สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาผลของการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์(PGPR) ต่อการดึงดูดธาตุอาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของลำไย
นงลักษณ์ ปูระณะพงษ์ - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การศึกษาผลของการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์(PGPR) ต่อการดึงดูดธาตุอาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของลำไย
ชื่อเรื่อง (EN): Effects of Abucular Mycorrhiza Fungi and Plant Growth Promoting Rhizobacteria (PGPR) on Nutrients Uptake, Growth and Yield of Longan
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นงลักษณ์ ปูระณะพงษ์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nongluck Puranapong
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
ชุดเอกสาร: การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการผลิตลําไยอินทรีย์
บทคัดย่อ: การศึกษาการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์ (PGPR) ต่อการดึงดูดธาตุอาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของลำไย แบ่งออกเป็น 3 การทดลองย่อย ประกอบไปด้วย 1) การสำรวจและเก็บตัวอย่างเชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาในดินบริเวณใต้ทรงพุ่มจากสวนลำไย 6 อำเภอ เขตจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน 2) การศึกษาการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์ (PGPR) ต่อการดึงดูดธาตุอาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของลำไย 3) การทดลองประสิทธิภาพของเชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาต่อการเจริญเติบโตของต้นกล้าลำไยในกระถาง จากการสำรวจและเก็บตัวอย่างเชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาในดินบริเวณใต้ทรงพุ่มจากสวนลำไย 6 อำเภอ เขตจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ได้แก่ อำเภอสันป่าตอง, อำเภอหางดง, อำเภอสารภี, อำเภอแม่ออน, อำเภอแม่ทา และอำเภอทุ่งหัวช้าง โดยเก็บตัวอย่างดินจากบริเวณโคนต้นลำไยเพื่อตรวจสอบหาจำนวนและลักษณะของสปอร์ในดิน จากการศึกษาพบว่า ปริมาณเชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซา ของตัวอย่างดินทั้ง 6 อำเภอมีค่าเฉลี่ย 17.0 สปอร์/ดิน 10 กรัม โดยพบว่าที่อำเภอสารภีมีปริมาณสปอร์หนาแน่นสูงที่สุดคือ 19.67 สปอร์/ดิน 10 กรัม และไม่แตกต่างในทางสถิติกับอำเภออื่น รูปร่างลักษณะสปอร์โดยทั่วไปค่อนข้างกลม แต่มีความหลากหลายของสีสปอร์ เช่นสีดำ ขาว เหลือง ส้ม ส้มแดง และขาวเหลือง เป็นต้น สำหรับผลของการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์ (PGPR) ต่อการดึงดูดธาตุอาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของลำไย ในสภาพแปลงปลูกที่ทำการศึกษาในสวนลำไยอินทรีย์ เขตอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ทำการศึกษาเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยวางแผนการทดลองแบบ RCRD ประกอบด้วย 4 สิ่งทดลอง 3 ซ้ำ ประกอบไปด้วย 1) ตำรับควบคุม 2)เชื้อราวีเอไมคอร์ไรซา (กรมวิชาการเกษตร) 3) ผลิตภัณฑ์พีจีพีอาร์ (กรมวิชาการเกษตร) 4) เชื้อราวีเอไมคอร์ไรซาร่วมกับพีจีพีอาร์ จากการทดลองพบว่า ค่าความเป็นกรด-ด่างของดินระดับบน โดยเฉลี่ยลดลงเล็กน้อย โดยการใช้ PGPR มีผลทำให้ค่าความเป็นกรด-ด่างสูงกว่าตำรับอื่น ขณะที่พบว่าปริมาณอินทรียวัตถุเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดินก่อนการทดลอง สำหรับปริมาณฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่สกัดได้ลดต่ำลงทั้งในปีการทดลองที่ 1 และปีการทดลองที่ 2 เหลือเพียง 15.5 และ 7.5 mgP/kg และปริมาณโพแทสเซียม เหลือเพียง 361 และ 392 mgK/kg ตามลำดับ สำหรับผลการวิเคราะห์หาคุณสมบัติทางเคมีของดินในดินระดับล่างเกือบจะไม่มีความแตกต่างเมื่อเทียบกับดินก่อนการทดลองยกเว้นปริมาณอินทรียวัตถุที่เพิ่มขึ้นจาก 3.11% เป็น 3.58% หลังการใส่ตำรับทดลองในปีที่ 1 แต่กลับลดลงเหลือเพียง 2.85% เมื่อเสร็จสิ้นงานทดลองในปีที่ 2 โดยพบว่าการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาเพียงอย่างเดียวใต้ทรงพุ่มลำไย มีผลทำให้ปริมาณฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่สกัดได้สูงกว่าตำรับอื่นๆ ทั้งในดินระดับบนและดินระดับล่าง การทดลองประสิทธิภาพของเชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาต่อการเจริญเติบโตของต้นกล้าลำไยในกระถาง โดยวางแผนการทดลองแบบ CRD มี 8 Treatment 3 ซ้ำ (Replication) ประกอบด้วย 1) ตำรับควบคุม (Control) 2) สปอร์เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาจากสวนลำไยอำเภอสันป่าตอง 3) สปอร์เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาจากสวนลำไยอำเภอหางดง 4) สปอร์เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาจากสวนลำไยอำเภอสารภี 5) สปอร์เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาจากสวนลำไยอำเภอแม่ออน 6) สปอร์เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาจากสวนลำไยอำเภอทุ่งหัวช้าง 7) สปอร์เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาจากสวนลำไยอำเภอแม่ทา 8) เชื้อราวีเอไมคอร์ไรซาของกรมวิชาการเกษตร จากการทดลองพบว่าเชื้อราไมคอร์ไรซาที่คัดเลือกได้จากอำเภอแม่ทามีความสามารถในการเข้ารากสูงที่สุดและปริมาณสปอร์ไมคอร์ไรซาสูงที่สุดหลังจากการใส่เชื้อนาน 12 เดือน การเจริญเติบโตในด้านความสูง ความกว้างทรงพุ่มและความยาวของทรงพุ่มตอบสนองต่อเชื้อราไมคอร์ไรซาจากอำเภอแม่ทาสูงที่สุด ปริมาณไนโตรเจน และโพแทสเซียมของตัวอย่างใบลำไยในระยะ 6 เดือน ไม่มีความแตกต่างในทางสถิติ เชื้อราไมคอร์ไรซาที่คัดได้จากอำเภอสันป่าตอง ส่งผลให้ปริมาณฟอสฟอรัสของใบลำไยระยะ 6 เดือนสูงที่สุด เชื้อไมคอร์ไรซาจากอำเภอสารภีส่งผลให้ปริมาณไนโตรเจนของใบลำไยที่ระยะ 12 เดือนสูงที่สุด (P<0.05) ปริมาณฟอสฟอรัสในตัวอย่างใบลำไยระยะ 12 เดือนสูงที่สุดเมื่อมีการใส่เชื้อวีเอไมคอร์ไรซาจากกรมวิชาการเกษตรและอำเภอสันป่าตองแต่ไม่มีความแตกต่างในทางสถิติกับอำเภอแม่ทา อำเภอทุ่งหัวช้างและอำเภอหางดง ปริมาณโพแทสเซียมในใบลำไยระยะ 12 เดือนอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปริมาณโพแทสเซียมในระยะ 6 เดือนและไม่มีความแตกต่างในทางสถิติกับทุกตำรับทดลอง
บทคัดย่อ (EN): To study the effect of abuscular mycorrhiza fungi and plant growth promoting rhizobacteria (PGPR) on nutrients uptake, growth and yield of longan was consisted of 3 experiments as follow; 1) to survey and collected abuscular mycorrhiza under longan canopies, 2) to study the usage of abuscular mycorrhiza and PGPR on nutrients uptake ,growth and yield of longan and 3) to evaluate the efficiency of abuscular mycorrhiza on longan seeding growth in pot experiment. The variation and population of abuscular mycorrhiza fungi under longan canopies was studied from sampled that collected from different orchard at 6 districts in Chiang mai and Lamphun provinces such as Sapatong, Hong Dong, Saraphee, Mae On, Mae Tha and Thung Hua Chang. Soil samples were analyzed to count the population and characteristic of abucular mycorrhiza spores by complete randomized design with 3 replications. The result shows the average of population of mycorrhiza as 17.0 spores/ 10 g soil. At Saraphee district, the population of mycorrhiza got the peak at 19.67 spores/10 g soil but not significant with others. Normally, the shape of spores reported in often circle or oval shape, and they have many colors like black, white, yellow, orange, orange-red, white-yellow, etc. The respond of the usage of abuscular mycorrhiza and PGPR on nutrients uptake, growth and yield of longan at Doi Saket district orchard was studied 2 annuals by randomized complete block design (RCBD) with 4 treatments and 3 replications. The treatments consisted of control, mycorrhiza (AMF) of DOA, PGPR of DOA and AMF+PGPR. The result found that the average of soil pH in topsoil slightly decreased and the applied only PGPR caused the soil pH higher than other treatments. Organic matter was slightly increased compared with soil sample before treated. Extractable phosphorus and potassium were reduced in the end of experiment on the first and second years after application of treatments to 15.5 and 7.5 mgP/kg, 361 and 392 mgK/kg respectively. On subsoil level, the soil chemical properly showed in rarely non significant compared with soil samples before started experiment. However, organic matter was increased from 3.11% to 3.58% at the first year experiment, but reduced to 2.85% in the end of second year. The application of only mycorrhiza under Longan canopy caused majority of extractable phosphorus and potassium higher than other treatments both in top and subsoil. The efficiency of abucular mycorrhiza fungi on longan seeding growth in pot experiment was study with 8 treatments as follow by different source of AMF from Sapatong, Hong Dong, Saraphee, Mae On, Mae Tha, Thung Hua Chang and DOA comparing with control treatment. The experimental trial was designed by complete randomized design (CRD) with 3 replications. The result showed that AMF of Mae Tha site caused the highest percentage of root colonization and spores mycorrhiza after 12 months inoculated. The high, width and length of canopy were recorded at the peak with AMF of Mae Tha treatment. The concentrations of nitrogen and potassium in longan leave samples at 6 months were not significant among treatments. However, AMF of Sapatong caused the highest phosphorus content in longan leave samples at 6 months. In addition, AMF of Saraphee provide the highest nitrogen content in longan leave samples at 12 months (P<0.05). Moreover, phosphorus in longan leave at 12 months was in the highest level by AMF of DOA and Sapatong but did not significant from AMF of Mae Tha, Thung Hua Chang and Hong Dong. The concentration of potassium in longan leave at 12 months got level off the samples at 6 months and no significantly different among treatments.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://librae.mju.ac.th/goverment/20111119104834_librae/File20130924165237_15806.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: อะโซโตแบคเตอร์
คำสำคัญ (EN): Nutrition
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาผลของการใช้เชื้อราอาบัสคูล่าไมคอร์ไรซาและพีจีพีอาร์(PGPR) ต่อการดึงดูดธาตุอาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของลำไย
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2555
ผลของสาร Trinexapac-ethyl สารเร่งการสุกแก่ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตน้ำตาลของข้าวฟ่างหวาน ผลของการตัดช่อดอกที่ช่วงระยะการเจริญเติบโตแตกต่างกัน ที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวฟ่างหวาน ผลของปุ๋ยหมักเติมอากาศต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของดาวเรือง ผลของการใช้วัสดุคลุมแปลงปลูกที่แตกต่างกันที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของฟ้าทะลายโจร ผลของการใช้วัสดุอินทรีย์เหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อการปรับปรุงดินต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวหอมกระดังงา (สายพันธุ์พื้นเมือง) การลดต้นทุนการผลิตลำไยโดยการจัดการธาตุอาหารและวัสดุเสริมที่เหมาะสม ผลของการพรางแสงที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของหญ้ารีแพร์ (Centotheca lappacea (L.) Desv.) ประมาณการให้น้ำชลประทานที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและผลผลิตที่เหมาะสมของหญ้าปักกิ่ง ผลของปริมาณน้ำชลประทานที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของผักคาวตอง (Houttuynia cordata Thunb.) ผลของการตัดช่อดอกที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของหญ้าหวาน (Stevia rebaudiana Bertoni)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก