สืบค้นงานวิจัย
การแยกสายพันธุ์และติดตามการแพร่ติดต่อของเชื้อวัณโรคที่แยกได้จากผู้ป่วยเขตพื้นที่ระบาดวัณโรคดื้อยา
จณิศรา ฤดีอเนกสิน - 1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 2 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จ.ราชบุรี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 3 Division of Bioresources, Hokkaido University Research Center for Zoonosis Control, Sapporo, Japan 4 Research Collaboration Center on Emerging and Re-emerging Infections, Osaka University, Department of Medical Sciences, Nonthaburi
ชื่อเรื่อง: การแยกสายพันธุ์และติดตามการแพร่ติดต่อของเชื้อวัณโรคที่แยกได้จากผู้ป่วยเขตพื้นที่ระบาดวัณโรคดื้อยา
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จณิศรา ฤดีอเนกสิน
บทคัดย่อ: วัณโรคเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของประเทศไทย สถานการณ์วัณโรคปัจจุบันประเทศไทยติดลำดับหนึ่งใน 14 ประเทศทั่วโลกที่มีวัณโรคเป็นภาระหนักสามด้านได้แก่ การมีอัตราความชุกของโรคสูง ปัญหาการระบาดของวัณโรคดื้อยาหลายขนาน และปัญหาผู้ป่วย HIV ที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย การแยกสายพันธุ์เชื้อวัณโรคสามารถสนับสนุนการควบคุมวัณโรคโดยใช้ติดตามการระบาดของวัณโรคในชุมชนซึ่งอาจเกิดขึ้นเนื่องจากการแพร่ติดต่อของเชื้อในท้องถิ่นหรือเชื้อต่างถิ่นได้ จังหวัดกาญจนบุรีมีแนวเขตติดต่อกับประเทศพม่า และมีปัญหาวัณโรคดื้อยาระบาดรุนแรงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2545 การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามการระบาดของเชื้อวัณโรคและวัณโรคดื้อยาในจังหวัดกาญจนบุรีโดยการแยกสายพันธุ์ เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาใช้สถิติการวิเคราะห์ผลในรูปแบบร้อยละ วิธีการวิจัยดำเนินการโดยการตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรม DNA ของเชื้อวัณโรคที่เพาะเลี้ยงจากเสมหะผู้ป่วยวัณโรคระหว่างปี พ.ศ. 2556-2557 จำนวน 199 ตัวอย่าง เป็นเชื้อดื้อยาหลายขนาน ซึ่งดื้อต่อยาหลักในการรักษาอย่างน้อยสองชนิดได้แก่ Isoniazid (INH) และ Rifampicin (RIF) 74 ตัวอย่าง เชื้อดื้อยา INH หรือ RIF ชนิดเดียว 14 ตัวอย่าง และเชื้อที่ไวต่อยาหลักทั้งสองชนิด 111 ตัวอย่าง การแยกสายพันธุ์ในครั้งนี้ใช้สองวิธีร่วมกันซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้แพร่หลายทั่วโลก ได้แก่ วิธี spoligotyping ซึ่งตรวจการมีหรือไม่มีเครื่องหมายทางพันธุกรรม DNA ใน 43 ตำแหน่ง และบันทึกรูปแบบเครื่องหมายทางพันธุกรรม DNA เป็นเลขรหัส (Octal No.) ซึ่งสามารถเปรียบเทียบกับเลขรหัสประจำสายพันธุ์ของเชื้อวัณโรคในฐานข้อมูลสากล (SpolDB4) ในการสืบค้นชื่อและเลขประจำสายพันธุ์ เชื้อสายพันธุ์ spoligotype เดียวกัน แยกสายพันธุ์ย่อยด้วยเครื่องหมายทางพันธุกรรม DNA ชนิด Mycobacterial interspersed repetitive unit-variable number of tandem repeat (MIRU-VNTR) ซึ่งตรวจเครื่องหมายทางพันธุกรรม DNA ที่มีจำนวนเบสซ้ำกันเป็นชุดใน 15 ตำแหน่ง ข้อมูลผลการวิเคราะห์เป็นดิจิตอล สามารถเปรียบเทียบและจัดกลุ่มความสัมพันธ์ระหว่างสายพันธุ์ได้ และจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลสายพันธุ์เชื้อวัณโรคของประเทศ ใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์สายพันธุ์ในปัจจุบันกับสถานการณ์ที่เคยระบาด สำหรับการติดตามการแพร่ติดต่อ เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ให้ชัดเจน ผลการแยกสายพันธุ์ของเชื้อวัณโรคด้วยวิธี spoligotyping ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ Beijing มีสัดส่วนร้อยละ 51 สายพันธุ์อื่น 23 สายพันธุ์ มีสัดส่วนร้อยละ 37 ซึ่งประกอบด้วยสายพันธุ์ EAI, H3, LAM9, T1, T2, U และ X1 และสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่มีในฐานข้อมูล SpolDB4 และมีรูปแบบ spoligotype ที่ไม่ซ้ำกัน 23 สายพันธุ์ มีสัดส่วนร้อยละ 12 ผลการแยกย่อยสายพันธุ์ (Subtype) ในกลุ่ม Beijing พบกลุ่มเชื้อ 34 ตัวอย่างที่มีรูปแบบ MIRU-VNTR และเป็นเชื้อดื้อยาหลายขนานเหมือนกัน เมื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของกลุ่มเชื้อเหล่านี้โดยการเปรียบเทียบกับข้อมูลสายพันธุ์ที่มีบันทึกไว้จากการศึกษาก่อนนี้พบว่ามีสายพันธุ์ตรงกับเชื้อวัณโรคดื้อยาหลายขนานที่มีการระบาดในพื้นที่ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 แสดงถึงการระบาดของกลุ่มเชื้อวัณโรคดื้อยาหลายขนานในสายพันธุ์ที่เหมือนกันเกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และมีการแพร่ติดต่อที่ยังควบคุมไม่ได้จนปัจจุบัน ในขณะเดียวกันสายพันธุ์อื่น และสายพันธุ์ใหม่ที่พบในครั้งนี้สามารถอธิบายได้ถึงการมีความหลากหลายทางพันธุกรรมของเชื้อวัณโรคเกิดขึ้นในพื้นที่ ข้อเสนอแนะในการจัดการกับปัญหาเชื้อวัณโรคดื้อยาที่กำลังระบาดนี้ควรมีการค้นหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ค้นหาผู้ป่วยให้รวดเร็ว และรักษาด้วยยาที่ได้ผลรวมถึงการตรวจแยกสายพันธุ์เพื่อติดตามการระบาดอย่างต่อเนื่อง วิธีการแยกสายพันธุ์นี้มีความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในการแยกสายพันธุ์เชื้อวัณโรคของประเทศไทยได้ เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค และใช้ประกอบการกำหนดมาตรการในการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://nih.dmsc.moph.go.th/research/showimgdetil.php?id=610
เผยแพร่โดย: 1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 2 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จ.ราชบุรี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 3 Division of Bioresources, Hokkaido University Research Center for Zoonosis Control, Sapporo, Japan 4 Research Collaboration Center on Emerging and Re-emerging Infections, Osaka University, Department of Medical Sciences, Nonthaburi
คำสำคัญ: พื้นที่ระบาดวัณโรคดื้อยา
เจ้าของลิขสิทธิ์: สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การแยกสายพันธุ์และติดตามการแพร่ติดต่อของเชื้อวัณโรคที่แยกได้จากผู้ป่วยเขตพื้นที่ระบาดวัณโรคดื้อยา
1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 2 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จ.ราชบุรี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 3 Division of Bioresources, Hokkaido University Research Center for Zoonosis Control, Sapporo, Japan 4 Research Collaboration Center on Emerging and Re-emerging Infections, Osaka University, Department of Medical Sciences, Nonthaburi
2560
ระบาดวิทยาและสายพันธุ์เชื้อวัณโรคในเขตพื้นที่ระบาดวัณโรคดื้อยา จังหวัดกาญจนบุรี Epidemiology and genotypes of Mycobacterium tuberculosis at an outbreak area in Kanchanaburi province ความสัมพันธ์ระหว่างการกลายพันธุ์ของยีนกับการดื้อยาในเชื้อวัณโรค การติดตามระบาดวิทยาวัณโรคในพื้นที่ระบาดวัณโรคดื้อยาโดยวิธี Spoligotyping และ VNTR typing Epidemiological tracking of tuberculosis in drug-resistant epidemic by spoligotyping and VNTR typing การจำแนกสายพันธุ์และความต้านทานต่อโรค Streptococcosis ของปลานิล (Oreochromis niloticus Linnaeus) การพัฒนาชุดทดสอบ Multiplex PCR สำหรับจำแนกชนิดเชื้อ Mycobacterium bovis และ Mycobacterium tuberculosis การรวบรวมพันธุ์และการศึกษาลักษณะเพื่อคัดเลือกสายพันธุ์ของมะแขว่น การแสดงออกของพันธุ์และสายพันธุ์ถั่วฝักยาวในการปลูกแบบอินทรีย์และแบบใช้สารเคมี อาการของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron TB- LAMP กับการตรวจพิสูจน์เชื้อวัณโรคในงานประจำ In-house TB-LAMP for Mycobacterium tuberculosis identification in routine service เปรียบเทียบการตรวจหาเชื้อวัณโรคแบบรวดเร็ว ด้วยวิธี Xpert MTB/RIF และ TB-LAMP ในผู้ป่วยวัณโรค Comparison of Xpert MTB/RIF and TB-LAMP for rapid detection of Mycobacterium tuberculosis in the Khonkaen H
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก