สืบค้นงานวิจัย
การโคลนยีนของแอนติเจนที่ได้จากการคัดหลั่งและขับออกจากพยาธิใบไม้ตับชนิด Opisthorchis viverrini
Jiraporn Ruangsittichai - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การโคลนยีนของแอนติเจนที่ได้จากการคัดหลั่งและขับออกจากพยาธิใบไม้ตับชนิด Opisthorchis viverrini
ชื่อเรื่อง (EN): Molecular cloning of excretory-secretory antigens encoding genes from the liver fluke, Opisthorchis viverrini
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Jiraporn Ruangsittichai
บทคัดย่อ: การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาโปรตีนแอนติเจนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะจากสารคัดหลั่ง และสารที่ขับออกภายนอกพยาธิ Opisthorchis viverrini เพื่อนำมาพัฒนาการวินิจฉัยโรคติดเชื้อพยาธิ ชนิดนี้ โดยใช้เทคนิคทางด้านโมเลกุลและวิทยาภูมิคุ้มกัน โดยการค้นหายีนด้วยวิธี immunoscreening ของห้องสมุด cDNA จากระยะตัวเต็มวัยของ O. viverrini, ศึกษาลักษณะ RNA ของยีนด้วยวิธี Northern blot analysis, การกระจายของ RNA ในพยาธิด้วยเทคนิค In situ hybridization และ การแสดงออกของยีนในระยะการเจริญช่วงต่าง ๆ ของพยาธิด้วยวิธี RT-PCR จากนั้นผลิตรีคอมบิแนนท์ โปรตีนโดยใช้ระบบการแสดงออกในแบคทีเรีย รวมทั้งประเมินความสามารถในการเป็นแอนติเจนของรี คอมบิแนนท์โปรตีนในการวินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับจากการติดเชื้อพยาธิ O. viverrini ยีนที่แยกออกมาได้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ยีนของโปรตีนสร้างเปลือกไข่ (OvESP) ชึ่ง ประกอบด้วย 689 คู่เบส และแปลรหัสได้ 187 กรดอะมิโน ที่มีน้ำหนักโมเลกุล 18.6 กิโลดาลตัน ลำดับ mRNA มีความยาวประมาณ 800 นิวคลีโอไทด์ และกระจายอยู่เฉพาะส่วนของ vitelline cells จาก การศึกษาด้วยวิธีRT-PCR พบว่า OvESP มีการแสดงออกในตัวอ่อนตั้งแต่ระยะ 2 สัปดาห์ จนถึงระยะ ตัวเต็มวัย และผลการทดลองด้วยวิธี Immunolocalization พบว่า OvESP กระจายอยู่ทั้งภายในและ ภายนอกของเปลือกไข่ขณะที่อยู่ในท่อนำไข่ (uterus) ของพยาธิ จากการวิเคราะห์ด้วยวิธี Western blots พบว่า รีคอมบิแนนท์โปรตีนของ OvESP (rOvESP) สามารถทำปฏิกิริยาทางวิทยาภูมิคุ้มกันกับ แอนติบอดีจำเพาะในซีรั่มของคน และสัตว์ทดลอง (แฮมสเตอร์)ที่ติดเชื้อพยาธิได้ดี โดยมีปฏิกิริยาข้าม ชนิดเล็กน้อยกับซีรั่มของหนูทดลองที่ติดเชื้อพยาธิชนิด Schistosoma mansoni, S. mekongi หรือ Fasciola gigantica และจากผลการประเมินความสามารถในการเป็นแอนติเจนของรีคอมบิแนนท์ โปรตีนในการวินิจฉัยโรค โดย ELISA พบว่า ค่าความไวของ rOvESP ต่อซีรั่มของผู้ที่ติดเชื้อพยาธิ O.viverrini (82%) สูงกว่า ค่าความไวของ ES antigen (48%) ในขณะที่ค่าความจำเพาะของ แอนติเจนทั้งสองชนิดแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย (97% ใน rOvESP และ 91% ใน ES antigen) ซึ่ง สามารถสรุปในเบื้องต้นได้ว่า rOvESP มีศักยภาพที่จะนำใช้ในเป็นแอนติเจนเพื่อการพัฒนาชุดตรวจ วินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับ (opisthorchiasis) ด้วยวิธีทางวิทยาภูมิคุ้มกัน
บทคัดย่อ (EN): The major aim of this study was to find novel proteins among the excretorysecretory (ES) antigens of Opisthorchis viverrini and to develop an immunodiagnosis of opisthorchiasis based on molecular and immunological techniques. Therefore, ES antigen encoding cDNAs were isolated by immunoscreening from an adult stage O. viverrini cDNA library and further molecular characterization by Northern blot analysis, RNA in situ hybridization and RT-PCR. In addition, recombinant protein was produced and analyzed for its immunogenic potential by ELISA. In this study, a cDNA encoding an eggshell protein (OvESP) was isolated by immunoscreening of an adult stage cDNA library using an antiserum against the parasite's ES antigens. The OvESP cDNA had a size of 689 base pairs, encoding a protein of 187 amino acid residues with a calculated molecular mass of 18.6 kDa. Northern blot hybridization of total RNA, adult stage, revealed a prominent transcript with a size of 800 nucleotides. The OvESP mRNA was found by RNA in situ hybridization to be only present in the vitelline cells. OvESP transcripts were already detected in 2-week-old juveniles and adult stage by RT-PCR. The result of immunolocalization showed that native OvESP was presented on the inner and outer shell of intrauterine eggs. Moreover, Western blot analysis revealed that recombinant OvESP (rOvESP) strongly reacted with the sera from O. viverrini infected humans and hamsters while weak cross-reactivity was found with the sera of mice infected with other trematodes (Schistosoma mansoni, S. mekongi, and Fasciola gigantica). A comparative evaluation of rOvESP and ES antigens as diagnostic tools for human opisthorchiasis by ELISA showed a sensitivity of 82% for rOvESP versus 48% for the ES antigen. The obtained specificities differed less with 97% for rOvESP and 91% for the ES antigens. The results clearly demonstrated that rOvESP has diagnostic potential for immunodiagnosis of opisthorchiasis.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3370&obj_id=4888
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Reverse Transcriptase Polymerase Chain Reaction
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาโปรตีนแอนติเจนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะจากสารคัดหลั่ง และสารที่ขับออกภายนอกพยาธิ Opisthorchis viverrini เพื่อนำมาพัฒนาการวินิจฉัยโรคติดเชื้อพยาธิ ชนิดนี้ โดยใช้เทคนิคทางด้านโมเลกุลและวิทยาภูมิคุ้มกัน โดยการค้นหายีนด้วยวิธี immunoscreening ของห้องสมุด cDNA จากระยะตัวเต็มวัยของ O. viverrini, ศึกษาลักษณะ RNA ของยีนด้วยวิธี Northern blot analysis, การกระจายของ RNA ในพยาธิด้วยเทคนิค In situ hybridization และ การแสดงออกของยีนในระยะการเจริญช่วงต่าง ๆ ของพยาธิด้วยวิธี RT-PCR จากนั้นผลิตรีคอมบิแนนท์ โปรตีนโดยใช้ระบบการแสดงออกในแบคทีเรีย รวมทั้งประเมินความสามารถในการเป็นแอนติเจนของรี คอมบิแนนท์โปรตีนในการวินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับจากการติดเชื้อพยาธิ O. viverrini ยีนที่แยกออกมาได้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ยีนของโปรตีนสร้างเปลือกไข่ (OvESP) ชึ่ง ประกอบด้วย 689 คู่เบส และแปลรหัสได้ 187 กรดอะมิโน ที่มีน้ำหนักโมเลกุล 18.6 กิโลดาลตัน ลำดับ mRNA มีความยาวประมาณ 800 นิวคลีโอไทด์ และกระจายอยู่เฉพาะส่วนของ vitelline cells จาก การศึกษาด้วยวิธีRT-PCR พบว่า OvESP มีการแสดงออกในตัวอ่อนตั้งแต่ระยะ 2 สัปดาห์ จนถึงระยะ ตัวเต็มวัย และผลการทดลองด้วยวิธี Immunolocalization พบว่า OvESP กระจายอยู่ทั้งภายในและ ภายนอกของเปลือกไข่ขณะที่อยู่ในท่อนำไข่ (uterus) ของพยาธิ จากการวิเคราะห์ด้วยวิธี Western blots พบว่า รีคอมบิแนนท์โปรตีนของ OvESP (rOvESP) สามารถทำปฏิกิริยาทางวิทยาภูมิคุ้มกันกับ แอนติบอดีจำเพาะในซีรั่มของคน และสัตว์ทดลอง (แฮมสเตอร์)ที่ติดเชื้อพยาธิได้ดี โดยมีปฏิกิริยาข้าม ชนิดเล็กน้อยกับซีรั่มของหนูทดลองที่ติดเชื้อพยาธิชนิด Schistosoma mansoni, S. mekongi หรือ Fasciola gigantica และจากผลการประเมินความสามารถในการเป็นแอนติเจนของรีคอมบิแนนท์ โปรตีนในการวินิจฉัยโรค โดย ELISA พบว่า ค่าความไวของ rOvESP ต่อซีรั่มของผู้ที่ติดเชื้อพยาธิ O.viverrini (82%) สูงกว่า ค่าความไวของ ES antigen (48%) ในขณะที่ค่าความจำเพาะของ แอนติเจนทั้งสองชนิดแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย (97% ใน rOvESP และ 91% ใน ES antigen) ซึ่ง สามารถสรุปในเบื้องต้นได้ว่า rOvESP มีศักยภาพที่จะนำใช้ในเป็นแอนติเจนเพื่อการพัฒนาชุดตรวจ วินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับ (opisthorchiasis) ด้วยวิธีทางวิทยาภูมิคุ้มกัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การโคลนยีนของแอนติเจนที่ได้จากการคัดหลั่งและขับออกจากพยาธิใบไม้ตับชนิด Opisthorchis viverrini
Jiraporn Ruangsittichai
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
การวิเคราะห์แอนติเจนชนิดสกัดอย่างหยาบและชนิดสารคัดหลั่งจากพยาธิหัวใจสุนัขระยะตัวเต็มวัยต่อแอนติบอดีต่อโรค การโคลนยีนจากพยาธิใบไม้ในตับชนิด Opisthorchis Viverrini และการวิเคราะห์โปรตีนที่ได้จากยีนต้นแบบ การศึกษาชนิดและปริมาณของน้ำตาลและกรดอินทรีย์บางชนิดในสารที่หลั่งจากราก (root exudate) ของข้าว 5 พันธุ์ ชีวประวัติและการตรวจสอบเชิงโมเลกุลของพยาธิใบไม้ตับขนาดใหญ่ Fasciola gigantica ในจังหวัดเชียงใหม่ การเปรียบเทียบประโยชน์ทางคลินิกและเศรษฐศาสตร์ก่อนและหลังการแนะนำการให้ยาต้านจุลชีพชนิดฉีดตามด้วยชนิดรับประทาน การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความแปรผันของยีน CTLA-4. TAB2 และโรคเบาหวานชนิดชนิดที่ 1 ในประชากรไทย การเปรียบเทียบดัชนีชี้วัด 4 ชนิดในการประเมินกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรัง ผลของการใช้สารคัดหลั่งจากต่อมลูกหมากที่ผ่านการเก็บรักษาด้วยความเย็นเป็นน้ำยาชะล้างและตัวทำละลาย การจำแนกโปรตีนตอบรับชนิดใหม่ต่อไวรัสเด็งกี่สายพันธุ์ที่ 2 บนผิวเซลล์เพาะเลี้ยงจากตับ พฤติกรรมของโลหะหนักบางชนิดในแม่น้ำบางปะกง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก