สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำและปุ๋ยแก่พืชสำคัญบนพื้นที่สูง
นภาพร จิตต์ศรัทธา - สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำและปุ๋ยแก่พืชสำคัญบนพื้นที่สูง
ชื่อเรื่อง (EN): Research to improve water use efficiency of plants highland
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำและปุ๋ยแก่พืชสำคัญบนพื้นที่สูง 6 ชนิดได้แก่ เบบี้ฮ่องเต้ เบบี้คอส คอส พริกหวานสีเขียว มะเขือเทศโครงการหลวง และแตงกวาญี่ปุ่น ได้ดำเนินการวิจัยที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ อ.ฮอด ศูนย์พัฒนาโครงหลวงขุนวาง อ.แม่วาง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ทาเหนือ อ.แม่ออน และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเรา อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน 2559 โดยวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา สำรวจรูปแบบ วิธีการ ปริมาณการให้น้ำและปุ๋ยแก่พืช รวมทั้งแนวทางในการปฏิบัติที่ดีในการจัดการน้ำและปุ๋ยของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในการผลิตพืชผักที่สำคัญของมูลนิธิโครงการหลวง โดยทำการเก็บตัวอย่างพืชแต่ละชนิดที่ปลูกในแต่พื้นที่การผลิตทุกสัปดาห์ บันทึกน้ำหนักสด น้ำหนักแห้งของผักแต่ละชนิดทั้งในส่วนของรากและลำต้นเหนือดิน วิเคราะห์ความเข้มข้นของธาตุอาหาร (N P และ K) ในแต่ละส่วนของพืช เพื่อนำมาประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืช นอกจากนั้นยังทำการบันทึกปริมาณการใช้ปุ๋ยและน้ำในการผลิตพืชผักแต่ละชนิด ตลอดจนข้อมูลอุตุนิยมการเกษตร เพื่อนำมาประเมินความต้องการใช้น้ำของพืชผักแต่ละชนิดที่ทำการศึกษา ผลการศึกษาพบว่า การผลิตผักในโรงเรือนขนาด 180 ตารางเมตร ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ เบบี้ฮ่องเต้ ต้องการธาตุอาหารไนโตรเจน 0.88-1.29 กิโลกรัม/โรงเรือน ฟอสฟอรัส (P2O5) 0.20-0.23 กิโลกรัม/โรงเรือน และโพแทสเซียม (K2O) 2.33-2.40 กิโลกรัม/โรงเรือน คอสต้องการไนโตรเจน 0.90-1.66 กิโลกรัม/โรงเรือน ฟอสฟอรัส (P2O5) 0.17-0.34 กิโลกรัม/โรงเรือน และ โพแทสเซียม (K2O) 1.65-3.19 กิโลกรัม/โรงเรือน สำหรับเบบี้คอสต้องการไนโตรเจน 0.34-0.36 กิโลกรัม/โรงเรือน ฟอสฟอรัส (P2O5) 0.06-0.07 กิโลกรัม/โรงเรือน และโพแทสเซียม (K2O) 0.61-0.65 กิโลกรัม/โรงเรือน สำหรับการผลิตผักของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง มะเขือเทศโครงการหลวง ต้องการไนโตรเจน 5.95 กรัม/ต้น ฟอสฟอรัส (P2O5) 2.53 กรัม/ต้น และโพแทสเซียม (K2O) 10.54 กรัม/ต้น ในขณะที่พริกหวานสีเขียวต้องการไนโตรเจน 2.39 กรัม/ต้น ฟอสฟอรัส (P2O5) 0.48 กรัม/ต้น และโพแทสเซียม (K2O) 3.19 กรัม/ต้น ส่วนการปลูกแตงกวาญี่ปุ่น ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ทาเหนือ ซึ่งเป็นการปลูกในวัสดุปลูก แตงกวาญี่ปุ่นต้องการไนโตรเจน 4.48 กรัม/ต้น ฟอสฟอรัส (P2O5) 1.88 กรัม/ต้น และโพแทสเซียม (K2O) 8.07 กรัม/ต้น ในขณะที่เกษตรกรให้ปุ๋ยไนโตรเจนสำหรับ เบบี้ฮ่องเต้ 2.92 - 3.51 กิโลกรัม/โรงเรือน ปุ๋ยฟอสฟอรัส (P2O5) 1.10 - 1.32 กิโลกรัม/โรงเรือน และปุ๋ยโพแทสเซียม (K2O) 2.44 - 2.93 กิโลกรัม/โรงเรือน, เบบี้คอส ให้ปุ๋ยไนโตรเจน 4.40 - 4.95 กิโลกรัม/โรงเรือน, ปุ๋ยฟอสฟอรัส (P2O5) 1.66 - 1.86 กิโลกรัม/โรงเรือน และปุ๋ยโพแทสเซียม (K2O) 3.68 - 4.12 กิโลกรัม/โรงเรือน, คอส ให้ปุ๋ยไนโตรเจน 4.32 - 4.94 กิโลกรัม/โรงเรือน ปุ๋ยฟอสฟอรัส (P2O5) 1.62 - 1.86 กิโลกรัม/โรงเรือน และปุ๋ยโพแทสเซียม (K2O) 3.60 - 4.12 กิโลกรัม/โรงเรือน สำหรับการผลิตพริกหวานสีเขียว และมะเขือเทศโครงการหลวง ที่ปลูกบนดินในโรงเรือนของเกษตรกร ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง เกษตรกรใส่ปุ๋ย ไนโตรเจน 11.33 กรัม/ต้น ปุ๋ยฟอสฟอรัส 9.86 กรัม P2O5/ต้น และปุ๋ยโพแทสเซียม 9.86 กรัม K2O/ต้น สำหรับการปลูกพริกหวาน และใส่ปุ๋ยไนโตรเจน 17.08 กรัม/ต้น ปุ๋ยฟอสฟอรัส 14.86 กรัม P2O5/ต้น และปุ๋ยโพแทสเซียม 14.86 กรัม K2O/ต้น สำหรับการปลูกมะเขือเทศโครงการหลวง ส่วนการปลูกแตงกวาญี่ปุ่นในวัสดุปลูกในโรงเรือน ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ทาเหนือนั้น ใช้ปุ๋ยไนโตรเจน 7.91 กรัม/ต้น ปุ๋ยฟอสฟอรัส 5.56 กรัม P2O5/ต้น และปุ๋ยโพแทสเซียม 13.47 กรัม K2O/ต้น สำหรับปริมาณน้ำที่ใช้ในการผลิตพืชผักที่ปลูกในดินพบว่า เกษตรกรให้น้ำเบบี้ฮ่องเต้เฉลี่ย 3.30-3.83 มิลลิเมตร/วัน ให้น้ำเบบี้คอส เฉลี่ย 2.37-2.54 มิลลิเมตร/วัน และให้น้ำคอส เฉลี่ย 3.11-3.50 มิลลิเมตร/วัน ให้น้ำพริกหวานสีเขียว และมะเขือเทศโครงการหลวง เฉลี่ย 6.03 มิลลิเมตร/วัน สำหรับการปลูกแตงกวาญี่ปุ่น ในโรงเรือนของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ทาเหนือ ซึ่งเป็นการปลูกในระบบสารละลาย มีการให้สารละลายธาตุอาหาร เฉลี่ย 40.7 มิลลิเมตร/วัน ในขณะที่ความต้องการน้ำของเบบี้ฮ่องเต้ ต้องการน้ำเฉลี่ย 3.4-4.7 มิลลิเมตร/วัน เบบี้คอสต้องการน้ำเฉลี่ย 3.2-4.5 มิลลิเมตร/วัน และคอสต้องการ 3.2-4.5 มิลลิเมตร/วัน สำหรับพริกหวานสีเขียวและมะเขือเทศโครงการหลวง ต้องการใช้น้ำเฉลี่ย 3.9 และ 4.5 มิลลิเมตร/วัน ตามลำดับ ในขณะที่แตงกวาญี่ปุ่นต้องการน้ำเฉลี่ย 3.5 มิลลิเมตร/วัน เมื่อพิจารณาต้นทุนการผลิตพบว่า การผลิตผักเบบี้ฮ่องเต้ คอส และเบบี้คอส มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 3,546 4,816 และ 3,756 บาท/โรงเรือน ตามลำดับ ในขณะที่มะเขือเทศโครงการหลวง และพริก มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 24,619 บาท/ไร่ และ 37,696 บาท/ไร่ ตามลำดับ สำหรับการผลิตแตงกวาญี่ปุ่น ในโรงเรือน (2,000 ต้น/โรงเรือน) มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 22,185 บาท/โรงเรือน จากข้อมูลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า พืชผักแต่ละชนิด ต้องการธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ในปริมาณที่น้อยกว่าการใช้ปุ๋ยของเกษตรกร 2-3 เท่า ในขณะที่การจัดการน้ำในการผลิตใกล้เคียงกับความต้องการน้ำของพืช ดังนั้นควรมีการศึกษาอัตราการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมสำหรับการผลิตพืชผักแต่ละชนิดบนพื้นที่สูง เพื่อให้การใช้ปุ๋ยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการลดต้นทุนการผลิตด้านการใช้ปุ๋ย ?
บทคัดย่อ (EN): The study on improvement of water and fertilizer use efficiency for 6 important vegetable crops, pak choi, baby cos, cos, table tomato, green sweet pepper and Japanese cucumber in highland area was carried out at 4 Royal Project Development Centers, Mae Tho, Hot district; Khun Wang, Mae Wang district; Mae Tha Nuea, Mae On district and Tung Rao, Samoeng district, Chiang Mai province during April - September 2016. The aims of this study were to study and survey (1) the methodology of fertilizer and irrigation water use and (2) the best practice of water and fertilizer management from the farmers who successfully produced important vegetable crop of The Royal Project Foundation. Each crop was planted in greenhouse and plant samples were collected weekly. Fresh and dry weights of root and shoot from each plant were recorded and nutrient content (nitrogen, phosphorus and potassium) in plant parts were analyzed for evaluation of crop removal. In addition, amount of fertilizer and irrigation water used in each plant and climatic data were recorded for evaluation of crop water requirement, water and fertilizer use. The results showed that to produce vegetable in 180 m2-greenhouse at Mae Tho Royal Project Development Center, nutrients requirement for pak choi were about 0.88-1.29 kg N/180 m2-greenhouse, 0.20-0.23 kg P2O5/180 m2-greenhouse and 2.33-2.40 kg K2O/180 m2-greenhouse. For cos were about 0.90-1.66 kg N/180 m2-greenhouse, 0.17-0.34 kg P2O5/180 m2-greenhouse and 1.65-3.19 kg K2O/180 m2-greenhouse, while baby cos needed about 0.34-0.36 kg N/180 m2-greenhouse, 0.06-0.07 kg P2O5/180 m2-greenhouse and 0.61-0.65 kg K2O/180 m2-greenhouse. For vegetable production at Khun Wang Royal Project Development Center, nutrients requirements for table tomato were about 5.95 g N/plant, 2.53 g P2O5/plant and 10.54 g K2O/plant. Nutrient requirements for green sweet paper were about 2.39 g N/plant, 0.43 g P2O5/plant and 3.19 g K2O/plant. For Japanese cucumber production at Mae Tha Nuea Royal Project Development Center, about 4.48 g N/plant, 1.88 g P2O5/plant and 8.07 g K2O/plant were needed. However, the amount of fertilizer applied by farmers via fertigation system was higher than nutrient requirement for each crop. For pak choi production, the farmer applied N, P, and K fertilizer about 2.29-3.51 kg N/180 m2-greenhouse, 1.10-1.32 kg P2O5/180 m2-greenhouse and 2.44-2.93 kg K2O/180 m2-greenhouse and 4.32-4.94 kg N/180 m2-greenhouse, 1.62-1.86 kg P2O5/180 m2-greenhouse and 3.60-4.12 kg K2O/180 m2-greenhouse were applied for cos, while 4.40-4.95 kg N/180 m2-greenhouse, 1.66-1.86 kg P2O5/180 m2-greenhouse and 3.68-4.12 kg K2O/180 m2-greenhouse were applied to baby cos production. At Khun Wang Royal Project Development Center, the farmer applied 17.08 g N/plant, 14.86 g P2O5/plant and 14.86 g K2O/plant to table tomato production and 11.33 g N/plant, 9.86 g P2O5/plant and 9.86 g K2O/plant to green sweet pepper production, while production of Japanese cucumber at Mae Tha Nuea Royal Project Development Center, 7.91 g N/plant, 5.56 g P2O5/plant and 13.47 g K2O/plant were applied. For the amount of water supplied to the vegetables grown in soil, we found that the average of water that the famers supplied to pak choi was 3.30-3.83 mm/day, to baby cos 2.37-2.54 mm/day and to cos 3.11- 3.50 mm/day. For green sweet pepper and table tomato, they supplied 6.03 mm/day, while for Japanese cucumbers planted under substrate culture system in the greenhouse at Mae-tha Nuea Royal Project, we found that the average of nutrient solution was applied by 40.7 mm/day. However, the estimated crop water requirement of pak choi, baby cos and cos was 3.4-4.7, 3.2-4.5 and 3.2-4.5 mm/day, respectively. For green sweet pepper and table tomato, the average of water requirement were 3.9 and 4.5 mm/day, respectively, while for the average of water requirement of Japanese cucumber was 3.5 mm/day. In addition we found that the production cost of pak choi, cos and baby cost were 3,546, 4,816, 3,756 Baht/180 m2-greenhousee respectively. Production of table tomato and green sweet pepper cost 24,619 and 37,696 Baht/rai, respectively. For Japanese cucumber planted under substrate system, the cost was 22,185 Baht/2,000 plants-greenhouse. The results suggested that nutrients or fertilizers requirement for each crop was 2-3 times lower than applied rate by the common practice of farmers, whereas the water supplied to crops quite met the crop water requirement. Therefore, the appropriate rate of fertilizer application for each crop production should be evaluated for fertilizer management efficiency and reduction of production cost.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: พื้นที่สูง
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำและปุ๋ยแก่พืชสำคัญบนพื้นที่สูง
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
30 กันยายน 2559
โครงการวิจัยเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการให้น้ำและปุ๋ยแบบประหยัดแก่พืชสำคัญบนพื้นที่สูง โปรแกรมฐานข้อมูลแนะนำการใช้ปุ๋ย dbFRec for DOS การวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมการข้าวกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ระยะที่ 2 ฐานข้อมูลจีโนไทป์ของเชื้อพันธุกรรมพืชตระกูลแตง ความสัมพันธ์ระหว่างดิน น้ำ และพืช ชุดโครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของพืชไร่บนพื้นที่สูง โครงการย่อยที่ 1 โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของพืชไร่บนพื้นที่สูง โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของพืชไร่บนพื้นที่สูง โครงการวิจัยและพัฒนาสีย้อมธรรมชาติพร้อมใช้จากพืชให้สีบนพื้นที่สูง โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตสุกรบนพื้นที่สูง โครงการวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตของกุหลาบบนพื้นที่สูง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก