สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพของฟอร์มาลีน โพวิโดน ไอโอดีน และสารสกัดสะเดาต่อการบ่มฟักไข่ปูทะเล (Scylla paramamosain Estampador, 1949)
สิริวรรณ หนูเซ่ง - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพของฟอร์มาลีน โพวิโดน ไอโอดีน และสารสกัดสะเดาต่อการบ่มฟักไข่ปูทะเล (Scylla paramamosain Estampador, 1949)
ชื่อเรื่อง (EN): Efficacy of Formalin, Povidone Iodine and Neem Extract Product on Incubation of Mud Crab (Scylla paramamosain Estampador, 1949) Eggs
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สิริวรรณ หนูเซ่ง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Siriwan Nooseng
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ปัจจุบันเกษตรกรนิยมเลี้ยงปูทะเลมากขึ้น ทำให้ความต้องการลูกพันธุ์เพิ่มขึ้น แต่กำลังการผลิตลูกพันธุ์ของโรงเพาะฟักและอนุบาลปูทะเลยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากปัญหาด้านอัตราฟักเป็นตัวของไข่และอัตรารอดของลูกปูทะเลยังต่ำ โดยงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้ ฟอร์มาลีน โพวิโดน-ไอโอดีน และสารสกัดสะเดาที่ระดับความเข้มข้นและเวลาในการแช่ไข่ปูทะเลที่ต่างกันต่ออัตราการฟักและผลต่อความแข็งแรงของลูกปูระยะซูเอี้ย 1 ผลการศึกษาพบว่า ระดับความเข้มข้นของทั้งฟอร์มาลีน โพวิโดน-ไอโอดีน และสารสกัดสะเดามีอิทธิพลร่วมกันกับระยะเวลาที่ใช้แช่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P?0.05) โดยการทดลองย่อยที่ 1 พบว่าไข่ปูทะเลที่แช่ด้วยฟอร์มาลีน ระดับความเข้มข้น 50 ppm นาน 20 นาที มีอัตราการฟักสูงที่สุด 29.70?4.06 เปอร์เซ็นต์ การทดลองย่อยที่ 2 ไข่ปูที่แช่ด้วยโพวิโดน-ไอโอดีน 10 ppm นาน 20 นาที มีอัตราการฟักสูงที่สุด 28.61?1.84 เปอร์เซ็นต์ และการทดลองย่อยที่ 3 ไข่ปูที่แช่ด้วยสารสกัดสะเดา 2,000 ppm นาน 10 นาที มีอัตราการฟักสูงสุด 24.79?1.18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอัตราการฟักที่ดีที่สุดของไข่ปูทะเลที่แช่ในทั้ง 3 สารเคมีดังกล่าวมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P?0.05) กับอัตราการฟักของไข่ปูทะเลชุดควบคุมที่ไม่แช่สารเคมี ส่วนการทดสอบความแข็งแรงของลูกปูระยะซูเอี้ย 1 ที่ได้จากการแช่ไข่ด้วยสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ด้วยวิธีให้ลูกปูอดอาหารเทียบกับชุดควบคุม พบว่าลูกปูที่ฟักหลังจากแช่ไข่ด้วยฟอร์มาลีน ความเข้มข้น 50 ppm นาน 20 นาที มีระยะเวลาการรอดตายเฉลี่ยนานที่สุด คือ 1.57?0.07 วัน และมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P?0.05) เมื่อเทียบกับอัตรารอดของลูกปูชุดควบคุมที่ไม่ได้แช่สารเคมี ส่วนลูกปูที่แช่ไข่ด้วยโพวิโดน-ไอโอดีน 10 ppm นาน 20 นาที และแช่สารสกัดสะเดา 2,000 ppm นาน 10 นาที มีระยะเวลาการรอดตายเฉลี่ย 1.29?0.07 วัน และ 1.21?0.07 วัน ตามลำดับ ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (P>0.05) กับชุดควบคุม ที่มีระยะเวลาการรอดตายเฉลี่ย 1.23?0.05 วัน ในขณะที่การทดสอบความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงความเค็มอย่างฉับพลัน พบว่าลูกปูทั้งไม่แช่และแช่ด้วยทุกชนิดสารเคมีตายหมดภายในเวลา 10 นาที และไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (P>0.05) กับชุดควบคุม นอกจากนี้เมื่อนำชุดการทดลองที่มีอัตราการฟักที่ดีที่สุดคือ ลูกปูที่ผ่านการแช่ไข่ด้วยฟอร์มาลีน 50 ppm นาน 20 นาที มาศึกษาการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางสัณฐานวิทยาเทียบกับชุดควบคุม พบว่า ผลการวัดขนาดของลูกปูระยะซูเอี้ย 1 ไม่แตกต่างกันทางสถิติ (P>0.05) กับชุดควบคุมที่ไม่มีการแช่ไข่ด้วยสารเคมีก่อนนำมาฟักมีประสิทธิภาพในการเพิ่มอัตราการฟัก และไม่ส่งผลกระทบต่อความแข็งแรง และการเปลี่ยนแปลงทางสัณฐานวิทยาของลูกปู ซึ่งฟอร์มาลีนเป็นสารเคมีที่หาได้ง่าย และมีราคาไม่สูงมากนัก จึงมีความเหมาะสม และแนะนำให้ใช้แช่ไข่ปูทะเลเพื่อเพิ่มอัตราการฟักของปูทะเลได้
บทคัดย่อ (EN): Interest in the culture of mud crab has increased and resulted in high demand for crab seed. To enhance the production of good quality seed, efforts have been put in by numbers of hatcheries, however, supply is still insufficient as the hatching rate, survival rate constantly play as the major constraints in the production system. This study was conducted to determine the effect of formalin, povidone-iodine and neem extract with different concentrations and durations of bathing mud crab eggs on the hatching rate improvement and newly hatched larvae performance. The larvae performance was evaluated using starvation tolerance test, salinity tolerance test. In addition, the effect on zoea morphology development was also investigated. The results showed significantly the interaction between concentration of each type of chemical and bathing duration. The highest average percentage hatching rate of 50 ppm formalin for 20 min was 29.70?4.06% followed by 10 ppm povidone-iodine for 20 min (28.61?1.84%) and 2,000 ppm neem extract for 10 min (24.79?1.18%), respectively, which all three chemical treatments showed significantly different (P?0.05) of hatching rate in comparisons between the control group (14.17?4.09%). For the starvation tolerance test, the hatched larvae from the egg treated with 50 ppm formalin for 20 min showed significant (P?0.05)average survival duration at 1.57?0.07 day when compared to the control group (1.23?0.05 day). Whilst the average survival duration of larvae from 10 ppm povidone-iodine/20min (1.29?0.07 day); 2,000 ppm neem extract/10 min (1.21?0.07 day) were not statistically significant (P>0.05) in comparisons with control group (1.23?0.05 day). However, the salinity tolerance test of larvae from all treatments which found 100% death within 10 min, showing no significant difference (P>0.05) with the control group. In addition, the morphology of zoea1 was observed with no significant difference (P>0.05) when treating crab eggs with 50 ppm formalin for 20 min compared to control group.This study indicates that treating of mud crab eggs with formalin at the concentration of 50 ppm for 20 min can increase hatching rate, no adverse effect on larval performance and morphological development. Thus, we recommend the treatment of mud crab eggs with formalin which is easily available and low cost treatment for routine use to improve crab egg hatchability
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: โพวิโดน-ไอโอดีน
คำสำคัญ (EN): Povidone-Iodine
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพของฟอร์มาลีน โพวิโดน ไอโอดีน และสารสกัดสะเดาต่อการบ่มฟักไข่ปูทะเล (Scylla paramamosain Estampador, 1949)
กรมประมง
30 กันยายน 2558
กรมประมง
ความหลากหลายทางชีวภาพของปูบริเวณหมู่เกาะมัน จังหวัดระยอง การศึกษาปัจจัยทางกายภาพและชีวภาพที่เกี่ยวข้องกับอาการท้องแดงในปูทะเล (Scylla serrata) การตรวจสอบความเป็นพิษของสารสกัดสะเดาต่อการเกิดความผิดปกติของสารพันธุกรรมในปลา การตรวจสอบความเป็นพิษของสารสกัดสะเดาต่อการเกิดความผิดปกติของสารพันธุกรรมในไส้เดือนดิน การควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม (Meloidogyne incognita) ของฝรั่งด้วยสารสกัดจากเชื้อรา เอคโตไมคอร์ไรซาบางชนิด ความหลากหลายทางชีวภาพของปูบริเวณหมู่เกาะล้าน พ้ทยา จ.ชลบุรี การประเมินความปลอดภัยของการใช้สารสกัดสะเดาด้วยวิธีตรวจผลต่อการเกิดความผิดปกติของสารพันธุกรรม (genotoxicity) ในสิ่งมีชีวิต และพิษต่อพืช (phytotoxicity) การศึกษาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตสารสกัดสะเดาไทยเชิงธุรกิจ ผลของอาหาร 3 ชนิด ต่อการพัฒนารังไข่แม่พันธุ์ปูทะเล (Scylla paramamosain Estampador, 1949) การผลิตพ่อแม่พันธุ์ปูทะเล (Scylla paramamosain Estampador, 1949) จากลูกพันธุ์ที่เพาะฟักได้จากโรงเพาะฟัก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก