สืบค้นงานวิจัย
การศึกษายีนที่สร้างสารเอ็นเทอโรท็อกซินในเชื้อ S. aureus ที่แยกได้จากโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
มนกานต์ อินทรกำแหง - มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ชื่อเรื่อง: การศึกษายีนที่สร้างสารเอ็นเทอโรท็อกซินในเชื้อ S. aureus ที่แยกได้จากโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Study for enterotoxin genes in S. aureus strains isolated from the mammary quarter milk of mastitis cows in North-east region of Thailand.
บทคัดย่อ: การแพร่กระจายของเชื้อ S. aureus ที่มียีนสำหรับสร้างสารพิษเอนเทอโรทอกซินได้ถูกนำมาศึกษาโดยวิธี mPCR โดยได้ให้ความสำคัญกับสายพันธุ์ MRSA ในฐานะที่เป็นสายพันธุ์ก่อโรคที่รุนแรงในคนและสัตว์ ผลการศึกษาพบเชื้อจำนวน 37 ไอโซเลต เป็นสายพันธุ์ MRSA ที่มียีนสำหรับสร้างสารพิษเอนเทอโรทอกซิน โดยมียีนชนิดดั้งเดิมอย่างน้อยหนึ่งยีนในขณะที่อีก 3 ไอโซเลต เป็น MRSA ที่ไม่มียีนเหล่านี้ ซึ่งชี้ได้ว่าการมียีนสำหรับสร้างสารพิษเอนเทอโรทอกซินอย่างน้อยหนึ่งยีนเป้นแบบแผนโดยทั่วไปของสายพันธุ์ MRSA ทั้งนี้ยีนที่พบโดยส่วนใหญ่ได้แก่ seb และ sed ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นยีนที่มีความโดดเด่น จากการทกสอบความไวต่อยาปฏิชีวนะ พบว่ามี 17 ไอโซเลตจากพื้นที่ภาคอีสานที่เป็น MRSA ที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายชนิด การศึกษานี้มุ่งศึกษาความสัมพันธ์ของเชื้อสายพันธุ์ MRSA ที่มีลักษณะการดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายชนิดและมียีนสำหรับสร้างสารพิษเอนเทอโรทอกซินชนิด A โดยใช้วิธี RAPD-PCR เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่ามีความหลากหลายของเชื้อที่ได้มาจากพื้นที่ที่แตกต่างกัน ความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดในพื้นที่เดียวกันมีความน่าสนใจเนื่องจากเป็นเชื้อที่มียีนสำหรับสร้างสารพิษเอนเทอโรทอกซินแบบเดียวกันและยังมีแบบแผนการดื้อต่อยาแบบเดียวกัน
บทคัดย่อ (EN): The distribution of S. aureus harbouring the major staphylococcal enterotoxin genes using mPCR was investigated. MRSA strain was interested in this study as a virulent strain of S. aureus that has impact to human and animal health. A total of 37 isolates were found to be the enterotoxingenic MRSA that harbored at least one classical SE gene, whereas 3 isolates were negative. This indicated that the detection of multiple types of toxin gene was common among MRSA isolates. The genes most commonly detected were seb and sed that represented as the predominant genes. Regarding to the antibiotic susceptibility test, 17 isolates from Northeast region were found to be multidrug resistant MRSA strains. The enterotoxingenic multidrug resistant MRSA isolates harbouring sea gene were interested. Random amplification of polymorphic DNA (RAPD-PCR) was performed for examination of genetic relatedness. The results indicated considerable diversity among the isolates obtained in the different locations. The close genetic relatedness of the same geographical origins was interesting because of carrying similar enterotoxin gene (sea), and also resistant to the same antibiotics.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
คำสำคัญ: เต้านมอักเสบ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

มนกานต์ อินทรกำแหง. "การศึกษายีนที่สร้างสารเอ็นเทอโรท็อกซินในเชื้อ S. aureus ที่แยกได้จากโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยStudy for enterotoxin genes in S. aureus strains isolated from the mammary quarter milk of mastitis cows in North-east region of Thailand.". มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 2554

มนกานต์ อินทรกำแหง. "การศึกษายีนที่สร้างสารเอ็นเทอโรท็อกซินในเชื้อ S. aureus ที่แยกได้จากโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยStudy for enterotoxin genes in S. aureus strains isolated from the mammary quarter milk of mastitis cows in North-east region of Thailand.". มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษายีนที่สร้างสารเอ็นเทอโรท็อกซินในเชื้อ S. aureus ที่แยกได้จากโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
มนกานต์ อินทรกำแหง
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
30 กันยายน 2554
ความสัมพันธ์ของยีน BoLA-DRB3 กับโรคเต้านมอักเสบในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์ การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี เครือข่ายแบบเบย์เซียนของโรคเต้านมอักเสบสำหรับฟาร์มโคนมรายย่อย ผลของสารสกัดจากลูกยอต่อการรักษาโรคเต้านมอักเสบแบบไม่แสดงอาการในโคนม การสำรวจเชื้อก่อโรคเต้านมอักเสบในโคนมและความไวต่อยาปฏิชีวนะ ในจังหวัดสระแก้ว การใช้หญ้างวงช้างในการรักษาโรคเต้านมอักเสบในโคนม ความชุกของเชื้อ Mycoplasma bovis และแบคทีเรียชนิดอื่นที่ก่อโรคเต้านมอักเสบติดต่อในโคนมในเขตจังหวัดขอนแก่น การคัดเลือกลักษณะต้านทานโรคเต้านมอักเสบโดยการคัดเลือกลักษณะเต้านม ในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์ ประสิทธิภาพของนน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้และตะไคร้หอม ในการยับยั้งเชื้อก่อโรคเต้านมอักเสบในโคนม: Staphylococcus aureus, Streptococcus agalactiae และ Escherichia coli ประสิทธิภาพของสารเมทาโบไลท์ของแบคทีเรีย Xenorhabdus stockiae PB09 ในการยับยั้งแบคทีเรียก่อโรคเต้านมอักเสบในโคนม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair