สืบค้นงานวิจัย
คุณค่าทางโภชนะของใบตอง และใบตองแปรรูปแบบต่างๆ
จุฑามาศ สิทธิวงศ์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
ชื่อเรื่อง: คุณค่าทางโภชนะของใบตอง และใบตองแปรรูปแบบต่างๆ
ชื่อเรื่อง (EN): Nutritive values of banana leave and Banana leave products
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จุฑามาศ สิทธิวงศ์
บทคัดย่อ: ได้ทำการศึกษาถึงคุณค่าทางอาหารของใบตอบและใบตองแปรรูปแบบต่าง ๆ ใช้โคสาวลูกผสมโฮสไตล์ฟรีเชี่ยน น้ำหนัก 310 กิโลกรัม จำนวน 12 ตัว โดยให้โคได้รับใบตองและใบตอบแปรรูปแบบต่าง ๆ เป็น 4 ช่วงการทดลอง แต่ละช่วงการทดลองเป็น 2 Periods คือ Period 1 ช่วง Preliminary period ใช้เวลา 14 วัน Period 2 ช่วง Collection period ในช่วงเวลา 7 วัน โดยที่ทุก ๆ วันโคได้รับใบตอง หรือใบตองแปรรูปแบบต่าง ๆ ในปริมาณ 20 กก/ตัว/วัน การวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของใบตองและใบตองแปรรูปแบบต่าง ๆ พบว่า ใบตองใบตองหมักกากน้ำตาล 5% ใบตองหมักยูเรีย 4% และใบตอง+รำละเอียด (1:1)+แป้งมัน 1%อัดเม็ด พบว่า ใบตอบมีปริมาณวัตถุแห้ง อินทรียวัตถุ โปรตีน ไขมัน NDF ADF ADL HC CL และ CC เป็น 87.98, 12.13, 7.08, 3.06, 54.24, 30.20, 6.01, 24.04, 24.19 และ 45.75 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ใบตองหมักกากน้ำตาล 5% มีค่าเป็น 89.67, 12.30, 6.33, 4.66, 58.31, 37.53, 5.21, 20.78, 32.32 และ 41.69 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ใบตองหมักยูเรีย 4% มีค่าเป็น 90.83, 11.53, 3.70, 3.20, 56.06 , 33.87, 5.63, 22.19, 18.24 และ 43.94 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และ ใบตอง+รำละเอียด (1:1)+แป้งมัน 1% อัดเม็ด มีค่าเป็น 83.40, 13.48, 4.01, 4.96, 56.75, 41.01, 5.61, 15.74, 35.4 และ 43.25 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ การศึกษาค่าสัมประสิทธิ์การย่อยได้ ด้วยวิธี In vivo digestibility พบว่า ใบตองหมักกากน้ำตาล 5% มีค่าการย่อยได้ ของวัตถุแห้งสูงสุด รองลงมาคือ ใบตอง โดยที่ใบตองหมักยูเรีย 4% มีค่าต่ำสุด (84.33, 82.62 และ 71.68 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ) ใบตองมีค่าการย่อยได้ของอินทรียวัตถุ สูงสุด รองลงมาคือ ใบตองหมักกากน้ำตาล 5% โดยที่ใบตองหมักยูเรีย 4% มีค่าต่ำสุด (85.67, 80.40 และ 76.52 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ) ใบตองหมักกากน้ำตาล 5% มีค่าการย่อยได้ของโปรตีนสูงสุด รองลงมาคือ ใบตอง โดยที่ใบตองหมักยูเรีย 4% มีค่าต่ำสุด (82.69, 80.60 และ 79.93 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ) The study was carried out to determine the nutritive values of banana leaves and banana leaves product. Twelve Holstein friesian Crossbred Cows, weighing 310 kg were divided into four groups. They were fed with banana leaves or banana leaves products at 20 kg per cow per day. There are 14 days of preliminary period and 7 days of collection period. The chemical composition of banana leaves in terms of dry matter (DM), organic matter (DM), crude protein (CP), fat (EE), NDF, ADF, ADL, hemicellulose, cellulose and cell contents were 87.98, 12.13, 7.08, 3.06, 54.24, 30.20, 6.01, 24.24, 24.19 and 45.75%, respectively. Banana leaves ensiled with 5% molasses were 89.67, 12.30, 6.33, 4.66, 58.31, 37.53, 5.21, 20.78, 32.32 and 41.69%, respectively. Banana leaves ensiled with 4% urea were 90.83, 11.53, 3.70, 3.20, 56.06, 33.87, 5.63, 22.19, 18.24 and 43.94%, respectively. Banana leaves + rice bran (1:1)+1% cassava starch were 83.40, 13.48, 4.01, 4.96, 56.75, 41.01, 5.61, 15.74, 35.1 and 43.25%, respectively. It was found that from the In vivo digestibility study, Banana leaves ensiled with 5% molasses had the highest dry matter digestibility (DMD), Banana leaves, Banana leaves ensiled with 4% urea were among the lowest values (84.33, 82.62 and 71.68%, respectively). For organic matter digestibility (OMD), it was found that Banana leaves had the highest values, Banana leaves ensiled with 5% molasses, Banana leaves ensiled with 4% urea were among the lowest values (85.67, 80.40 and 76.52%, respectively). The Banana leaves ensiled with 5% molasses gave the highest digestibility crude protein content, Banana leaves and the lowest DCP was from Banana leaves ensiled with 4% urea (82.69, 80.60 and 79.93% respectively)
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.lib.ubru.ac.th/thesis/Somporn_2546/title.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
คำสำคัญ: การประดิษฐด้วยใบตอง
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
รายละเอียด: ได้ทำการศึกษาถึงคุณค่าทางอาหารของใบตอบและใบตองแปรรูปแบบต่าง ๆ ใช้โคสาวลูกผสมโฮสไตล์ฟรีเชี่ยน น้ำหนัก 310 กิโลกรัม จำนวน 12 ตัว โดยให้โคได้รับใบตองและใบตอบแปรรูปแบบต่าง ๆ เป็น 4 ช่วงการทดลอง แต่ละช่วงการทดลองเป็น 2 Periods คือ Period 1 ช่วง Preliminary period ใช้เวลา 14 วัน Period 2 ช่วง Collection period ในช่วงเวลา 7 วัน โดยที่ทุก ๆ วันโคได้รับใบตอง หรือใบตองแปรรูปแบบต่าง ๆ ในปริมาณ 20 กก/ตัว/วัน การวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของใบตองและใบตองแปรรูปแบบต่าง ๆ พบว่า ใบตองใบตองหมักกากน้ำตาล 5% ใบตองหมักยูเรีย 4% และใบตอง+รำละเอียด (1:1)+แป้งมัน 1%อัดเม็ด พบว่า ใบตอบมีปริมาณวัตถุแห้ง อินทรียวัตถุ โปรตีน ไขมัน NDF ADF ADL HC CL และ CC เป็น 87.98, 12.13, 7.08, 3.06, 54.24, 30.20, 6.01, 24.04, 24.19 และ 45.75 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ใบตองหมักกากน้ำตาล 5% มีค่าเป็น 89.67, 12.30, 6.33, 4.66, 58.31, 37.53, 5.21, 20.78, 32.32 และ 41.69 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ใบตองหมักยูเรีย 4% มีค่าเป็น 90.83, 11.53, 3.70, 3.20, 56.06 , 33.87, 5.63, 22.19, 18.24 และ 43.94 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และ ใบตอง+รำละเอียด (1:1)+แป้งมัน 1% อัดเม็ด มีค่าเป็น 83.40, 13.48, 4.01, 4.96, 56.75, 41.01, 5.61, 15.74, 35.4 และ 43.25 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ การศึกษาค่าสัมประสิทธิ์การย่อยได้ ด้วยวิธี In vivo digestibility พบว่า ใบตองหมักกากน้ำตาล 5% มีค่าการย่อยได้ ของวัตถุแห้งสูงสุด รองลงมาคือ ใบตอง โดยที่ใบตองหมักยูเรีย 4% มีค่าต่ำสุด (84.33, 82.62 และ 71.68 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ) ใบตองมีค่าการย่อยได้ของอินทรียวัตถุ สูงสุด รองลงมาคือ ใบตองหมักกากน้ำตาล 5% โดยที่ใบตองหมักยูเรีย 4% มีค่าต่ำสุด (85.67, 80.40 และ 76.52 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ) ใบตองหมักกากน้ำตาล 5% มีค่าการย่อยได้ของโปรตีนสูงสุด รองลงมาคือ ใบตอง โดยที่ใบตองหมักยูเรีย 4% มีค่าต่ำสุด (82.69, 80.60 และ 79.93 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ) The study was carried out to determine the nutritive values of banana leaves and banana leaves product. Twelve Holstein friesian Crossbred Cows, weighing 310 kg were divided into four groups. They were fed with banana leaves or banana leaves products at 20 kg per cow per day. There are 14 days of preliminary period and 7 days of collection period. The chemical composition of banana leaves in terms of dry matter (DM), organic matter (DM), crude protein (CP), fat (EE), NDF, ADF, ADL, hemicellulose, cellulose and cell contents were 87.98, 12.13, 7.08, 3.06, 54.24, 30.20, 6.01, 24.24, 24.19 and 45.75%, respectively. Banana leaves ensiled with 5% molasses were 89.67, 12.30, 6.33, 4.66, 58.31, 37.53, 5.21, 20.78, 32.32 and 41.69%, respectively. Banana leaves ensiled with 4% urea were 90.83, 11.53, 3.70, 3.20, 56.06, 33.87, 5.63, 22.19, 18.24 and 43.94%, respectively. Banana leaves + rice bran (1:1)+1% cassava starch were 83.40, 13.48, 4.01, 4.96, 56.75, 41.01, 5.61, 15.74, 35.1 and 43.25%, respectively. It was found that from the In vivo digestibility study, Banana leaves ensiled with 5% molasses had the highest dry matter digestibility (DMD), Banana leaves, Banana leaves ensiled with 4% urea were among the lowest values (84.33, 82.62 and 71.68%, respectively). For organic matter digestibility (OMD), it was found that Banana leaves had the highest values, Banana leaves ensiled with 5% molasses, Banana leaves ensiled with 4% urea were among the lowest values (85.67, 80.40 and 76.52%, respectively). The Banana leaves ensiled with 5% molasses gave the highest digestibility crude protein content, Banana leaves and the lowest DCP was from Banana leaves ensiled with 4% urea (82.69, 80.60 and 79.93% respectively)
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
คุณค่าทางโภชนะของใบตอง และใบตองแปรรูปแบบต่างๆ
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
2546
ผลของยูเรียที่มีต่อคุณภาพใบตองกล้วยหมัก การทดสอบถั่วเขียวพันธุ์ต่างๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เทมเป้จากถั่วชนิดต่างๆ การเปรียบเทียบและคุณสมบัติบางประการของเห็ดหอมพันธุ์ต่างๆ การศึกษาลักษณะบางประการของข้าวโพดข้าวเหนียวพันธุ์ต่างๆ การเปรียบเทียบการใช้ปุ๋ยชนิดต่างๆ กับมะเขือเทศในฤดูฝน การศึกษาคุณค่าทางโภชนะของเปลือกกล้วยน้ำว้าในสุกรรุ่น ฤทธิ์กันชักของส่วนสกัดต่างๆ จากเมล็ดชุมเห็ดไทย การศึกษาประสิทธิภาพของเอนไซม์จากข้าวสาลีงอกพันธุ์ต่างๆ การศึกษาคุณค่าทางโภชนะของกากเมล็ดปาล์มน้ำมันในสุกรรุ่น
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก