สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงต่อพฤติกรรมการสืบพันธุ์ในหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะสมรรถภาพทางเพศเสื่อมจากการทำให้เกิดความเครียดโดยการจำกัดการเคลื่อนไหว
กรกนก อิงคนินันท์ - มหาวิทยาลัยนเรศวร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงต่อพฤติกรรมการสืบพันธุ์ในหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะสมรรถภาพทางเพศเสื่อมจากการทำให้เกิดความเครียดโดยการจำกัดการเคลื่อนไหว
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of derris scandens (Roxb.) Benth. extract on mating behavior of male rat induced erectile dysfunction by chronic immobilization-induced stress
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กรกนก อิงคนินันท์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Kornkanok Ingkaninan
บทคัดย่อ: ภาวะสมรรถภาพทางเพศเสื่อมในเพศชายเป็นภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวหรือแข็งตัวได้ไม่นานระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมักพบความเกี่ยวข้องกับภาวะทางจิตใจและโรคต่าง ๆ โดยเป็นภาวะที่พบได้เกือบ 50% ในผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป และมีแนวโน้มที่จะพบเพิ่มขึ้น ปัจจุบันยาชนิดรับประทานที่ใช้รักษามีเพียงกลุ่มเดียวคือ ยาต้านเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 ตัวอย่างเช่น sildenafil, vardenafil, tadalafil และ avanafil ซึ่งนอกจากจะเป็นยาที่มีราคาสูงแล้วยังพบผลข้างเคียงในผู้ใช้ยาอีกด้วย จากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้พบว่า สารสกัด 95% เอทานอลของเถาวัลย์เปรียงและสารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากเถาวัลย์เปรียงมีฤทธิ์ต้านเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 ได้ในเกณฑ์ดี คือมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งการออกฤทธิ์ของเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 ร้อยละ 50 ที่ 7.66 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร และจากการทดสอบฤทธิ์ต้านเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 ของสารไอโซฟลาโวนและสารคูมารินที่แยกได้จากเถาวัลย์เปรียงจำนวน 8 ชนิด พบว่า สาร Osajin (8), 4’,5,7 – trihydroxybiprenylisoflavone (4) และ derrisisoflavone A (2) มีฤทธิ์ต้านเอนไซม์เอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 ได้ในระดับสูง โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งการออกฤทธิ์ของเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 ร้อยละ 50 ที่ 4, 8 และ 9 ไมโครโมลาร์ ตามลำดับ นอกจากนี้ การศึกษาความจำเพาะของการออกฤทธิ์ต้านเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 เปรียบเทียบกับเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรสอื่นได้แก่ เอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 1 และ เอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 6 พบว่า สารทั้ง 3 ชนิดนี้มีฤทธิ์จำเพาะต่อการยับยั้งฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 สูงเมื่อเทียบกับฟอสโฟไดเอสเทอเรส 1 แต่มีความจำเพาะอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 6 วิธีลิควิดโครมาโทกราฟี แบบอิเล็กโตรสเปรย์ แมสสเปกโทรเมทรี ชนิดควาดดรูโพล (LC-QTOF-MS) ได้ถูกพัฒนาขึ้น สำหรับการควบคุมคุณภาพและการวิเคราะห์เชิงปริมาณของสารสำคัญในเถาวัลย์เปรียง โดยระดับต่ำสุดที่สามารถวิเคราะห์สารทดสอบทั้ง 8 ชนิดได้ (Limit of quantitation) อยู่ในช่วง 0.1 – 5 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ค่าพารามิเตอร์ของการทดสอบ ได้แก่ ค่าความเที่ยงตรง (Accuracy) และค่าความแม่นยำ (Precision) อยู่ในเกณฑ์การยอมรับได้ แสดงว่าวิธีทดสอบดังกล่าวมีความเหมาะสมสำหรับการควบคุมคุณภาพและวิเคราะห์หาปริมาณสารสำคัญในเถาวัลย์เปรียง ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่าในสารสกัดเถาวัลย์เปรียงพบสารทดสอบทั้ง 8 ชนิด โดยมีสาร derrisisoflavone A (2) และสาร lupalbigenin (3) เป็นองค์ประกอบหลัก จากการทดสอบฤทธิ์ของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงต่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศในหนูแรทเพศผู้สายพันธุ์ Wistar ที่ได้รับความเครียดจากการจำกัดการเคลื่อนไหว พบว่าการได้รับสารสกัดเถาวัลย์เปรียงขนาด 200, 400 และ 800 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน ติดต่อวัน 14 วัน มีผลฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ โดยลดระยะเวลาการขึ้นคร่อมหนูเพศเมีย (Mount latency) และระยะเวลาการสอดใส่อวัยวะเพศของหนูเพศผู้ (Intromission latency) นอกจากนี้สารสกัดเถาวัลย์เปรียงยังมีฤทธิ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพของการแข็งตัวของอวัยวะเพศของหนูแรทโดยสามารถเพิ่มจำนวนของการสอดใส่ (Intromission number) อีกด้วย อย่างไรก็ตามฤทธิ์ของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงต่อสารสื่อประสาท ได้แก่ Norepinephrine, Dopamine และ Serotonin รวมถึงฮอร์โมนเพศ คือ Testosterone นั้นยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติม การศึกษาวิจัยนี้รายงานฤทธิ์ต้านเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรสและฤทธิ์ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศในหนูแรทเพศผู้ของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงเป็นครั้งแรก วิธีลิควิดโครมาโทกราฟี แบบอิเล็กโตรสเปรย์ แมสสเปกโทรเมทรี ชนิดควอดดรูโพล ได้ถูกพัฒนาขึ้นและมีความเหมาะสมสำหรับใช้ในการวิเคราะห์เชิงปริมาณและการควบคุมคุณภาพของสารสกัดเถาวัลย์เปรียง
บทคัดย่อ (EN): Abstract is in the attached file.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/handle/123456789/2524
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยนเรศวร
คำสำคัญ: เถาวัลย์เปรียง
คำสำคัญ (EN): chronic immobilization-induced stress
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยนเรศวร
รายละเอียด: 1) เพื่อศึกษาผลการออกฤทธิ์ของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงในการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศเสื่อม รวมถึงผลต่อพฤติกรรมการสืบพันธุ์ในหนูที่เหนี่ยวนำให้เป็นเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หลังจากที่ได้รับสารสกัดทุกวันติดต่อกันเป็นเวลา 14 วัน 2) เพื่อศึกษาผลของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงต่อแรงดันในแกนองคชาติของหนู, การเปลี่ยนแปลงของระดับเอนไซม์ PDE5, ระดับการแสดงออกของโปรตีน PDE5 ในเนื้อเยื่อองคชาติและระดับของสารสื่อประสาทในสมอง รวมทั้งจุลกายวิภาคของเซลล์ในอัณฑะในหนูที่เหนี่ยวนำให้เป็นเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงต่อพฤติกรรมการสืบพันธุ์ในหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะสมรรถภาพทางเพศเสื่อมจากการทำให้เกิดความเครียดโดยการจำกัดการเคลื่อนไหว
มหาวิทยาลัยนเรศวร
8 ตุลาคม 2561
ประโยชน์ของมะละกอต่อการเรียนรู้และความจำในหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะอ้วนด้วยอาหารไขมันสูง ผลของสารสกัดมาตรฐานพรมมิและส่วนประกอบในสารสกัดต่อการยับยั้งหรือเหนี่ยวนำการทำงานของเอนไซม์ไซโตโครมตับของมนุษย์ การแสดงออกของโปรตีน Glial fibrillary acidic protein (GFAP) ในตับอ่อนและไตของหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดโรคเบาหวาน การวิจัยและพัฒนาสารสกัดจากว่านอึ่งเพื่อใช้ประโยชน์ในอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ระยะ 3 แนวทางการจัดการความเครียดในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ สมรรถภาพการสืบพันธุ์ของพ่อสุกรพันธุ์แท้และลูกผสม โครงการวิจัยสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ เรื่อง รูปลักษณ์จากความเครียดสู่ความงาม ผลของสารสกัดจากรากกระพังโหมต่อการเกิดเจลซูริมิจากปลาชะโด การเคลื่อนไหวและการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสในลำไส้เล็กของหนูที่ได้รับการป้อนสารสกัดขิงหรือสารสำคัญ (6-gingerol) อิทธิพลของวิธีการหย่านมแบบทางเลือกต่อพฤติกรรมของลูกกระบือปลัก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก