สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาวิธีการตรวจสอบแกมมาโอรีซานอลและวิตามินอีในน้ำมันรำข้าวแบบรวดเร็วด้วยสเปกโตรสโคปีอินฟราเรดย่านใกล้
ปราณีต โอปณะโสภิต - มหาวิทยาลัยศิลปากร
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาวิธีการตรวจสอบแกมมาโอรีซานอลและวิตามินอีในน้ำมันรำข้าวแบบรวดเร็วด้วยสเปกโตรสโคปีอินฟราเรดย่านใกล้
ชื่อเรื่อง (EN): Development of a rapid method for determination of gamma-oryzanol and vitamin E in rice bran oil
บทคัดย่อ: แกมมาโอรีซานอลและวิตามินอีเป็นสารต้านการเกิดออกซิเดชันตามธรรมชาติที่มีปริมาณสูงในน้ำมันรำข้าว งานวิจัยนี้ได้ศึกษาการพัฒนาวิธีการตรวจสอบปริมาณแกมมาโอรีซานอลและวิตามินอี (ในรูปของแอลฟาโตโคฟีรอล) ด้วยเทคนิคสเปกโตรสโคปีอินฟาเรดย่านใกล้ (NIRS) ในน้ำมันรำข้าว โดยการเตรียมระบบจำลอง 3 ระบบคือ เฮกเซน กรดไขมันสายกลาง (MCF) และ 10% MCF ในเฮกเซน และใช้NIRS ติดตามปริมาณแกมมาโอรีซานอลในระหว่างการให้ความร้อนใน MCF ผลการศึกษาพบว่าสมการทำนายปริมาณแกมมาโอรีซานอลที่สร้างขึ้นจากเฮกเซนให้ค่า R2 และ RPD สูงที่สุดคือ 99.89, 63.9 mg/L โดยให้ค่า RMSECV ต่ำที่สุดคือ 4.53 mg/L ขณะที่สมการทำนายปริมาณแอลฟาโตโคฟีรอลที่สร้างขึ้นจาก 10% MCF ในเฮกเซนให้ค่า R2 และ RPD สูงที่สุดคือ 99.33, 12.2 mg/L และมี RMSECV ที่ต่ำคือ 1.23 mg/L เมื่อนำสมการทำนายที่ได้จากทั้งสามระบบมาใช้ในการทำนายปริมาณแกมมาโอรีซานอล และแอลฟาโตโคฟีรอลในน้ำมันรำข้าวที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดจำนวน 27 ตัวอย่างพบว่าสมการทำนายปริมาณแกมมาโอรีซานอลที่สร้างจาก 10% MCF ในเฮกเซนให้ค่า RMSEP ต่ำที่สุดคือ 225 mg/L และสมการทำนายปริมาณแอลฟาโตโคฟีรอลที่สร้างจากเฮกเซนให้ค่า RMSEP น้อยที่สุดคือ 29.59 mg/L เมื่อนำสมการทำนายปริมาณแกมมาโอรีซานอลไปใช้ในการติดตามปริมาณแกมมาโอรีซานอลขณะให้ความร้อนที่ 180 – 220 องศาเซลเซียส พบว่าผลการทำนายมีค่า RMSEP และ bias ที่สูงมากคือ 478 ถึง 407 mg/L และ 403 ถึง 388 mg/L ตามลำดับ ทำให้ไม่สามารถนำไปใช้ในการศึกษาจลนพลศาสตร์ด้วยเทคนิคสเปกโตรสโคปีอินฟาเรดย่านใกล้ได้ แต่การศึกษาจลนพลสาสตร์จากปริมาณที่วิเคราะห์ด้วยโครมาโทรกราฟีของเหลวความดันสูงพบว่าการสลายตัวของแกมมาโอรีซานอลสามารถอธิบายได้ด้วยสมการ Weibull โดยมีค่าคงที่ของปฏิกิริยา (?) ที่อุณหภูมิ 180 200 และ 220 องศาเซลเซียสคือ 0.0331 0.0227 และ 0.0538 h-1 ตามลำดับ คำสำคัญ: แกมมาโอรีซานอล แอลฟาโตโคฟีรอล สเปกโตรสโคปีอินฟาเรดย่านใกล้ จลนพลศาสตร์
บทคัดย่อ (EN): ?-Oryzanol and vitamin E are natural antioxidants found in rice bran oil at high amount. This study evaluated the potential of near infrared spectroscopy (NIRS) for determining the quantity of ?-oryzanol and vitamin E (as ?-tocopherol) in rice bran oil using models built from 3 different model systems i.e. hexane, medium chain fatty acids (MCF) and hexane containing 10% MCF and its application on determining the thermal degradation kinetics of ?-oryzanol in MCF. The results showed that the ?-oryzanol prediction model built from hexane gave better performance than other models with the highest R2 and RPD of 99.89, 63.9 mg/L, respectively and lowest RMSECV of 4.53 mg/L while the ?-tocopherol prediction model built from hexane containing 10% MCF gave the highest R2 and RPD of 99.33, 12.2 mg/L, respectively and lowest RMSECV of 1.23 mg/L. The result of prediction tested with 27 commercial rice bran oil samples showed that ?-oryzanol prediction model built from hexane containing 10% MCF gave the lowest RMSEP of 225 mg/L whereas ?-tocopherol prediction model built from hexane gave the lowest RMSEP of 29.59 mg/L. The result of its application on determining the thermal degradation kinetics of ?-oryzanol in MCF at 180-220?C showed that the model gave high RMSEP and bias of 478-407 mg/L and 403- 388 mg/L, respectively which could not be used for evaluating the thermal degradation kinetics. Nevertheless, the result of thermal degradation kinetics of ?-oryzanol obtained from data of high performance liquid chromatography analysis showed that thermal degradation of ?-oryzanol can be described by Weibull model with the rate constant (?) at 180, 200, and 220 ?C of 0.0331 0.0227 and 0.0538 h-1, respectively. Keywords: ?-oryzanol, ?-tocopherol, NIRS, kinetics
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยศิลปากร
คำสำคัญ: การสลายตัว
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาวิธีการตรวจสอบแกมมาโอรีซานอลและวิตามินอีในน้ำมันรำข้าวแบบรวดเร็วด้วยสเปกโตรสโคปีอินฟราเรดย่านใกล้
มหาวิทยาลัยศิลปากร
30 กันยายน 2558
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การวิเคราะห์ปริมาณสารแกมมาโอรีซานอลและสมบัติบางประการในระหว่างกระบวนการผลิตน้ำมันรำข้าวบีบเย็น น้ำมันรำข้าวเพื่อสุขภาพ การพัฒนาวิธีการตรวจสอบคุณภาพของผลิตผลการเกษตร และผลิตภัณฑ์อาหารอย่างรวดเร็วด้วยเทคนิคสเปกโตรสโคปีอินฟราเรดย่านใกล้ การพัฒนาวิธีการตรวจสอบปริมาณสารประกอบฟีนอลิกในมังคุดและ มะขามป้อมด้วยเทคนิคสเปกโตรสโคปีอินฟราเรดย่านใกล้ คุณค่าของรำข้าว การใช้เทคนิคสเปกโตรสโคปีอินฟราเรดย่านใกล้ในการวิเคราะห์แอนโธไซยานินส์และความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของข้าวกล้องและข้าวกล้องงอก การพัฒนาเชื้อราไตรโคเดอร์มาปฏิปักษ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดโรคข้าวเป็นชีวภัณฑ์เชิงพาณิชย์ การวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ตรวจวัดอัตราการขัดสีข้าว ประสิทธิภาพการติดตามคุณภาพของน้ำอ้อยในขบวนการต้มระเหยด้วยสเปกโตรสโคปีอินฟราเรดย่านใกล้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก