สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มใหม่ต่อการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Brown planthopper, Nilaparvata lugens (Stål)) และผลกระทบต่อมวนเขียวดูดไข่ (Mirid bug , Cyrtorhinus lividipennis Reuter)
สุกัญญา อรัญมิตร - กรมการข้าว
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มใหม่ต่อการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Brown planthopper, Nilaparvata lugens (Stål)) และผลกระทบต่อมวนเขียวดูดไข่ (Mirid bug , Cyrtorhinus lividipennis Reuter)
ชื่อเรื่อง (EN): Efficacy of new Insecticides group to brown planthopper (Nilaparvata Lugens (Stål)) and side-effect to mirid bug (Cyrtorhinus Lividipennis Reuter)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุกัญญา อรัญมิตร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sukanya Arunmit
บทคัดย่อ: เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเป็นแมลงศัตรูข้าวที่สำคัญในพื้นที่นาชลประทานภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำการศึกษาประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลง 9 ชนิด ในการ ควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ดำเนินการทดลองในแปลงเกษตรกร 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี นครนายก และอุบลราชธานีผลการทดลอง พบว่า sulfoxaflor 50 %WG และ pymetrozine 50 %WG มีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบอัตราส่วนระหว่างเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลต่อมวนเขียวดูดไข่ กรรมวิธีที่พ่นด้วยbuprofezin 25 %WP และ pymetrozine 50 %WG มีอัตราส่วนต่ำกว่ากรรมวิธีที่พ่นสารชนิดอื่น ซึ่งมีแนวโน้มว่าปลอดภัยต่อมวนเขียวดูดไข่มากกว่าสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงชนิดอื่น นอกจากนั้น เมื่อทดสอบหาระดับความเป็นพิษของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงต่อมวนเขียวดูดไข่ ด้วยวิธี leaf dipping พบว่า pymetrozine 50 %WG มีความเป็นพิษต่อมวนเขียวดูดไข่ต่ำที่สุด เท่ากับ 305.609 และ 60.891 mg a.i. L-1 ที่ 24 และ 48 ชั่วโมง ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Brown planthopper (BPH) is a major insect pest of irrigated rice cultivation areas in lower north, central and northeast Thailand. The field experiments were conducted to evaluate the efficacy of nine insecticides to control BPH in farmers’ fields at Suphan Buri, Nakhonayok and Ubon Ratchathani provinces. The results showed that the sulfoxaflor 50 % WG and pymetrozine 50 % WG were the most effective insecticides. The ratios of BPH/mirid bug (MB) in the buprofezin and pymetrozine fields were lower than other fields, which may indicate the less toxicity to MB compared with other insecticides. Moreover, toxicity of each insecticide to MB was investigated using a leaf dipping method and the result indicated that pymetrozine 50 % WG was the lowest toxicity to MB with the LC50 value of 305.609 and 60.891 mg a.i. L-1 at 24 and 48 h after treatment (HAT), respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://agkb.lib.ku.ac.th/rd/search_detail/result/328787
เผยแพร่โดย: กรมการข้าว
คำสำคัญ: ผลข้างเคียงของยา
คำสำคัญ (EN): Side effects
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมการข้าว
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มใหม่ต่อการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Brown planthopper, Nilaparvata lugens (Stål)) และผลกระทบต่อมวนเขียวดูดไข่ (Mirid bug , Cyrtorhinus lividipennis Reuter)
กรมการข้าว
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
กรมการข้าว
อาร์โทรปอตในระบบนิเวศน์นาข้าวพันธุ์อ่อนแอและพันธุ์ต้านทานต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี บทบาทของศัตรูธรรมชาติต่อการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Nilaparvata lugens (Stal) ในนาข้าว) ประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มใหม่ในการควบคุม เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Brown Planthopper, Nilaparvata lugens (Stål)) และผลกระทบต่อมวนเขียวดูดไข่ (Mirid bug , Cyrtorhinus lividipennis Reuter) สาเหตุของความต้านทานในข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Nilaparuata lugens (Stal) การพัฒนาแบบจำลองประชากรเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Nilaparvata lugens (Stal.) ในนาข้าว การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวต้านทานต่อความหลากหลายไบโอไทป์ของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Nilaparvata lugens Stål) ประสิทธิภาพในการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลของสารสกัดจากบอระเพ็ดในข้าว ผลของซิลิก้าในต้นข้าวต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ประสิทธิภาพของสารเคมีในการควบคุมเชื้อราสาเหตุโรคขั้วหวีเน่าของกล้วยน้ำว้า
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก