสด 5 สายพันธุ์ การเปรียบเทียบการใช้ปุ๋ยชนิดต่างๆ กับมะเขือเทศในฤดูฝน การทดลองมะเขือเทศในแง่เศรษฐกิจ รายงานการวิจัยโครงการการพัฒนาวิธีการให้น้ำแบบประหยัดและการให้ปุ๋ยในระบบน้ำในการผลิตพริก และมะเขือเทศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลของการใช้น้ำมะเขือเทศในการตกตะกอนโปรตีนจากถั่วเหลือง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก