สืบค้นงานวิจัย
ความเสียหายและความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกรจากภาวะน้ำท่วมในลุ่มน้ำชี: จังหวัดร้อยเอ็ด
วิเชียร เกิดสุข - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: ความเสียหายและความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกรจากภาวะน้ำท่วมในลุ่มน้ำชี: จังหวัดร้อยเอ็ด
ชื่อเรื่อง (EN): Damage and Ability of Farmers’ Adaptation from Flooding in Chi Basin: Roi Et Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิเชียร เกิดสุข
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Vichien Kekdsuk
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
บทคัดย่อ: "การศึกษาความเสียหายและความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกรจากภาวะน้ำท่วมในลุ่มน้าชี: กรณีจังหวัดร้อยเอ็ด มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกรในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม 2) ศึกษาภูมิปัญญาในการจัดการและการแก้ปัญหาน้ำท่วมของเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม และ 3) ศึกษาความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ-สังคมจากภาวะน้ำท่วมในจังหวัดร้อยเอ็ด ผลการศึกษา พบว่า พื้นที่เกษตรเสียหายจากน้ำท่วมของจังหวัดร้อยเอ็ดในช่วงปี พ.ศ.2547 ถึง ปี พ.ศ.2553 จำนวน 487,434 na 83,950 194,380 106,725 59,366 และ 172,948 ไร่ ตามลำดับ แต่พื้นที่น้ำท่วมจากภาพถ่ายดาวเทียมจะน้อยกว่ารายงานพื้นที่น้ำท่วมของจังหวัดเป็นอย่างมาก ในอนาคตจำเป็นต้องนำภาพน้ำท่วมจากการแปลภาพถ่ายดาวเทียมมาร่วมพิจารณาด้วย จะช่วยการลดความสูญเสียงบประมาณภาครัฐในการชดเชยความเสียหายให้แก่เกษตรกรที่เกินความเป็นจริงได้ ซึ่งในแต่ละปีทางราชการจ่ายเงินค่าชดเชยให้เกษตรกรเป็นจำนวนเงิน เป็นจำนวนเงิน 17.31 80.71 64.75 39.72 และ 28.29 ล้านบาท ตามลำดับ พื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมของจังหวัดร้อยเอ็ดจำแนกได้เป็น 3 ประเภทคือ 1) พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมไม่เกิน 3 ปีในรอบ 10 ปี 2) พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมทุก 4-7 ปีในรอบ 10 ปี และ 3) พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม 8-10 ปีในรอบ 10 ปี มีจำนวนพื้นที่ 158,616 718,646 และ 35,620 ไร่ ตามลำดับ ภูมิปัญญาในการจัดการและการแก้ปัญหาน้ำท่วมของเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธีการคือ การปิดกั้นทางน้ำเข้า ยกคันนาให้สูงขึ้น และระบายน้ำออกหรือสูบน้ำออกจากพื้นที่ สำหรับภูมิปัญญาในการจัดการและการแก้ปัญหาน้ำท่วมของชุมชนประกอบด้วย สร้างผนังกั้นน้ำ สร้างประตูปิดเปิดน้ำ สร้างคลองระบายน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ/ สูบน้ำออกจากพื้นที่ ผลการศึกษา พบว่า แม้ว่าเกษตรกรและชุมชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมจะมีการจัดการและการแก้ปัญหาน้ำท่วมของตนเองและชุมชน แต่วิธีการที่ใช้ในปัจจุบันยังไม่สามารถนำมาแก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเกษตรกรและชุมชนในการแก้ปัญหาน้ำท่วมยังไม่มีประสิทธิภาพและเกินความสามารถของชุมชนและเกษตรกร อย่างไรก็ตาม การจัดการและการแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยชุมชนจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า เนื่องจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นน้ำที่มาจาก จังหวัดอื่นที่อยู่เหนือจังหวัดร้อยเอ็ดอาทิ ชัยภูมิ ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในระยะเวลานานเกินที่ต้นข้าวจะยืนต้นอยู่ได้ จำเป็นต้องมีการแก้ไขอย่างเป็นระบบในระดับชุมชนและในระดับลุ่มน้ำสาขาย่อย และต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแล"
บทคัดย่อ (EN): "The objectives of this study area: 1.) to study the extent of damaged done, especially to farmers, due to flooding in Chi River Basin, Roi Et province; 2.) to study the affected farmers’ adaptation strategies as well as their ability to adapt; and 3.) to examine the utilization of local wisdoms on flood management and damage control in the flooded/flood-prone area. Using satellite imagery analysis, this study found that agricultural areas damaged from flooding during the period of 2004 to 2010 are significantly less than those reported by provincial/local authorities. The actual damaged areas are found to be as following: 487,434 rai (a unit of area, equal to 1600 square meters) in the year 2004; 83,950 (2006); 194,380 (2007); 106,725 (2008); 59,366 (2009); and 172,948 (2010). Moreover, during the same period, the government(s) has spent 17.31, 80.71, 64.75, 39.72 and 28.29 million baht, respectively, to compensate the affected farmers. However, the government often over-compensates due to data inaccuracy and for this reason, this study recommends that the public sector employ image satellite when assessing-evaluating the extent of damage done due to flooding for better accuracy. The flood-prone area in Roi Et province can separated into three categories: i.) areas that are likely to be flooded for 3 times in the period of ten years; ii.) area likely to be flooded for 4-7 times in the ten years; and lastly iii.) for 8-10 times in ten years. These areas cover, in respective order, 158,616; 718,646 and 35,620 rai. There are three methods of the so-called local wisdom that Thai Northeastern farmers often use for flood management and control. These are: i.) blocking ways that allow water to enter to their farms/fields; ii.) raising paddy bunds/ridges; and iii.) channeling/pumping water from the flooded areas. The surveyed community has made a dam, water gates, a canal system, and often has to install water pumps and/or manually pump water out of the flooded area. The results found that farmers, as individuals, have limited ability to prevent and solve the dire problem of flooding. However, as a collective or as a community, flood management is much more effective. Management and prevention of flooding should therefore be cooperated at the community level and also between watershed and the central state agencies."
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: ลุ่มน้ำชี
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

วิเชียร เกิดสุข. "ความเสียหายและความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกรจากภาวะน้ำท่วมในลุ่มน้ำชี: จังหวัดร้อยเอ็ดDamage and Ability of Farmers’ Adaptation from Flooding in Chi Basin: Roi Et Province". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2553

วิเชียร เกิดสุข. "ความเสียหายและความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกรจากภาวะน้ำท่วมในลุ่มน้ำชี: จังหวัดร้อยเอ็ดDamage and Ability of Farmers’ Adaptation from Flooding in Chi Basin: Roi Et Province". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2553. Print.



TARR Wordcloud:
ความเสียหายและความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกรจากภาวะน้ำท่วมในลุ่มน้ำชี: จังหวัดร้อยเอ็ด
วิเชียร เกิดสุข
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2553
การปรับตัวด้านมิติทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของชุมชนจากปัญหาน้ำท่วม บริเวณลุ่มน้ำมูลตอนล่าง:กรณีศึกษา อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี การศึกษาผลการปรับตัวของเกษตรกรต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การศึกษาผลการปรับตัวของเกษตรกรต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มนำ้มัน กรณีศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี การประเมินปริมาณน้ำท่วมและพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมในลุ่มน้ำน่านตอนบน การเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกรต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระบบการผลิตข้าวนาน้ำฝนอย่างยั่งยืนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกรต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ ในระบบการผลิต ข้าวนาน้ำฝนอย่างยั่งยืน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การศึกษาความสามารถในการรับน้ำหนักของผนังบล็อกประสานที่ถูกน้ำท่วมขัง การปรับตัวด้านกายวิภาคศาสตร์ใบของพืชในป่าชายเลนทางภาคตะวันออก ของประเทศไทย อาหารปลอดภัยในช่วงน้ำท่วม 2
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair