สืบค้นงานวิจัย
ปริมาณ mangiferin ในใบ เปลือกต้นและกิ่งของมะม่วงสายพันธุ์ต่าง ๆ ของประเทศไทย
Chalermsi Satirasuttipong - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ปริมาณ mangiferin ในใบ เปลือกต้นและกิ่งของมะม่วงสายพันธุ์ต่าง ๆ ของประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Mangiferin contents of leaves bark and branches of Thai Mangifera Indica L. cultivars
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Chalermsi Satirasuttipong
บทคัดย่อ: 2.74%) ความแม่นยำ (ความแปรปรวนมีค่าน้อยกว่าร้อยละ 2) การหาปริมาณต่ำสุดที่ตรวจพบและปริมาณต่ำสุดที่วิเคราะห์ได้คือ 0.10 และ 0.60ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรตามลำดับ วิธีนี้จึงเป็นวิธีเหมาะสมในการหาปริมาณแมงจิเฟอริน การศึกษาหาปริมาณสารแมงจิเฟอรินในส่วนใบ เปลือกต้นและกิ่ง ของมะม่วงสายพันธุ์ต่างๆ ของ ประเทศไทยจำนวน 73 สายพันธุ์ พบว่า แมงจิเฟอรินจากส่วนใบ เปลือกต้นและกิ่ง อยู่ในช่วง 2.63-12.73%, 2.42- 18.74% และ 0.08-2.52% ตามลำดับ เมื่อพิจารณาจากปริมาณแมงจิเฟอริน เปลือกต้นมีศักยภาพในการเป็นวัตถุดิบ สำหรับผลิตแมงจิเฟอรินและสารสกัดมะม่วง เปลือกต้นมะม่วงพญาเสวยจะมีปริมาณแมงจิเฟอรินสูงสุด (18.74%) แต่เป็นพันธุ์ที่หายากกว่าอกร่องซึ่งมีปริมาณแมงจิเฟอริน 16.61% หาง่ายกว่า ดังนั้นเปลือกต้นอกร่องจึงมีโอกาส ทางการค้ามากกว่า อย่างไรก็ตามการนำเปลือกต้นมาใช้อาจส่งผลกระทบต่อต้นมะม่วง จึงควรพิจารณาส่วนอื่น เช่น ใบ ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งหลังการตกแต่งกิ่ง ใบมะม่วงสายน้ำค้าง มีปริมาณ แมงจิเฟอรินสูงสุด (12.73%) แต่ หายาก จึงควรเลือกใช้ ใบมะม่วงโชคอนันต์ (12.05%) สารายา (11.75%) ซึ่งหาง่ายกว่า เป็นวัตถุดิบ ส่วนกิ่งมี ปริมาณแมงจิเฟอรินน้อย ทั้งมีปริมาณเหลือทิ้งน้อยกว่าจึงไม่เหมาะสมกับการใช้เป็นวัตถุดิบ
บทคัดย่อ (EN): g/ml, respectively. This method can be successfully applied to the analysis of mangiferin of the methanol extracts of Mangifera indica L. The mangiferin contents of leaf bark and branch extracts of M. indica L. were 2.63-12.73%, 2.42-18.74%, 0.08-2.52%, respectively. Based on the content the bark part seemed to be the best raw material for mango extract and mangiferin production. Payasawaey bark contained the highest mangiferin content (18.74%) but it was a rare cultivar. Therefore Okrong bark (16.61%) was recommended. Even though most bark contained higher mangiferin than leaf part, to remove the bark from the tree may destroy the tree. The leaf part was considered to be a better source due to the ease of obtaining it after trimming the trees. The common cultivars Chokanan (12.05%) and Salaya (11.75%) were recommended instead of Sainamkang which contained highest mangiferin content (12.73%). The branch part contained small amounts of mangiferin and were difficult to collect, they were not suitable for commercial purposes.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=5444&obj_id=4602
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ: เภสัชวินิจฉัย
คำสำคัญ (EN): Mangiferin
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: 2.74%) ความแม่นยำ (ความแปรปรวนมีค่าน้อยกว่าร้อยละ 2) การหาปริมาณต่ำสุดที่ตรวจพบและปริมาณต่ำสุดที่วิเคราะห์ได้คือ 0.10 และ 0.60ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรตามลำดับ วิธีนี้จึงเป็นวิธีเหมาะสมในการหาปริมาณแมงจิเฟอริน การศึกษาหาปริมาณสารแมงจิเฟอรินในส่วนใบ เปลือกต้นและกิ่ง ของมะม่วงสายพันธุ์ต่างๆ ของ ประเทศไทยจำนวน 73 สายพันธุ์ พบว่า แมงจิเฟอรินจากส่วนใบ เปลือกต้นและกิ่ง อยู่ในช่วง 2.63-12.73%, 2.42- 18.74% และ 0.08-2.52% ตามลำดับ เมื่อพิจารณาจากปริมาณแมงจิเฟอริน เปลือกต้นมีศักยภาพในการเป็นวัตถุดิบ สำหรับผลิตแมงจิเฟอรินและสารสกัดมะม่วง เปลือกต้นมะม่วงพญาเสวยจะมีปริมาณแมงจิเฟอรินสูงสุด (18.74%) แต่เป็นพันธุ์ที่หายากกว่าอกร่องซึ่งมีปริมาณแมงจิเฟอริน 16.61% หาง่ายกว่า ดังนั้นเปลือกต้นอกร่องจึงมีโอกาส ทางการค้ามากกว่า อย่างไรก็ตามการนำเปลือกต้นมาใช้อาจส่งผลกระทบต่อต้นมะม่วง จึงควรพิจารณาส่วนอื่น เช่น ใบ ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งหลังการตกแต่งกิ่ง ใบมะม่วงสายน้ำค้าง มีปริมาณ แมงจิเฟอรินสูงสุด (12.73%) แต่ หายาก จึงควรเลือกใช้ ใบมะม่วงโชคอนันต์ (12.05%) สารายา (11.75%) ซึ่งหาง่ายกว่า เป็นวัตถุดิบ ส่วนกิ่งมี ปริมาณแมงจิเฟอรินน้อย ทั้งมีปริมาณเหลือทิ้งน้อยกว่าจึงไม่เหมาะสมกับการใช้เป็นวัตถุดิบ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ปริมาณ mangiferin ในใบ เปลือกต้นและกิ่งของมะม่วงสายพันธุ์ต่าง ๆ ของประเทศไทย
Chalermsi Satirasuttipong
มหาวิทยาลัยมหิดล
2552
ผลของการตัดแต่งกิ่งต่อการออกดอกและติดผลของมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้เพื่อการเก็บเกี่ยวล่าฤดู ผลของรังสีแกมมาต่อการเปลี่ยนแปลงการสุกและการต้านอนุมูลอิสระของมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้เบอร์ 4 ผลของโอโซนต่อการควบคุมเอทิลีนเพื่อยีดอายุการเก็บรักษามะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง สภาวะที่เหมาะสมในการผลิตเปลือกมะม่วงน้ำดอกไม้ทอดกรอบโดยการทอดสุญญากาศ ประสิทธิภาพของน้ำส้มควันไม้ยูคาลิปตัสร่วมกับเชื้อแอกติโนไมซีสต์ในการควบคุมเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides สาเหตุโรคแอนแทรคโนสของมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ ผลของน้ำออกซิไดส์ที่ผ่านการแยกด้วยไฟฟ้าที่มีต่อการลดโรคแอนแทรกโนสบนผลมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ การพัฒนาโครงข่ายประสาทเทียมเพื่อใช้ในการคัดคุรภาพทางด้านรูปร่างของมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ ผลของการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงโดยไทเทเนียมไดออกไซด์ต่อการควบคุมโรคแอนแทรคโนสของผลมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองหลังการเก็บเกี่ยว ผลของการบรรจุถุงพอลิเอไมด์และพอลิเอทินที่มีอุณหภูมิต่ำต่ออายุการเก็บรักษาของผมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง ผลของเมพิควอทคลอไรด์ คลอร์มีควอทคลอไรด์ และพาโคลบิวทราโซลต่อสรีรวิทยาการออกดอกของมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก