สืบค้นงานวิจัย
การเจริญและพัฒนาของเนื้อเยื่อต้นอ่อนมะขามหวานในหลอดแก้ว
เบญจพร ศรีสุวรมาศ - มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
ชื่อเรื่อง: การเจริญและพัฒนาของเนื้อเยื่อต้นอ่อนมะขามหวานในหลอดแก้ว
ชื่อเรื่อง (EN): Growth and Development of Embryonic Tissue of Sweet Thamarind
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เบญจพร ศรีสุวรมาศ
บทคัดย่อ: ต้นอ่อนของมะขามหวานพันธุ์ประกายทอง อายุ 3 สัปดาห์ จำนวน 800 ต้น ถูกเพาะขึ้นโดยเทคนิคปลอดเชื้อในหลอดแก้ว จากนั้นแต่ละต้นนำมาตัดออกเป็น 5 ชิ้นส่วน คือ (1) ปลายยอดหรือชูททิป, (2) ข้อที่ 1, (3) ลำต้นเหนือใบเลี้ยง, (4) ข้อใบเลี้ยงและ (5) ลำต้นใต้ใบเลี้ยง เนื้อเยื่อทั้ง 5 ชนิดถูกเลี้ยงในอาหารสูตร WPM ที่เติมฮอร์โมน NAA (0, 0.5, 1, 1.5 และ 2.0 ppm.) KIN (0, 1, 1.5, 2.0 และ 2.5 ppm.) และคู่ผสมของมัน (combination) ทรีเมนท์ละ 3 ซ้ำรวม 75 ทรีทเมนท์คอมพิเนชัน สังเกตการเจริญเติบโตของเนื้อเยื้อทุกชนิดทุกสัปดาห์เป็นเวลา 10 สัปดาห์ พร้อมทั้งศึกษากายวิภาคของเนื้อเยื่อที่กำลังเจริญทุกสัปดาห์ โดยเทคนิคการฝังตัวอย่างลงในพาราฟิน สำหรับแคลลัสที่เกิดขึ้นศึกษาคุณสมบัติของการเกิดเอมบริโอโดยการนำลงเลี้ยงในอาหารเหลวและเขย่าตลอดเวลา จากการทดลองทั้งหมดพบว่า ทุกทรีเมนทเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในอาหารสูตร WPM ที่เติม KIN 2.0 ppm. ยอดอ่อนที่เกิดจากชูททิปเจริญเติบโตสูงขึ้นถึง 2 ซม. เกิดใบเดี่ยวเฉลี่ย 3.5 ใบต่อต้น แต่ไม่เกิดรากแม้ย้ายไปเลี้ยงในอาหารสร้างราก (WPM + IAA0.7 ppm. + IBA 2.8 ppm.) สำหรับข้อที่ 1 เกิดยอดใหม่เฉลี่ย 2 ยอดต่อข้อ ความสูงเฉลี่ย 4.5 ซม. ใบประกอบเฉลี่ย 3.5 ใบต่อยอด ไม่เกิดราก ลำต้นเหนือใบเลี้ยง สัปดาห์แรกยาวขึ้นเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ไม่เจริญเติบโต แห้งละตายไปในสัปดาห์ที่ 2 ส่วนข้อใบเลี้ยงเกิดยอดใหม่เฉลี่ย 3.5 ยอดต่อข้อ ความสูงเฉลี่ย 5.5 ซม.ต่อยอด เกิดรากเฉลี่ย 2.5 รากต่อข้อ และมีใบประกอบเฉลี่ย 4.3 ใบต่อยอด และมีเพียงทรีทเมนท์เดียวที่เกิดราก คือ WPM + KIN 1.5 ppm. + NAA 2.0 ppm. แต่ท่อลำเลียงของรากไปต่อโดยตรงกับท่อลำเลียงของยอดอ่อนที่เกิดใหม่สำหรับลำต้น ใต้ใบเลี้ยงเจริญเติบโตยาวขึ้น สร้างแคลลัส 2 แบบ คือ แบบสีเขียวและแข็งที่บริเวณของทั้ง 2 ข้างของข้อ (compact callas) กับแบบอ่อนนิ้มสีน้ำตาลใส โดยขึ้นรอบๆ ทั่วทั้งชิ้น (friable callus) ปริมาณแคลลัสที่สร้างมีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสูงสุด 5.4 แคลลัสทั้ง 2 แบบไม่เกิดเป็นเอมบริโอให้เป็นในอาหารแข็ง แต่ในอาหารเหลวพบเอมบริโอระยะรูปหัวใจ (heart shape) ต้นอ่อนทุกต้นทั้งที่เกิดจากข้อที่ 1 และข้อใบเลี้ยงรวมทั้งยอดอ่อนจากชูททิปที่สูงตั้งแต่ 2 ซม.ขึ้นไป เมื่อไปเลี้ยงในอาหารสร้างรากจะเจริญเติบโตสูงขึ้นเฉลี่ย 4.5 ซม. ต่อต้นและมีใบประกอบสมบูรณ์ขนาดใหญ่เฉลี่ย 5 ใบต่อต้น แต่ไม่เกิดรากเกิดเป็นแคลลัสแทน เนื้อเยื่อทุกชนิดของต้นอ่อนมะขามหวานเจริญได้ดีในอาหาร WPM ที่เติม KIN 2.0 ppm. (ยกเว้นข้อใบเลี้ยงที่เกิดราก) ความเข้มข้นนี้จะแตกต่างจากฮอร์โมนความเข้มข้นอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 99% (p<0.01) สำหรับการศึกษากายวิภาคโดยดูจากภาพโฟโตไมโครกราฟ พบว่า ยอดอ่อนเจริญออกมาจากบริเวณกลุ่มท่อลำเลียงของลำต้น แคลลัสเจริญจากอิพิเดอร์มิส สำหรับรากก็เจริญเปลี่ยนแปลงมาจากลุ่มท่อลำเลียงของลำต้นเช่นเกันและมีรากขนอ่อนโดยรอบเช่นเดียวกับรากปกติของต้นที่เกิดตามธรรมชาติ The 800 seedings of sweet tamarind (Prakayhong) were germinated by aseptic tecanique and then each was cut into 5 explants : (1) shoot tip, (2) first node, (3) epicotyl segments (4) cotyledonary nod and (5) hypocotyl segment. Each tissue segment was cultured in WPM with NAA (0,0.5,1,1.5 and 2.0 ppm.), KIN (0,1,1.5,2 and 2.5 ppm.) and its combination with 3 replications. All 75 treatment combinations were cultured to 10 weeks. Each treatment was observed every week in number of new shoot and root, length of shoot and root, degree of callus formation callus formation and also number of leaves of the plantlets, simultaneously anatomical studies by paraffin techniques were conducted to confirm the origin of shoot, root and callus. All treatments were evaluated at 10 weeks of culture, and found that they were induced at 2.0 ppm. of KIN. The shoot tip gave the highest mean shoot length of 2.0 cm. , 3.5 leaves per explant , mean shoot length was 4.5 cm. , and hightest mean number of leaf was 3.5 leaves per shoot bud, no root formation , only few of callus formation at the both and of explant. For epicotyl segment, no growth and development. All treatment of epicotyl segments died within 2 weeks. Cotyledonary nod explant could be induced by also 2.0 ppm. of KIN with the highest mean of shoot buds 3.5 shoots per explant, hightest mean of shoot length was 0.5 cm. Per shoot, mean number of root was 2.5 roots per explant with highest mean of root length 3 cm. And it gave mean number of compound leaf 4.3 leaves per shoot. Only one treatment of WPM + KIN 1.5 ppm. + NAA 2.0 ppm. gave roots, but the vaxcular bundle of new root did not direct contact to vascular bundle of shoot bud. Hypocotyl xegments produced only 2 kind of callus were compact and friable type no shoot and root were observed, but shoot bud originated from vascular bundle was found in photomicrograph, grew and developed to epidermis then more develop under callus, but did not protruth to out side. From anatomical studies presented by photomicrograph of each explant found that callus/calli were formed by epidermis in form of friable and compact callus, shoot and root originated from vascular bundle, And the in vitro root is similar to in vivo root. For embryogenesis studies found meristematic cell mass from photomicrograph of compact callus at 2 weeks of callus culture. Further more, in cell suspension culture of compact callus found meristematic cell mass at one week of culture, then found heart shape embryo at 2 weeks of culture. The treatment of 2.0 ppm. KIN in all kind of explants (except the treatment of rooted cotyledonary node segment ) were found that they have highly significant differences from the others at the level 99% (p<0.01)
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=35&RecId=38&obj_id=237
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
คำสำคัญ: การวิจัย
คำสำคัญ (EN): 581.8
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
รายละเอียด: ต้นอ่อนของมะขามหวานพันธุ์ประกายทอง อายุ 3 สัปดาห์ จำนวน 800 ต้น ถูกเพาะขึ้นโดยเทคนิคปลอดเชื้อในหลอดแก้ว จากนั้นแต่ละต้นนำมาตัดออกเป็น 5 ชิ้นส่วน คือ (1) ปลายยอดหรือชูททิป, (2) ข้อที่ 1, (3) ลำต้นเหนือใบเลี้ยง, (4) ข้อใบเลี้ยงและ (5) ลำต้นใต้ใบเลี้ยง เนื้อเยื่อทั้ง 5 ชนิดถูกเลี้ยงในอาหารสูตร WPM ที่เติมฮอร์โมน NAA (0, 0.5, 1, 1.5 และ 2.0 ppm.) KIN (0, 1, 1.5, 2.0 และ 2.5 ppm.) และคู่ผสมของมัน (combination) ทรีเมนท์ละ 3 ซ้ำรวม 75 ทรีทเมนท์คอมพิเนชัน สังเกตการเจริญเติบโตของเนื้อเยื้อทุกชนิดทุกสัปดาห์เป็นเวลา 10 สัปดาห์ พร้อมทั้งศึกษากายวิภาคของเนื้อเยื่อที่กำลังเจริญทุกสัปดาห์ โดยเทคนิคการฝังตัวอย่างลงในพาราฟิน สำหรับแคลลัสที่เกิดขึ้นศึกษาคุณสมบัติของการเกิดเอมบริโอโดยการนำลงเลี้ยงในอาหารเหลวและเขย่าตลอดเวลา จากการทดลองทั้งหมดพบว่า ทุกทรีเมนทเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในอาหารสูตร WPM ที่เติม KIN 2.0 ppm. ยอดอ่อนที่เกิดจากชูททิปเจริญเติบโตสูงขึ้นถึง 2 ซม. เกิดใบเดี่ยวเฉลี่ย 3.5 ใบต่อต้น แต่ไม่เกิดรากแม้ย้ายไปเลี้ยงในอาหารสร้างราก (WPM + IAA0.7 ppm. + IBA 2.8 ppm.) สำหรับข้อที่ 1 เกิดยอดใหม่เฉลี่ย 2 ยอดต่อข้อ ความสูงเฉลี่ย 4.5 ซม. ใบประกอบเฉลี่ย 3.5 ใบต่อยอด ไม่เกิดราก ลำต้นเหนือใบเลี้ยง สัปดาห์แรกยาวขึ้นเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ไม่เจริญเติบโต แห้งละตายไปในสัปดาห์ที่ 2 ส่วนข้อใบเลี้ยงเกิดยอดใหม่เฉลี่ย 3.5 ยอดต่อข้อ ความสูงเฉลี่ย 5.5 ซม.ต่อยอด เกิดรากเฉลี่ย 2.5 รากต่อข้อ และมีใบประกอบเฉลี่ย 4.3 ใบต่อยอด และมีเพียงทรีทเมนท์เดียวที่เกิดราก คือ WPM + KIN 1.5 ppm. + NAA 2.0 ppm. แต่ท่อลำเลียงของรากไปต่อโดยตรงกับท่อลำเลียงของยอดอ่อนที่เกิดใหม่สำหรับลำต้น ใต้ใบเลี้ยงเจริญเติบโตยาวขึ้น สร้างแคลลัส 2 แบบ คือ แบบสีเขียวและแข็งที่บริเวณของทั้ง 2 ข้างของข้อ (compact callas) กับแบบอ่อนนิ้มสีน้ำตาลใส โดยขึ้นรอบๆ ทั่วทั้งชิ้น (friable callus) ปริมาณแคลลัสที่สร้างมีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสูงสุด 5.4 แคลลัสทั้ง 2 แบบไม่เกิดเป็นเอมบริโอให้เป็นในอาหารแข็ง แต่ในอาหารเหลวพบเอมบริโอระยะรูปหัวใจ (heart shape) ต้นอ่อนทุกต้นทั้งที่เกิดจากข้อที่ 1 และข้อใบเลี้ยงรวมทั้งยอดอ่อนจากชูททิปที่สูงตั้งแต่ 2 ซม.ขึ้นไป เมื่อไปเลี้ยงในอาหารสร้างรากจะเจริญเติบโตสูงขึ้นเฉลี่ย 4.5 ซม. ต่อต้นและมีใบประกอบสมบูรณ์ขนาดใหญ่เฉลี่ย 5 ใบต่อต้น แต่ไม่เกิดรากเกิดเป็นแคลลัสแทน เนื้อเยื่อทุกชนิดของต้นอ่อนมะขามหวานเจริญได้ดีในอาหาร WPM ที่เติม KIN 2.0 ppm. (ยกเว้นข้อใบเลี้ยงที่เกิดราก) ความเข้มข้นนี้จะแตกต่างจากฮอร์โมนความเข้มข้นอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 99% (p
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเจริญและพัฒนาของเนื้อเยื่อต้นอ่อนมะขามหวานในหลอดแก้ว
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
2544
งานวิจัยเรื่อง การเติบโตและการเจริญของเนื้อเยื่อต้นอ่อนมะขามหวานในหลอดแก้ว รายงานการวิจัยเรื่อง ผลของการใช้สารกำจัดแมลงบางชนิดในการกำจัดหนอนคืบละหุ่งต่อการติดฝักอ่อนของมะขามหวานพันธุ์สีทองเบา รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ งานวิจัยการพัฒนารูปแบบการจัดการการตลาดธุรกิจชุมชนเพื่อการพึ่งพาตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงประเภทธุรกิจเกษตรของเกษตรกรปลูกมะขามหวานเพื่อการค้า จังหวัดเพชรบูรณ์ การวิจัยและพัฒนาเพิ่มผลผลิตมะขามหวานของเกษตรกรบ้านตะเบาะ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ การศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของสารหอมระเหยในมะขามหวานโดย FTIR รายงานการวิจัยโครงสร้างยึดเกาะชนิดแก้วไบโอแอททีพโดยกระบวนการโซลเจล สำหรับงานวิศวกรรมเนื้อเยื่อกระดูก รายงานการวิจัยเรื่อง การวัดประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของลูกปลาดุกวัยอ่อนต่อระดับโปรตีนในอาหารที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาลในจังหวัดเพชรบูรณ์ การศึกษาทางพฤกษเคมีของต้นข้าวหลาม : รายงานผลการวิจัย การศึกษาการเจริญของตัวอ่อนสุกรภายหลังฝากชั่วคราวในท่อนำไข่กระต่ายและนำฝากในสุกรตัวรับ : รายงานผลการวิจัย รายงานการวิจัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบเมล็ดขนุน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก